ผมเคยเขียนไว้แล้วว่าการจัดการวิชาการแบบเล่นพวก หรือใช้ความสัมพันธ์แบบพวกพ้อง หรืออุปถัมภ์ ต่างตอบแทน คือหนทางสู่ mediocrity ไม่ใช่สู่ excellence ทางวิชาการ อ่านได้ที่นี่
และผมก็เคยเสนอไว้ว่า โครงการมหาวิทยาลัยวิจัย ใช้เงินมาก ต้องจัดการให้คุ้มค่าเงิน อ่านได้ที่นี่
บัดนี้ มีเสียงเล่าลือว่า มีใบสั่งไปยังมหาวิทยาลัยที่ได้รับคัดเลือกเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติบางแห่ง ให้สนับสนุนโครงการนั้นโครงการนี้ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมทางวิชาการ
ทำให้สงสัยว่าเป็นการสร้างโครงการมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง บนความย่อยยับของวงการอุดมศึกษา ที่มีการเมืองล้วงลูกได้ โดยเป็นการลัดขั้นตอนของการตรวจสอบคุณภาพทางวิชาการ อันเป็นกลไกของ excellence
หากเกิดเรื่องนี้จริง เป็นการทำลายชาติทางหนึ่ง คือทำลายวัฒนธรรม academic excellence เอาวัฒนธรรมเล่นพวกเข้ามาในมหาวิทยาลัย และทำลาย autonomy ของมหาวิทยาลัย
ผมถามผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ใกล้ชิดนักการเมืองว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นไหม ท่านไม่ทราบ แต่บอกผมว่าถ้าผมเอ่ยกับนักการเมืองตรงๆ เขาก็จะตอบว่าไม่ได้ทำ แม้ว่าจริงๆ แล้ว เขาทำ ผมว่า ถ้าอย่างนั้นนักการเมืองคนนั้นก็ไม่มีความสัตย์น่ะซี ท่านมองผมเหมือนเห็นสัตว์ประหลาดจากต่างดาว
ผมขอเสนอต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติทั้ง ๙ แห่งให้ไม่เอาใจใส่ใบสั่งหรือคำขอนี้ และปฏิบัติไปตามแผนงานที่จะก่อความเข้มแข็งทางวิชาการจริงๆ โดยน่าจะทำงานบนความเชื่อว่าผู้มีอำนาจเป็นผู้ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้ปฏิบัติกิจกรรมแอบแฝงเล่นพวกตามข่าวเล่าลือ น่าจะมีผู้แอบอ้างมากกว่า
แต่หากเรื่องนี้เป็นความจริง ผมก็ไม่เหมาะที่จะอยู่ในคณะกรรมการที่กำกับโครงการนี้
วิจารณ์ พานิช
๒ ก.ย. ๕๒
ไม่มีความเห็น