พลังและอิทธิฤทธิ์ของการทำงาน

พลังและอิทธิฤทธิ์ของการทำงาน

หลังจากที่ อิสรชน แตกทีมออกจากกันเมื่อกลางปี 2548 หลังจากก่อตั้งสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน ได้ไม่นาน ฟากฝั่งที่เหลือในสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชนในตอนนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 6 คน จากทั้งหมดที่เคยรวมทีมกัน 12คน  6 คนที่เหลืออยู่ในระยะแรกกลืนเลือดในการทำงานร่วมกันแบบรับเงินเดือนเพียง 60% และ 50% ตามลำดับได้ประมาณ 5 เดือน กันที่จะทำงานแบบนั้น ทำต่อมาได้อีก 2 เดือน น้อง ๆ 3 คน เดินเข้ามาขอโทษเราอย่างแรง ว่า ยังมีภาระครอบครัวที่ต้องช่วยดูแลขออนุญาตไปจากเราด้วยความรู้สึกที่มีแต่คำถามว่าทำไมไม่มีใครเห็นว่าเราทำอะไรและช่วยเราเสียที ในปี 2549 ก่อนปฏิวัติราว 6 เดือน น้อง 2 คนที่เคยผ่านการอบรมอาสาสมัครกับอิสรชน ทราบข่าวการแตกตัวของอิสรชน ตัดสินใจเดินทางมาช่วยอิสรชนทำงาน 6 เดือนเต็มโดยไม่มีเงินเดือน ตลอดเวลาที่เราทำงานโดยไม่มีเงินเดือนในขณะนั้น เราพยายามหาเงินบริจาค เงินโครงการทุกวิถีทาง เพื่อนำเงินมาเป็นงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมของอิสรชนเท่านั้น น้อง 2 คน ก็ต่อสู้ได้แค่เพียง 6 เดือนก็ต้องพ่ายต่อกระแสทุนนิยมที่จำเป็นต้องเลี้ยงตัวเอง ก่อนจากไปน้องทั้งสองคนให้สัญญากับอิสรชนว่า จะกลับมาเมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง(หมายถึงอิสรชนและน้องเขา)มีความพร้อม และจากนั้น เกือบสี่ปี อิสรชน ทำงานด้วยกำลังเพียง สองคน ที่พร้อมทำงานโดยไม่มีเงินเดือน และทำงานด้วยเงินบริจาคล้วน ๆ

ในปี 2551 สำนักฯผู้ด้อยโอกาสชักชวนให้เขียนโครงการเพื่อของบสนับสนุนในการทำงาน อิสรชน เขียนโครงการและได้งบประมาณสนับสนุนเพื่อทำงานแต่ก็ไม่มีเงินเดือนกันอยู่ดี ในระหว่างก้าวเดินของการทำงานแบบไม่มีเงินเดือน ตลอดระยะเวลาเกือบสี่ปีที่ผ่านมา อิสรชนต้องคอยตอบคำถามของผู้ที่สงสัยว่า เอาเงินจากไหนมาทำงาน เอาเงินจากไหนใช้ในชีวิตประจำวันในเมื่อบอกว่า ไม่มีเงินเดือน เราตอบด้วยความริงที่ว่า เรา มีงานฝึกอบรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาหล่อเลี้ยงทั้งคนทำงานและ งานที่เรารัก เฉลี่ยเดือนละหนึ่งหรือสองครั้ง ที่จะได้ค่าตอบแทนรวม ๆ กัน เฉลี่ย 15,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งหมายความว่าบางเดือนก็จะไม่มีงานพวกนี้เข้ามา รายได้ส่วนใหญ่ของอิสรชน จึงมาจากการบริจาคของคนไทยล้วน ๆ และที่สำคัญส่วนใหญ่เป็นคนเล็กคนน้อยในสังคม ที่หยอดกล่องบริจาคของอิสรชนที่มีอยู่ตามที่ต่าง ๆ ไม่มากนัก และรวมถึงกล่องบริจาคที่เราตั้งไว้กับรถโมบายเมื่อยามลงพื้นที่ ที่สนามหลวง เราพบว่า คนสนามหลวง แวะเวียนมาช่วยบริจาคให้เราลงมาทำงานกับเขา เฉลี่ยวันละ 200 บาท เพื่อช่วยสมทบค่าน้ำมันรถให้เราลงมาทำงานกับเขา ? และที่เรา อึ้งและหลาย ๆ คนก็อึ้ง คือ เราได้รับการสนับสนุนผ้าป่าการกุศลจาก กลุ่มพนักงานบริการอิสระหรือที่สังคมเรียกขานว่า หญิงขายบริการข้างถนน ทุกปี ปีละจำนวนไม่น้อย เพื่อสนับสนุนและมอบให้เราใช้เป็นทุนในการทำงานกับพวกเธอเหล่านั้น ?

อิสรชนมองว่า สิ่งนี้นี่เองที่เขาเรียกว่าพลังและอิทธิฤทธิ์ของการทำงานสี่ประการอันได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา คือ หากเรารักจดจ่อใคร่ครวญและมีความเพียรมากพอในการทำงาน งานนั้นจะเกิดพลังและเป็นพลังที่นำไปสู่ความสำเร็จในการทำงาน ความสำเร็จดังกล่าวอาจจะไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างคนอื่นๆ แต่ความสำเร็จที่อิสรชนพบและสัมผัสได้คือ ใจของคนที่เราทำงานด้วย ทุกครั้วที่เราหายไปจากพื้นที่เกินกว่าที่บอกกล่าวกันไว้ล่วงหน้า เขาจะถามไถ่ด้วยความห่วงใย ทำให้อิสรชนตั้งใจและสัญญากันไว้ว่า เมื่อเขาไม่เคยทอดทิ้งเรา เราก็จะไม่ทอดทิ้งเขาเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่เราพบและเรานำมาบอกกล่าวกับทุกคนด้วยความภาคภูมิใจและอยากให้ทุกคนคิดและมองรวมถึงทำตามเราคือ เมื่อใดก็ตามที่เรามองคนด้อยโอกาสในฐานะพลเมือง เราจะทำงานกับเขาในฐานะมนุษย์และพลเมืองเช่นกัน แต่เมื่อใดเรามองเห็นเขาเป็นภาระของสังคม เราก็จะทำงานด้วยความคิดและความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ??

หากคุณอยากเป็นคนกหนุ่งที่จะเสริมอิทธิฤทธิ์ในการทำงานร่วมกับอิสรชน ทำได้นะครับ ติดต่อมาที่ 086 628 2817 ติดต่อกับ คุณอัจฉรา อุดมศิลป์ หนือ น้องจ๋า