ถอดบทเรียน ๓ กันยายน ๒๕๕๒ ........วันสอนกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ด้วยเหตุที่ อ.แหวว ติดงานด่วนต้องไปศาลปกครองเพื่อเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในคดีของน้องหม่อง (ด.ช.หม่อง ทองดี) ที่ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อศาลปกครองฐานปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรจึงต้องไปศาลเพื่อเตรียมตัวเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญเผื่อว่าศาลจะเรียกมาไต่สวนฉุกเฉิน แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์ที่ธรรมศาสตร์ อ.แหวว จึงมอบหมายให้ฉันไปช่วยสอนวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลแทนอาจารย์ โดยอาจารย์ได้เตรียมพาวเวอร์พอยท์เอกสารการสอนในประเด็นเกี่ยวกับการจำแนกบุคคลในกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเน้นการจำแนกบุคคลว่าคนใดเป็นคนสัญชาติไทย – คนต่างด้าว เป็นคนมีรัฐ- คนไร้รัฐ คนมีสัญชาติ- คนไร้สัญชาติ แล้วอาจารย์ก็ย้ำว่าให้ชวนนักศึกษาอ่านกรณีศึกษาที่ อ.โอ๊ต เตรียมไว้
แม้ว่าฉันจะเคยเป็นผู้ช่วยสอนในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลในระดับ ป.ตรี ให้กับ อ.แหวว มาหลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้ดูเหมือนจะหนักหนากว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา ทั้งจำนวนนักศึกษาที่มากมายถึง ๔๐๐ กว่าคน ทั้งเวลาบรรยายที่ต้องใช้เวลาเกือบ ๓ ชั่วโมง (เพราะปกติเวลาช่วยสอนก็ปกติก็ใช้ประมาณ ครึ่ง-๑ ชั่วโมง)
วันนั้น ฉันเดินทางไปพร้อมกับผู้ช่วยสอนอีกสอนคน เราไปถึงรังสิตเกือบบ่ายโมง หลังจากแวะไปรับเอกสารที่คณะนิติศาสตร์แล้วรถตู้ก็มาส่งเราที่อาคารเรียนคณะแพทย์ เราไปถึงห้องเรียนเวลาประมาณ ๑๓.๒๕ น. มีนักศึกษานั่งอยู่ในห้องประมาณครึ่งห้องเรียน
แวบแรกตอนนั้น ฉันกังวลเป็นอย่างยิ่งว่าจะพูดให้นักศึกษาฟังได้หรือไม่ เพราะฉันไม่เคยพูดต่อหน้าคนมากมายเท่านี้มาก่อน ดีว่ามี อ.โอ๊ต และ อ.ตั้ม เข้ามาช่วยเตรียมการสอน จึงช่วยคลายความเครียดและความกังวลไปได้บ้าง
อ.ตั้ม ช่วยเตรียมพาวเวอร์พอยท์ ในขณะที่ อ.โอ๊ต ช่วยแนะนำเอกสารประกอบการสอนที่นำมาแจกจำนวน ๙ ชุด ได้แก่
๑. ชีทคนต่างด้าว หน้า ๗ ของวารสารผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
๒. ชีทการจำแนกกฎหมายที่มีผลกำหนดความเป็นไทยโดยสัญชาติของธรรมดา โดยรศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๑
๓. ชีทศาลไทยใน พ.ศ.๒๕๑๗ และนายยี่เกียม : การรับรองการเกิดในประเทศไทยสำหรับบุคคลที่เกิดก่อน พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๔๙๙ : คำพิพากษาศึกษาในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร วนจันทร์ที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
๔. ชีทกรณีนางสาวศรีนวล เสาร์คำนวล : คนไร้สัญชาติ ซึ่งอ้างว่าเกิดในประเทศไทย แต่ถูกบันทึกในทะเบียนราษฎรไทยว่า เกิดนอกประเทศไทย โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตราสายสุนทร เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒
๕. เรื่องของนายอเล็กซันเดอร์ ไวท์ : กรณีศึกษาราษฎรไทยซึ่งมีสถานะเป็นคนต่างด้าวซึ่งมีรัฐเจ้าของสัญชาติ1 โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เมื่อวันพุธที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
๖. นางสาวหฤทัย : คนต่างด้าวที่เคยมีสัญชาติไทย โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เมื่อวันอังคารที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
๗. เด็กหญิงสือบูลา เซกองอากู่ : กรณีศึกษาเกี่ยวกับคนไร้สัญชาติที่เกิดในประเทศไทย และได้รับการยอมรับว่าเป็นราษฎรไทย โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร วันพุธที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
