องค์ความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน(๓การทำอาหารสัตว์จากการหมักหยวกกล้วย,การทำน้ำหมักชีวภาพสำหรับสัตว์,การนำส่าเหล้าทำอาหารสุกร..)

ถ้าเราไม่ช่วยกันเผยแพร่ให้มากๆบางที่ความรู้ก็จะอยู่แต่ในศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี่เชียงราย ผู้เขียนถือโอกาสช่วยอีกแรงครับ

องค์ความรู้ภูมิปัญญาการเลี้ยงสุกร

 

Ø การทำอาหารสุกรจากหยวกกล้วยหมัก

ชื่อเจ้าขององค์ความรู้

            1.นายอ้าย เดชวงค์ยา      103 หมู่ 7 ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

            2. นายแปลก เดชะบุญ 138 หมู่ 6 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จังหวัดเชียงราย

            3. นายจรัส  อุ่นใจ  57 ม.4  ต.ผาบ่อง  อ.เมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

            4. นายสุรชัย  มรกตวิจิตรการ 94  ม.2  ต.แม่โป่ง  อ.ดอยสะเก็ด  จังหวัดเชียงใหม่

หลักการและแนวคิด

            อาหารสัตว์เป็นต้นทุนส่วนใหญ่ของการเลี้ยงสัตว์ การลดต้นทุนอาหารสัตว์โดยใช้วัสดุที่ราคาถูกและหาได้ง่ายในท้องถิ่นจะช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงลงได้ทำให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนมากขึ้น

 

ขั้นตอนการทำ

  ส่วนประกอบ

- ต้นกล้วยซอย   100   กิโลกรัม

- น้ำตาลทราย     4      กิโลกรัม

- เกลือ             1      กิโลกรัม

  วิธีทำ

1. นำต้นกล้วยที่ได้มาซอยเป็นแผ่นบางๆขนาดพอดีให้ได้น้ำหนัก  100  กิโลกรัม

2. นำต้นกล้วยที่หั่นเรียบร้อยแล้วใส่ลงในถังพลาสติก พร้อมกับโรยเกลือและน้ำตาลเป็นชั้นๆทำซ้ำกันเป็นชั้นๆจนเต็มถัง

3. ปิดฝาถังหมักทิ้งไว้  5  วันสามารถนำมาผสมกับอาหารให้กับสุกรกินได้

Ø การทำน้ำหมักชีวภาพ ลดการใช้สารเคมีในสัตว์ 

ชื่อเจ้าขององค์ความรู้

            1. นายบุญเป็ง จันต๊ะภา  45 หมู่ 14 ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย

            2. นายแปลก เดชะบุญ 138 หมู่ 6 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จังหวัดเชียงราย

หลักการและแนวคิด

            ช่วยเสริมสร้างคุณค่าทางอาหาร ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารสัตว์และยารักษาโรค โดยการนำวัสดุหรือผลผลิตที่มีมาเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

ขั้นตอนการทำ

1. การใช้น้ำหมักผลไม้ชีวภาพ เพื่อสุขภาพสัตว์ลดความเครียด มีวิธีการ ดังต่อไปนี้

    1.1 ใช้วัตถุดิบ ผลไม้สุก 3 ส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน  น้ำ 1 ส่วน

    1.2 นำผลไม้สุกสับให้พอดี แล้วนำมาลงถังพร้อมกากน้ำตาลและน้ำ คนให้เข้ากัน

    1.3 หมักน้ำหมักผลไม้ชีวภาพ  จำนวน 3 วัน นำไปผสมรำ เป็นอาหารสุกร

2. การใช้น้ำหมักสมุนไพร รักษาโรค สร้างภูมิต้านทานโรค

    2.1 นำผลไม้ 3 ส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน น้ำ 1 ส่วน สมุนไพร 1 ส่วน ( ฟ้าทลายโจร  บอระเพ็ด ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน เหงือกปลาหมอ  หัวผักหนาม อ้อยดำ)

    2.2 นำมาหมัก ใช้เวลา 7 วัน ผสมในรำใช้เป็นอาหารสัตว์

ประโยชน์ที่ได้รับ

            1. เพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนให้เกิดประโยชน์

            2. ลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารสัตว์และยารักษาโรค

            3. เพิ่มคุณค่าทางอาหารให้สัตว์มีอัตราการเจริญเติบโตดี

 

 

Ø การใช้ส่าเหล้าเป็นอาหารสุกร 

เจ้าขององค์ความรู้

1.       นายผล  มีศรี  130  ม.6  ต.ภูซาง  อ.ภูซาง จังหวัดพะเยา

2.       นายแปลก  เดชะบุญ  138  ม.6  ต.ศรีค้ำ  อ.แม่จัน  จังหวัดเชียงราย

หลักการและแนวคิด

                ส่าเหล้าเป็นผลผลิตขั้นตอนสุดท้ายของการกลั่นเหล้า โดยผ่านกระบวนการหมักและกลั่น มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ทำเป็นหัวเชื้อหลายชนิด เช่น ลูกกระวาน พริก ขิง ตะไคร้ ข้าว

วัสดุ/อุปกรณ์

1. ส่าเหล้า ส่วนที่เหลือจากการผลิตเหล้าขั้นตอนสุดท้าย

                                2. วัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น แกลบ รำละเอียด หัวอาหารสุกร หยวกกล้วย พืชผัก

                                3. น้ำหมักชีวภาพ

ขั้นตอนปฏิบัติ

                     โดยนำส่าเหล้ามาผสมกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น เช่น แกลบ รำละเอียด หัวอาหารสุกร หยวกกล้วย พืชผัก ตามสัดส่วนที่พอเหมาะ หรือที่มีอยู่ในฟาร์ม และน้ำหมักชีวภาพ

การนำมาใช้ประโยชน์

                                ใช้เป็นอาหารสุกร นำมาเลี้ยงสุกร ที่มีอายุตั้งแต่ 35 วันขึ้นไปโดยในช่วงแรก ผสมในอาหารทีละน้อย แล้วเพิ่มปริมาณในภายหลังใช้เลี้ยงสุกร  4  เดือนได้น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 80 กิโลกรัมเป็นการลดต้นทุนอาหาร สัตว์โตเร็ว แข็งแรง ไม่เป็นโรค

 

องค์ความรู้และภูมิปัญญาด้านการเลี้ยงสัตว์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง                             ศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีเชียงราย

[ยูมิ]

มาชม

ดีนะครับ

มาถ่ายทอดความเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านออกสู่สาธารณะ...