บางกอกทูเดย์ 3 กันยายน 2552 ตีพิมพ์เรื่อง "อะลูมิเนียมรีไซเคิล เติมความหวังผู้พิการไทย" ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง
ถ้าท่านได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ขอความกรุณาแวะไปเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ "ไทยโพสต์" กันครับ
[ ข้อความคัดลอก ]> [ บางกอกทูเดย์ ]
ด้วยอุปสรรคจากราคาอุปกรณ์ขาเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงมากถึง 15,000–30,000 บาท ทำให้มีผู้พิการเพียงบางส่วนเท่านั้นที่สามารถซื้อหาอุปกรณ์จากเทียมมาใช้ได้ ในขณะผู้พิการอีกจำนวนมากในประเทศไทยยังมีความต้องการขาเทียมสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีทางเลือกสำหรับผู้พิการงบประมาณน้อย เนื่องจากเทคโนโลยีในการผลิตขาเทียมของประเทศไทยในปัจจุบันมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยสามารถทำขาเทียม 1 ข้างได้ในราคาต้นทุนเพียง 1,500 บาท ด้วยวัสดุอะลูมิเนียม 1 กิโลกรัม ... จากผลการสำรวจพบว่า ปริมาณขยะประเภทอะลูมิเนียมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจำนวน 463,600 ตันนั้น มีเพียงร้อยละ 75หรือ 350,000 ตันเท่านั้นที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ในขณะที่ยังคงมีขยะอะลูมิเนียมที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมอยู่ถึงร้อยละ 25 ของปริมาณขยะประเภทอะลูมิเนียมที่เกิดขึ้นซึ่งหากมีกลไกของการเรียกคืนขยะประเภทอะลูมิเนียมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเป็นระบบแล้ว ... นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยที่ต้องกำจัด และลดการใช้ทรัพยากรในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ยังจะสามารถนำไปผลิตขาเทียมส่งต่อให้กับผู้พิการที่มีความต้องการได้อีกเป็นจำนวนมาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมควบคุมมลพิษ จึงได้จัดทำโครงการ “เรียกคืนอะลูมิเนียม เพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน” โดยร่วมกับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี,บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด, บริษัท บางกอกแคนแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, การรถไฟแห่งประเทศไทย และ ... บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันบริจาควัสดุอะลูมิเนียมส่งให้กับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อนำมารีไซเคิลจัดทำขาเทียมและอุปกรณ์สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุให้มีโอกาสได้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ทั้งยังช่วยประเทศชาติในการนำวัสดุอะลูมิเนียมและลดการนำเข้าอุปกรณ์ขาเทียมจากต่างประเทศที่มีราคาสูงถึง 15,000–30,000 บาท “ยังมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่มีความต้องการขาเทียมสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ... ซึ่งในขณะนี้มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ยังมีความต้องการอะลูมิเนียมเพื่อไปผลิตเป็นขาเทียมช่วยเหลือผู้พิการทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 2553 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการขนส่งวัสดุอะลูมิเนียมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ... แต่จะขอความร่วมมือจากประชาชนที่นำอะลูมิเนียมมาบริจาค ให้ช่วยทำความสะอาดผึ่งให้แห้ง และบีบให้แบนเพื่อความสะดวกในการขนส่งและการนำไปรีไซเคิลต่อไป” ภิมุข สิมะโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวโดยผู้บริจาคในต่างจังหวัดสามารถนำอะลูมิเนียมไปร่วมบริจาคได้ 2 ทาง คือ ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อขนส่งทางรถไฟและร่วมบริจาคโดยใส่กล่องไม่เกิน 5 กิโลกรัม ส่งได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ... โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ไปรษณีย์ไทยจำกัด ได้สนับสนุนการขนส่งจากผู้บริจาคถึงปลายทางกรมควบคุมมลพิษ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมไปจนถึงสิ้นปี 2553 ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถรวบรวมอะลูมิเนียมได้ไม่น้อยกว่า 12 ตัน โดยอะลูมิเนียมที่ใช้แล้ว ซึ่งสามารถนำมาบริจาคเพื่อใช้จัดทำขาเทียม ได้แก่ กระป๋องน้ำอัดลม หม้อกะละมัง หลอดยา อะไหล่รถจักรยาน และอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ ... โดยมีวิธีสังเกตง่ายๆ ว่าเป็นวัสดุอะลูมิเนียมหรือไม่ คือ หากใช้แท่งแม่เหล็กดูดไม่ติดแสดงว่าเป็นวัสดุอะลูมิเนียม.
น่าสนใจเรื่องการช่วยนำขยะมาใช้อีก โดยเฉพาะมาช่วยคนพิการนะคะ
กระดาษเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ถ้านำไปใช้อย่างคุ้มค่า สามารถใช้ได้หน้าที่ ๑ ที่ ๒ แล้วยังเอาไปบริจาคคนตาบอดเป็นหน้าที่ ๓ ได้อีก
ตอนนี้ ที่คณะฯ มีหลายคนที่เก็บใส้ลวดเย็บกระดาษที่แกะออกจะทิ้ง รวบรวมได้เป็นกอง
มีน้องที่ทำงานนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมา ๑๐ บาท ค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์มากๆ ครับ... นี่เป็นเรื่องของการตั้งใจทำอะไรดีๆ ทำให้มีคุณค่าตั้งแต่ขั้นตอน (process) + ผลลัพธ์ (outcome) เลย
แล้วเศษลวดเย็ยกระดาษที่ใช้แล้วล่ะค่ะ ทำขาเทียมได้หรือไม่ค่ะ ถ้าใช้ได้คงดีมากค่ะ เพราะที่ออฟฟิตมีเยอะเลยค่ะ ช่วยตอบด้วยนะค่ะ
ไม่ทราบว่าสามารถนำไปบริจากเศษลูกแม็กได้ที่ไหนบ้างค่ะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
ผมทำงานออฟฟิศ ผมเก็บลูกแม็กได้เยอะมาก ผมบริจาคที่ไหนได้ครับ
แต่ผมเคยไปบริจาคที่ เทสโก้โลตัสนะครับ เขาก็รับครับ
ตอนนี้มีฝาจุกกระป๋องน้ำอัดลมจำนวนเกือบ5กิโลได้พอจะบริจาคได้ที่ไหนบ้างค่ะ