ว่าด้วยเรื่องศีลข้อ 5


ปรับใจให้เข้มแข็ง มีพลังใจในการต่อสู้ ยึดหลักปฏิบัติตามศีลข้อ 5....ห้ามดื่มสุราทุกระยะหรือเป็นอาจิณ เพื่อตัวเราและคนรอบข้างที่คุณรัก

บันทึกการเรียนรู้ : Topic 11 
แบ่งบันความรู้โดย  
ผศ.สุชาดา     ภัยหลีกลี้            มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เก็บออมความรู้โดย เกศรา แสนศิริทวีสุข 
นศ.สาขาพัฒนาสุขภาพชุมชน2.1
                อย่างงี้มันต้องถอน ผิดศีลข้อ 5 หรือไม่ ถ้าถามในมุมมองของนักดื่มอาจเห็นว่า การดื่มสุราช่วยแก้กลุ้มได้ เป็นทั้งเพื่อนเวลา เหงา ทุกข์ หรือ สุข ช่วยให้เข้าสังคมได้ดีขึ้น เพิ่มความกล้า และอื่นๆอีกมากมาย น่าจะ SWOT     จุดแข็งได้มากกว่าจุดอ่อน ในขณะที่อีกค่ายเห็นว่าการดื่มนอกจะเป็นการเทเงินในกระเป๋าทิ้ง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง อีกทั้งแถมโรคร้ายให้ด้วย เป็นบ่อแห่งทุกข์...เจ็บและตายจากอุบัติเหตุ เช่น จราจรที่ตัวเลขก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้ในช่วงเทศกาล  เพราะปัญหาเมาแล้วขับ  บั่นทอนสติสัมปชัญญะ ทั้งสังคมรังเกียจ เป็นเหตุแห่งการทะเลาะเบาะแว้ง เมาสุรายกพวกตีกัน ฯลฯ ถ้าชั่งน้ำหนักดูแล้วท่านคิดว่าคานน่าจะเอียงไปจุดไหน สำหรับผู้เขียนในฐานะที่       นักสาธารณสุข และ ผู้ที่อยู่ในครอบครัวของผู้ไม่ดื่ม ย่อมจะเห็นด้วยในข้อหลัง  แล้วถ้าดูข้อมูลที่ท่านอ.สุชาดา ได้ทบทวนและศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะพบว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ถึงแม้อัตราการดื่มแอลกอฮอล์จะยังสูง แต่แนวโน้มก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศกำลังพัฒนา  การดื่มถ้าแบ่งตามประเภท เช่น ไวน์       จะพบว่าอันดับต้นๆ คือประเทศในแถบยุโรป เช่น ลักแซมเบิก และฝรั่งเศส  ส่วนการดื่มเบียร์ โดยส่วนใหญ่จะนึกถึงประเทศเยอรมันเป็นอันดับแรก เพราะเห็นมีโรงงานเบียร์แทบทุกเมือง แต่จริงๆแล้วเยอรมันติดอันดับ 5ของโลก ส่วนไทยก็ไม่น้อยหน้าติดอันดับ 5 ด้วยเช่นกัน แต่อยู่ในกลุ่มของนักดื่ม  Spirits ที่ไม่ได้หมายถึงดื่มแล้วมี สปิริต..อารมณ์ แต่หมายถึงการดื่มเหล้าขาวค่ะ จากผลการสำรวจประกอบกับปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ทั้งพยายามส่งเสริมและผลักดันในรัฐบาลหลายๆสมัย ให้มีการบังคับใช้กฎหมาย    จนเริ่มมีผลบังคับใช้ในวาเลนไทปีที่ผ่านมา (วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551)      ในเรื่องการห้ามจำหน่ายสุราแก่บุคลอายุต่ำกว่า 18 ปี  ห้ามขายสุราผิดเวลา      ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสื่อทุกชนิด ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปั๊มน้ำมัน ศาสนสถานและสถานศึกษา เป็นต้น สำหรับผลการบังคับใช้กฎหมายเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามประเมินกันต่อ ส่วนความสูญเสียของการดื่มสุรา ก็มีทั้งในตัวปัจเจกบุคคล สังคม สุขภาพ    การสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควร  สูญเสียทั้งทรัพย์สิน ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่อการบังคับคดี เป็นต้น และจากผลการสำรวจของท่านอาจารย์สุชาดาในเรื่องความสูญเสียจากการดื่มสุราของชาวขอนแก่น พบว่า ถ้าคิดเป็นเงินตราก็ประมาณ 500 บาท/คน/ปี และเมื่อคิดเป็นตัวเลขภาพรวมของทั้งจังหวัด เป็นเงินประมาณ 671.9 ล้านบาท/ปี ที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในกลุ่มผู้เสียชีวิต  ค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ที่รัฐบาลต้องเป็นภาระในการแบก  ค่าใช้จ่าย  

                หลังจากเรียนเรื่องนี้เสร็จผู้เขียนก็ได้นั่งรถโดยสารกลับบ้าน(ขอนแก่นไปอุบลราชธานี ) บนรถที่ผู้คนแออัดเพราะเป็นวันศุกร์ (สุข)  ช่วงเลิกงาน ได้ทั้งกลิ่นละมุด จนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ บอกว่าโชคดีที่ตัวเองใส่หน้ากากอนามัยเพราะกลัวไข้หวัดใหญ่ แล้วยังช่วยป้องกันกลิ่นต่างๆที่มาปะทะจมูกได้อีก และ ยังดีที่ไม่เห็นใครเป็นลมไปเสียก่อน  และเมื่อเหลือบมองไปนอกรถที่บรรยากาศเริ่มพลบค่ำ          ก็เห็นร้านประเภท ยองๆเหลา ร้านค้า ร้านแผงลอย รถเข็นริมทางถนน ที่ติดป้ายว่า..ขายยาเย็น สมุนไพรเย็น ยาดอง ยาชูกำลัง....รวมถึงมีร้านหนึ่งที่ตั้งชื่อเก๋ว่า ร้าน “เมา..Deep” อาจกล่าวได้ว่าสถานที่จำหน่ายเครื่องดื่มประเภทนี้ มีอยู่ทั่วไปเหมือนร้านส้มตำ ร้านลาบ  ทำให้นักดื่มยากที่จะอดใจไว้ได้ ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการปรับสิ่งแวดล้อม ช่วยให้คนรุ่นใหม่นอกจากจะไม่ใส่ใจยาเสพติดแล้ว ต้องรวมถึงไม่ใส่ใจในอบายมุขที่ดื่มแล้วติดได้เช่นเดียวกัน  ปรับใจให้เข้มแข็ง มีพลังใจในการต่อสู้  ยึดหลักปฏิบัติตามศีลข้อ 5....ห้ามดื่มสุราทุกระยะหรือเป็นอาจิณ เพื่อตัวเราและคนรอบข้างที่คุณรัก

 

 

หมายเลขบันทึก: 287749เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2009 17:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เพิ่งค้นเจอในnet เลยตามมาอ่านแต่ยังไม่เคยผิดศีลข้อ5นะแล้วไม่อยากส่งเสริมการดื่มด้วย

เลยไม่เคยเลี้ยงฉลองให้ใครเพราะกลัวบาป

เห้นด้วยอย่างยิ่งอะไรๆๆมันก็อยู่ที่ใจเราจริงๆ

จากน้อง....ที่ยังคิดถึงพี่เสมอโดยเฉพาะเมื่อมีโรคระบาด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท