ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
นาย ทรงวุฒิ พัฒแก้ว ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน พัฒแก้ว

เรือคราดหอยลายผิดกฎหมายยึดของกลาง 1.5 ตัน


เรือประมงคราดหอยทั้งหมดไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจ สอบ พร้อมเร่งเครื่องยนต์ขับเรือหลบหนี โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ขับเรือไล่ติดตามไปอย่างกระชั นชิด ในขณะที่เรือประมงคราดหอยมีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีก ว่าเรือของเจ้าหน้าที่จึงสามารถขับหลบหนีไปได้อย่างง ่ายดาย

เรือคราดหอยลายผิดกฎหมายยึดของกลาง 1.5 ตัน

http://pics.manager.co.th/Images/552000009242601.JPEG

นครศรีธรรมราช – ชาวประมงพื้นบ้านและฝ่ายปกครองจับมือล่าเรือคราดหอยล ายผิดกฎหมายกระเจิงอ่าวท่าศาลา โดยมีทั้งหมด 10 ลำ แต่สามารถหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล 9 ลำ เพราะเครื่องยนต์มีความแรง-เร็วกว่า ส่วนอีกลำเสียท่าเครื่องยนต์ขัดข้อง โดยสามารถยึดเรือประมงพร้อมของกลางหอยกว่า 1.5 ตัน

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เวลา 01.30 น.นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา. จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวประมงว่าพบเรือประมงขนาดใหญ่แอบเข้า มาลักลอบคราดหอยลาดในเขตพื้นหวงห้ามชายฝั่งทะเลอ่าวไ ทย ท้องที่ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จึงพร้อมด้วยนายวิเชียร คำสมาน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอท่าศาลา นำกำลังฝ่ายปกครองชุด ฉก.ศรีวิชัย นำเรือตรวจการณ์กรมเจ้าท่า และเรือประมงของชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 10 ลำ ออกตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

โดยเมื่อไปถึงชายฝั่งทะเลบริเวณบ้านด่านภาษี หมู่ 9 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา ห่างจากฝั่งประมาณ 1,700 เมตร พบเรือประมงคราดหอยลายขนาดใหญ่ จำนวน 10 ลำ กำลังคราดหอยลายอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ส่งสัญญาณให้ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขอให้หยุดท ำประมงคราดหอยและขอตรวจสอบ

แต่ปรากฏว่า เรือประมงคราดหอยทั้งหมดไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจ สอบ พร้อมเร่งเครื่องยนต์ขับเรือหลบหนี โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ขับเรือไล่ติดตามไปอย่างกระชั นชิด ในขณะที่เรือประมงคราดหอยมีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีก ว่าเรือของเจ้าหน้าที่จึงสามารถขับหลบหนีไปได้อย่างง ่ายดาย

อย่างไรก็ตาม เรือประมงคราดหอยลำหนึ่งชื่อเรือ ม.อิสระนาวี 3 เครื่องยนต์เกิดขัดข้องไม่สามารถหลบหนีต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบจับกุมเอาไว้ได้โดยละม่อ ม บริเวณชายฝั่งบ้านตะเคียนดำ หมู่ 2 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา ห่างจากฝั่งประมาณ 10 กม.

ตรวจสอบพบว่าเรือประมงลำดังกล่าวมีความยาว 19.40 เมตร กว้าง 5 เมตร บริเวณด้านท้ายลำเรือพบตะแกรงคาดหอยลายยาว 3.10 เมตร กว้าง 1.30 เมตร ความถี่ตะแกรง 0.80 ซม. จำนวน 2 อัน ในลำเรือพบหอยลายสดน้ำหนักกว่า 1,500 กิโลกรัม และพบผู้ต้องหาจำนวน 9 คน ประกอบด้วย นายวรพงษ์ อภิรมรัตน์ อายุ 40 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ, นายสมพร กลับพันธ์ อายุ 45 ปี, นายคชา โสภาคย์ 23 ปี ทั้ง 3 เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี นายมณี คุ้มตลอด อายุ 45 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์, นายทองอินทร์ ชมภูพื้น อายุ 49 ปี, นายสุดสา ทัศนิยม อายุ 38 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู, นายปอด กันตัก อายุ 47 ปี, นายเหรียญ โมกพา อายุ 38 ปี ชาว จ.ขอนแก่น, นายสังข์ทอง ทิศแดง อายุ 35 ปี ชาว จ.นครพนม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาส่งมอบให้พนักงา นสอบสวน สภ.ท่าศาลา สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา กล่าวว่า เจ้าหน้าได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน จำนวน 3 ข้อ ประกอบด้วย ร่วมกันใช้เครื่องมือคราดหอยทำการประมงในเขตหวงห้าม 3,000 เมตร, ร่วมกันใช้เครื่องมือคาดหอยที่มีความถี่ของซี่ตะแกรง น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด (1.2 ซม.) และร่วมกันทำประมงคราดหอยโดยใช้เครื่องมือคราดหอยประ กอบเข้ากับลำเรือทีมีความยาวลำเรือเกิน 18 เมตร ในเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหาที่ 1 แต่ให้การรับสารภาพในข้อกล่าวหาที่ 2 และ 3 ส่วนผู้ต้องหาที่ 4-9 ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

“สำหรับการลักลอบทำประมงคราดหอยลายโดยผิดกฎหมายในพื้ นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยในจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นเก ิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกระทำผิดในหลายข้อหา ตั้งแต่การเข้ามาทำประมงคราดหอยในพื้นที่หวงห้าม 3,000 เมตร การใช้ตะแกรงตาถี่กว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง พ.ร.บ.ประมง กำหนดช่องความถี่ของตะแกรงไว้ไม่น้อยกว่า 1.2 ซม.รวมทั้งการใช้เรือขนาดใหญ่เกินกฎหมายกำหนด โดย พ.ร.บ.ประมงกำหนดเรือประมงคราดหอยไว้ไม่เกิน 18 เมตร การทำประมงคราดหอยที่ผิดกฎหมายส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อระบบนิเวศชายฝั่ง จนชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถทำประมงพื้นบ้านได้ตามปก ติ

โดยเฉพาะในเขต ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา ชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 10,000 ราย ในขณะที่การป้องกันและจับกุมทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเรือประมงคราดหอยลายมีการติดตั้งเครื่องยนต ์ที่มีสมรรถนะสูงมาก บางลำเขาใช้ 2 เครื่องยนต์ ทำให้สามารถขับหลบหนีได้อย่างง่ายดาย สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์กรชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และชาวประมงพื้นบ้านก็ได้รับความเดือดร้อนก็ได้รัยคว ามเดือดร้อนอย่างหนัก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันเพื ่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่ทรัพยากรชายฝั่งทะเลได้เสียหายไปมากกว่านี้”


หมายเลขบันทึก: 294392เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2009 20:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 10:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท