Delete ความชั่ว...


ความชั่วเป็น “ความมืด” คนจึงชอบอาศัยความมืดทำความชั่ว

คนเรานั้นอะไร อะไร ก็จะเอาแต่ ชนะ ชนะ
คนเรานั้นอะไร อะไร ก็จะไม่เอาความพ่าย ความแพ้

คนเราชอบเอา “ชนะ” คนอื่น
คนเราชอบ “แพ้” ตนเอง

ชนะคนอื่นหมื่นแสนไม่มีค่าแม้น “ชนะ” ตนเอง

ใจของตนเองนั้นชนะยาก
ถึงแม้รู้อยู่ว่าต้องทำอย่างไร อะไรดี อะไรไม่ดี ก็ยอมแพ้ ไม่กล้าที่จะ “ชนะ”

คนเราจึงกลัวที่จะชนะ “ตนเอง”
คนที่กลัวในการชนะตนเองนั้นจึงต้องหาทางออกเพื่อไปชนะ “คนอื่น...

คนทั้งหลายจึงมีปมด้อย...
ปมด้อยของคนส่วนใหญ่คือการยอมแพ้ตนเอง
ดังนั้นจึงต้องปิดปมด้อยและเสริมปมเด่นโดยการฆ่า การเข่น ซึ่ง “คนอื่น...”

ไอ้ใจเราเองนี้มันชนะยากนัก
ใจเรา เราก็ชอบเปิดฉากเจรจากับมันเรื่อย แล้วใจมันก็ชอบ “สมยอม” เราเรื่อย เพราะใจส่วนเลวมันก็ชอบ
ไอ้ใจส่วนดีนั้นไม่ค่อยมีปาก มีเสียง
มีเสียงก็สู้อะไรเสียงส่วนเลวไม่ได้ เพราะไอ้เรามันเป็นผู้พิพากษาที่ทรงความ “อยุติธรรม”

เราเองนั้นชอบตัดสินความ “ตามใจ”
ใจของคนที่ยังไม่ได้ฝึก ไม่ได้ฝนนั้นจะเอาใจเป็นอารมณ์ ถืออารมณ์เป็น “ใจ...”

ดังนั้นเราเองมักตัดสินความต่าง ๆ ตาม “อารมณ์”
อารมณ์รัก อารมณ์โลภ อารมณ์โกรธ อารมณ์หลง...

อารมณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ชอบคนโง่
อารมณ์ต่าง ๆ เหล่านี้มักอยู่กับคนโง่ เพราะคนโง่ชอบให้อาหารมัน
การตามใจก็คือการให้อาหาร “อารมณ์...”

เมื่ออารมณ์มีอาหาร อารมณ์ก็เจริญเติบโตได้ ให้มาก ๆ ก็อ้วน ก็ใหญ่
แต่เมื่อใดตั้งใจว่าจะ “ฝืนใจ” อารมณ์ในใจก็โอด ก็โอย

ไอ้เรามันก็ “คนใจอ่อน”
ชอบสงสารตัวเอง และหาความรู้ต่าง ๆ มา “เข้าข้าง “ตนเอง

ชีวิตที่เข้าข้างตนเองจึงเป็นชีวิตที่ “But ซบ”
เพราะอารมณ์ต่าง ๆ เขาชอบ “ซบ” อารมณ์เลว ๆ ชอบคบคนที่ “เข้าข้างตนเอง...”

รู้เหตุ รู้ผล แต่ยอมจำนนต่อ “อารมณ์”
คนเราเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ไม่รู้ รู้มากและรู้จักเหตุผลที่จะมาคัดค้านความดี เพื่อหาแนวทางที่จะไปทำ “ความชั่ว”

คนเราเดี๋ยวนี้รู้อยู่ว่า “ชั่ว” แต่ก็มีความรู้ มีแนวทาง ที่จะหาเหตุผลมาสนับสนุน “ความชั่ว”
ประชาธิปไตยเอย เสียงข้างมากเอย คนรอบข้าง เอกสารทางวิชาการ ล้วนแล้วรวบรวมมาเป็นลูกขุนเพื่อสนับสนุน “ความชั่ว”

ลูกขุนฝ่ายดี ชอบแกล้งทำเป็นลืม ไม่ใส่ใจ
รู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มใจ ก็แกล้งเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ อยู่ใกล้ความดีไม่ได้ “กลัวดี...”

 

เมื่อคนส่วนใหญ่เลวจึงเลวตาม เลวกันอย่างเป็น “ประชาธิปไตย”
ถ้าเป็นคนดีเกินไปเดี๋ยวจะไม่ In trend…

ค่านิยมของคนสมัยนี้จึงนิยม “ความชั่ว”
ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป ก็เลยทำชั่วกันใหญ่ เอ้า! “ชั่วก็ชั่ววะ...”

ทำความชั่วสมัยนี้มี “เพื่อนชั่ว”
อยู่ในนรกเพื่อนเยอะ สนุกสนาน
คนดีมีน้อย ขึ้นสวรรค์น้อย ทำดีตายไปเดี๋ยวจะ “เหงา...”
เอ้า! พวกชั่ว พวกเรา มาสนุกสนานในโลกแห่ง “ซาตาน” กัน

ความชั่วเป็น “ความมืด” คนจึงชอบอาศัยความมืดทำความชั่ว
ความดีเป็น “ความสว่าง” แต่คนที่ชั่วมากก็อาศัยแสงสว่างทำ “ความชั่ว”
พวกเราคนชั่วน้อย จงอาศัยแสงสว่าง “ส่องความชั่ว”
ส่องแล้ว เห็นแล้ว ก็กวาด “ความชั่ว ๆ” ทิ้งไปซะ (Disk Cleanup)
พอเห็นที่ว่างสักหน่อยก็พยายามหาความดีเข้าไปสอด ไปแทรก
จัดเรียงพื้นที่ในชีวิตเสียใหม่ (Disk Defragmenter)
อะไร อะไรที่มันไม่ดีก็ลบทิ้งมันไปให้ถาวร ไม่ต้องอาลัย อาวรณ์เก็บไว้ใน Recycle Bin…

เอาล่ะ... มาลองเอาชนะตนเองด้วยการ Delete ความชั่วกัน
ใช้ความดี Delete ความชั่ว
ใช้เวลาทำความดี เวลานี้จึงไม่มีที่ว่างสำหรับ “ความชั่ว”
บรรจุความดีเข้าไว้เป็นในทุกช่วงเวลาของชีวิต
ชีวิตนี้จักดี เพราะรู้จักการที่ “ชนะตนเอง...”

คำสำคัญ (Tags): #ความชั่ว#ความดี
หมายเลขบันทึก: 293406เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2009 19:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท