จริงอยู่ค่ะว่า ในบางครั้งภาพต้นฉบับนั้นอาจมีการสูญหายไป เหลือแต่ภาพที่เคยใช้ในโปรแกรมพรีเซ้นต์เตชั่นแบบ Power Point ก็เลยต้องส่งภาพในไฟล์ Power Point มาให้แทน เหตุผลนี้อาจยอมรับได้ แต่ลูกค้า (หรือผู้สั่งพิมพ์) ก็ต้องยอมรับด้วยเช่นกันว่า คุณภาพของ "ภาพ" ที่ได้ออกมานั้นอาจจะไม่คมชัดหรือไม่ดีเท่าไฟล์ที่มีนามสกุล .jpg (ดั้งเดิม) อย่างแน่นอน ซึ่งควรจะส่งเป็นไฟล์เดี่ยวๆ ไม่ใช่แปะอยู่ในโปรแกรม Power Point
ที่นี้ภาพที่อยู่ในโปรแกรม Power Point นั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โปรแกรมของ microsoft นั้นเน้นการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เป็นประเภทโปรแกรม plug&play คือคลิ๊กๆ ลากๆ ก็ได้ผลลัพท์ออกมาถูกใจ แต่ในกระบวนการที่แสนง่ายและสะดวกนั้น โปรแกรมจะทำการลดขนาดของภาพที่ถูกเรียกเข้ามาวางให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไป (ซึ่งจะทำให้โปรแกรม hang บ่อยๆ) และด้วยเหตุนี้ภาพที่อยู่ในโปรแกรม Power Point จึงมีขนาดเล็กเพราะถูกทำให้สูญเสียความคมชัดไปในระดับหนึ่ง (ซึ่งเทียบไม่ได้กับความคมชัดแรกที่เรียกภาพเข้ามาใช้งาน) และที่สำคัญร้อยละ 99.99 ของการนำภาพไปใช้ในโปรแกรม Power Point มักจะมีการลดขนาด ย่อ-ขยาย จับภาพยืดหรือหดอย่างไม่ได้สเกล (ลากตามใจฉัน) ภาพเหล่านั้นจึงถูกลดคุณภาพไปอย่างที่ใครบางคนอาจนึกไม่ถึง
ดังนั้นถ้าใครก็ตามที่ส่งภาพจากโปรแกรม Power Point ให้กับผู้ออกแบบเพื่อวางอาร์ตเวิร์ค กรรมวิธีต่อจากนั้นก็คือ ผู้ออกแบบต้อง copy ภาพจากโปรแกรม Power Point มาใส่ในโปรแกรมจัดการไฟล์ภาพประเภทโฟโต้ช็อปกันอีกที แล้วจึงเรียกภาพนั้นไปใช้วางในโปรแกรมสำหรับจัดวางอาร์ตเวิร์คอื่นๆ ต่อไป (เช่นIllustrator / InDesign / PageMaker หรือQuarkXpress) ภาพที่ได้จึงสูญเสียความคมชัดไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในแต่ละขั้นตอนเหล่านั้น กรรมวิธีแบบนี้จึงไม่เหมาะกับการทำงานเพื่อผลิตสื่อสิ่งพิมพ์