ศึกษาดูงานห้องสมุดและท่องเที่ยวเกาหลี(วันที่หกของการเดินทาง 11 มีนาคม 2552)

วันที่หกของการเดินทาง 11  มีนาคม 2552 (วันสุดท้ายในเกาหลี)

วันนี้กว่าจะตื่นได้เพราะเมื่อคืนนอนทุกคนนอนดึกเพราะต้องเตรียมเก็บกระเป๋าออกจากโรงแรมวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่เกาหลี
และเครื่องสำอางที่ซื้อมาต้องเก็บลงในกระเป๋าใหญ่ส่วนมากเป็นของเหลวห้ามนำขึ้นเครื่องเพราะเกินกว่าที่สายการบินกำหนดให้ถือติดตัวขึ้นเครื่องได้ และต้องเก็บให้ดีเดี๋ยวไม่ถึงประเทศไทยจะแตกซะก่อน กว่าจะเก็บของหมดก็ดึกพอสมควร ในตอนเช้าหลังจากนำกระเป๋าขึ้นรถแล้วสถานที่ที่จะไปคือศูนย์โสมของรัฐบาลเกาหลีและร้านอัญมณีเพื่อซื้อของฝากและต่อด้วยช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีในเมืองของเกาหลีเพื่อละลายเงินวอน

บางท่านเงินวอนที่แลกหมดตั้งแต่ที่ตลาดเมียงดงเพราะช้อปปิ้งเครื่องสำอางซะหมดเพราะเมื่อเทียบกับราคาที่บ้านเราถูกมากๆๆๆๆ ที่ดิวตี้ฟรีเลยมีการใช้บัตรเครดิตรูดการ์ดกันซะเพลินเพื่อซื้อกล้องยี่ห้อดังของเกาหลีที่เอาใจคนไทยเพราะถึงแม้ว่ายังไม่มีมาวางขายที่เมืองไทยและบางสีไม่ส่งออกขายนอกประเทศด้วยแต่ด้วยความที่เอาใจพี่ไทยขาช้อปปิ้ง เมนูในกล้องจึงเป็นภาษาไทยขอบอก ช้อปปิ้งซะจนรูดการ์ดไม่ทัน สถานที่ที่เราจะไปทัศนศึกษาก่อนที่จะเดินทางกลับเมืองไทยคือ พระราชวังชางด๊อกกุง

พระราชวังชางด๊อกกุง

 พระราชวังชางด๊อกกุงหรือ พระราชวังชางด๊อก หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดในเกาหลี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแทจงแห่งราชวงศ์โชซอน เมื่อปี พ.ศ. 1948 (ค.ศ. 1405) แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1955 (ค.ศ. 1412)และพระราชวังแห่งนี้ได้เป็นฉากหลังในซีรี.ส์เกาหลีเรื่องแดจังกึมจอมนางแห่งวังหลวงที่เป็นซีรีย์ที่ดังมากในประเทศไทย ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก องค์การยูเนสโก ในการเข้าชมพระราชวังนี้จะมีเป็นรอบ ๆ  เพราะต้องเข้าชมโดยมีไกด์เท่านั้น จะมีรอบที่บรรยายเป็นภาษาอังกฤษด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าไกด์ดุมาก ต้องรีบเดินให้ทันเพราะไกด์จะอธิบายถึงสถานที่ต่างๆ และแต่ละที่ให้ถ่ายรูป  5  นาที เดือนที่เราเดินทางไปยังคงอยู่ในปลายฤดูหนาวก็เลยไม่มีใบไม้สีเขียวให้เห็นเท่าไหร่ และส่วนมากทัวร์คนไทยจะไม่นิยมมาเที่ยวที่พระราชวังชางด๊อกกุง

 

เพราะในการเข้าชมจะต้องเดินขึ้นเขาเดินลงเขาเป็นลูกๆ กว่าจะเดินชมพระราชวังทั่วเสร็จต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง  ต้องมีการแบ่งของกันและจัดกระเป๋าอีกราะกิมจิจะต้องโหลดไปพร้อมกระเป๋าเท่านั้นไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ มีแต่สตรอเบอรรี่เท่านั้นที่ต้องประคบประหงมกันขึ้นเครื่อง เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วเราต้อง  อำลาเกาหลี (อันย้งฮี กาเซโย)ซะที เหินฟ้ากระเทศไทยโดยสายการบิน โคเรียแอร์เทียวบินที่KE 653    ถึงประเทศไทย เวลา น.เวลา 01.30 น. ของเช้าวันที่12  มีนาคม 2552 โดยสวัสดิภาพ

 

[สิริพร ทิวะสิงห์ tuk-a-toon]

ตามมาเที่ยวจ้า....

เล่น g2k นานแล้วนะ ทำไมพลาดบล๊อกนี้ไปได้...

ตั้งแต่นี้ต่อไปแหละไม่พลาดแน่นอน