28-29 สิงหาคม 2552 ได้ไปอบรมเรื่อง "การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบปฐมภูมิ" ที่โรงแรม แซนดาเลรีสอร์ท พัทยา ซึ่งเป็นการอบรมครั้งที่ 3 (สุดท้าย) ที่จัดโดยมูลนิธิแพทย์ชนบทร่วมกับ สคส. หลังจากได้อบรมมาสองครั้งก็มาลองทำกิจกรรมอย่างที่เราเห็นกัน( Friday KM, เก็บCredit , Blog ) ครั้งนี้ก็เป็นการลงลึกถึงรายละเอียดในวิธีการหรือเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการจัดการความรู้ การอบรมเป็นรูปแบบกิจกรรมเป็นส่วนใหญ่(เล่นเกม)แล้วให้ผู้เข้าอบรมสรุปเป็นความรู้เอาเองว่าได้อะไรบ้าง ดังนั้นจึงอาจจะเพี้ยนจากทฤษฎีไปบ้าง ถ้าผู้รู้ท่านใดมาอ่านก็ช่วยแก้ได้เลยครับ สรุปประเด็นสำคัญที่ได้ก็คือเครื่องมือหรือวิธีการที่ช่วยให้การจัดการความรู้เป็นไปได้ดีมีอยู่อย่างน้อย 4 อย่างดังนี้ (อาจมีมากกว่านี้แต่เก็บมาไม่หมด..อาจเผลอหลับบ้าง)
1. การออกแบบ ก็เหมือนการวางแผน เช่นเราจะจัดการความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งคงจะต้องเตรียมวางรูปแบบ ศึกษาพื้นฐานสมาชิก บรรยากาศ เป็นต้น เพื่อให้เหมาะสมกับเรื่องต่างๆที่จะจัดการ ซึ่งใน รพ.เราก็จะเห็นรูปแบบต่างๆที่เราจัดขึ้น เช่น การบรรยาย Knowledge sharing , สาธิต , เขียนบลอก ทั้งหมดนี้ได้มาจากการวางแผนและออกแบบเพื่อให้เหมาะกับเรื่องและสมาชิกที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น
2. การถาม คงไม่ต้องอธิบายว่าคืออะไร แต่คำถามคือการถามที่ดีเป็นอย่างไร เท่าที่จำได้ ควรจะเป็นอย่างนี้
- คำถามปลายเปิด
- ถามเพื่อกระตุ้นความคิดให้เล่าต่อ
- ถามเพื่อทบทวนเหตุการณ์ที่เล่ามาเพื่อทำความเข้าใจ
ส่วนที่ไม่ควรถามคือ
- คำถามปลายปิด
- ส่อเสียด
- ตัดสิน
- ท้าทาย
- คงมีอีกช่วยกันคิด
3. การจับประเด็น อันนี้สำคัญมากเพราะถ้าทำไม่ได้ก็จะถ่ายทอดต่อไม่ได้เลย วิธ๊การที่แนะนำเพื่อให้จับประเด็นได้ดี เช่น
- เตรียมตัวก่อนฟัง เช่น เรื่องอะไร ใครพูด ความรู้เดิมมีอะไรบ้าง
- สมาธิ คงเข้าใจถ้ามัวแต่คุยคงไม่สำเร็จ
- สอบถาม(แบบดีๆ)
- บันทึก
ดูแล้วคงไม่พ้น สุ จิ ปุ ลิ นั่นแหละ
4 . ถอดบทเรียน เป็นคำที่ได้ยินบ่อยแต่เกือบจะเข้าใจ จึงขออธิบายตามความเกือบเข้าใจดังนี้ มันก็คือการสรุปสิ่งที่ได้ทำมาเอามาเป็นความรู้ที่อาจจะขยายผลต่อไปได้ ซึ่งบางทีก็อาจมีหลายองค์ความรู้ หลากรูปแบบ ขึ้นกับว่าใครจะนำไปใช้อะไร บริบทอย่างไร เช่นของเราก็อาจจะเริ่มทำการถอดบทเรียนการทำแผลด้วยน้ำเชื่อมว่าจริงๆแล้ว ได้เรียนรู้อะไร อะไรใช้ต่อได้ อะไรต้องยกเลิก แล้วนำไปใช้ในที่อื่นได้ไหม อย่างนี้เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องช่วยให้การดำเนินการการจัดการความรู้ให้เป็นไปด้วยดี แต่ที่สำคัญอยู่ที่การหมั่นฝึกฝน เหมือนขี่จักรยาน อ่านหนังสือกี่เล่มก็คงขี่ไม่ได้ ถ้าไม่ลองขี่ด้วยตัวเอง
เห็น Boss จริงจังกับ KM มาก ลูกน้องอย่างเราคงอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว จริงไหมพวกเรา...By Jan.
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนเด็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หกล้มจนเข่าลายเลยกว่าจะขี่จักรยานเป็น
เถิดเทิง
เห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ ...วิลาวรรณ์