๘. บริษัท เมียวดีสยาม จำกัด : กรณีศึกษาสิทธิในการประกอบธุรกิจในประเทศพม่าของนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ที่มีองค์ประกอบไทยเข้มข้น โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตราสายสุนทร วันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐
๙. กรณีศึกษานายฮิโรชิ : จากความเป็นคนต่างด้าว สู่ความเป็นคนสัญชาติไทย
หลังจาก อ.โอ๊ต แนะนำเอกสารเสร็จแล้ว ฉันก็เริ่มแนะนำตัว และทีมงานอันประกอบด้วย อ.โอ๊ต และ อ.ตั้ม แต่..เนื่องจากนักศึกษาคุยแลกเปลี่ยนระหว่างกันทำให้เสียงค่อนข้างดัง ฉันรอให้นักศึกษาเบาเสียงลงหลังจากนั้นจึงกล่าวแนะนำตัว และบอกนักศึกษาถึงเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ทำให้ อ.แหวว ไม่สามารถมาสอนได้ด้วยตัวเอง และบอกถึงประเด็นที่ได้รับมอบหมายให้มาช่วยสอน และได้บอกว่าฉันไม่บังคับให้นักศึกษาต้องนั่งฟัง หากนักศึกษาไม่อยากฟังฉันก็สามารถออกจากห้องบรรยายได้ (ตรงนี้รึปล่าว ที่ทำให้นักศึกษาบางท่านเข้าใจว่าเป็นการไล่ออกจากห้องบรรยาย ฉันเองก็ไม่แน่ใจนักว่าประโยคจริงๆนั้นเป็นอย่างไร หากประโยคเหล่านี้ทำให้นักศึกษาเข้าใจว่าเป็นการไล่ออกจากห้องบรรยายก็ต้องอภัยด้วย) ต่อจากนั้น ฉันก็เริ่มนำเข้าสู่เรื่องที่จะกล่าวในวันนี้โดยเริ่มจากเรื่องของน้องหม่อง ที่เป็นคนต่างด้าวในทะเบียนราษฎรไทย แล้วจึงเริ่มบรรยายเกี่ยวกับการจำแนกบุคคลธรรมดาโดยกฎหมายทะเบียนราษฎร กฎหมายสัญชาติ และกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ตามเค้าโครงในพาวเวอร์พอยท์ หลังจากนั้นก็ชวนนักศึกษาอ่านกรณีศึกษาเริ่มจากกรณีนายยี่เกียม กรณีนายอเล็กซันเดอร์ ไวท์ ก่อนพักเบรคได้แจ้งนักศึกษาว่าวันนี้จะมีการเรียนการสอนเพียง ๓ ชั่วโมง เมื่อนักศึกษาได้ฟังก็มีเสียงบอกว่าเพิ่งทราบ ไม่มีใครแจ้งให้ทราบเลย และบอกว่ากลัวว่าจะเรียนในส่วนเนื้อหาที่เหลือไม่ทัน และขอให้สอนหลักกฎหมายเพิ่ม ตอนนั้นฉันเองก็ตั้งตัวไม่ทัน เพราะไม่เคยเจอสภาวะเช่นนี้มาก่อน จึงอธิบายให้นักศึกษาฟังว่าได้รับมอบหมายมาเพียงเท่านี้ และได้รับมอบหมายให้มาอ่านกรณีศึกษาร่วมกับนักศึกษาเท่านั้น หลังจากอธิบายเสร็จก็เบรคประมาณ ๑๕ นาที
หลังจากพักเบรคแล้ว ก็กลับมาอ่านกรณีศึกษานางสาวศรีนวล แล้วชวนนักศึกษาดู มาตรา ๓๖ และ ๓๘ แห่ง พรบ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๑ เพื่อชี้ให้นักศึกษาเห็นความแตกต่างระหว่างคนต่างด้าวที่มีสิทธิอาศัยถาวรที่จะได้รับการบันทึกใน ท.ร.๑๔ คนต่างด้าวที่มีสิทธิอาศัยชั่วคราว ที่ได้รับการบันทึกใน ท.ร.๑๓ คนต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้มีสิทธิอาศัยชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ที่ได้รับการบันทึกใน ท.ร.๓๘/๑ และคนต่างด้าวที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ที่ได้รับการบันทึกใน ท.ร.๓๘ก และทบทวนเกี่ยวกับ คนไร้รัฐ- คนไร้สัญชาติ อีกครั้ง ก่อนที่จะหมดชั่วโมงเรียน
บทเรียนที่ฉันได้รับจากวันนั้น :
ฉันควรเตรียมตัวมาให้ดีกว่านี้ ควรเตรียมตัวมาให้ดีมากพอที่จะถ่ายทอดความรู้ให้นักศึกษาที่กระตือรือร้น และใฝ้รู้
ฉันควรแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีกว่านี้ ไม่ควรร้อนรน ควรมีสติอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้จัดการกับปัญหาเฉพาะหน้า
-----------------
ปล.
อ.แหวว คะขออภัยด้วยนะคะที่หนูทำให้อาจารย์ต้องกังวลใจ
ขอบคุณ อ.โอ๊ต อ.ตั้ม ขอบคุณที่ยอมอดอาหารเที่ยงกระโดดขึ้นรถมาพร้อมกัน ขขอบคุณที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันทั้งวัน ขอบคุณนักศึกษาที่นั่งฟังจนจบ
มนุษย์ไม่ว่ามีอายุมากหรือน้อย
ต้องเรียนรู้ค่ะ
เราต้องถอดบทเรียนอยู่เสมอ
ถ้าเราผิด...เราก็ต้องแก้ไข
ถ้าเราไม่ผิด แต่เราไม่มีอำนาจที่จะทำในสิ่งที่ถูก เราก็ต้องอดทนจนกว่าความถูกต้องจะได้รับการค้นพบ....
ให้กำลังใจ อ.ไหมเสมอ...
บทเรียนแห่งชีวิตนั้น .... ยากกว่ากฎหมายทะเบียนราษฎรค่ะ
สวัสดีครับ อาจารย์ไหม
โอ้โห ! เอกสาร 9 ชุด สอนทันหรือครับ
อาจารย์ไหมครับ ผมตามมาอ่านด้วยนะคับ เป็นนักศึกษาที่เรียนวันนั้นนะคับ ส่วนตัวคิดว่าอาจารย์ก็สอนได้ดีนะคับ
เป็นกำลังใจให้นะคับ