หลังจากที่เปิดตัวบล็อกแล้วไม่ค่อยมีเวลาในการมาเล่าประสบการณ์นี่เป็นเรื่องแรกที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องของการบริหารจัดการกลุ่มพัฒนาอาชีพที่ กศน.ได้ส่งเสริมและพัฒนาในพื้นที่ตำบลไชยมนตรีคือกลุ่ม ปุ๋ยหมักบ้านน้ำพุหมู่ที่ 4 ตำบลไชยมนตรี อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
"กลุ่มปุ๋ยหมักบ้านน้ำพุ" แรกเริ่มได้รับการจัดการเรียนการสอนจาก
กศน.อำเภอเมือง
นครศรีธรรมราชโดยใช้วิธีการจัดแบบหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น ในปงบประมาณ
พศ.2544 ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียนแบบโปรยหว่าน
ไม่ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
จัดครบชั่วโมงแล้วถือว่าเสร็จโครงการ
จนกระทั่งผู้ที่ได้นำปุ๋ยหมักจากการหมักในครั้งนั้นไปใช้แล้ว
ได้ผลและมีความต้องการที่จะใ้มีโครงการอบรมหลักสูตรนั้นอีก
ผมในฐานะครูอาสาสมัครรับผิดชอบในพื้นที่
ได้ลงไปตรวจสอบข้อมูลและกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสนใจ
แล้วจึงนัดทำเวทีเพื่อหาแนวทางในการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในขั้นตอนน้ีทำความหนักใจให้กับผมพอสมควรเพราะในครั้งแรกมีผู้สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการน้ีประมาณ
43 คน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เหลือ 7 คน สาเหตุหรือครับ...
เพราะชาวบ้านคิดว่าเป็นโครงการที่จะต้องได้เงินหรือวัสดุฝึกเปล่าๆ
แต่ถ้าให้ร่วมระดมทุนก็จะไม่เอา ใเวทีประชุมครั้งนั้นมีสมาชิกแค่ 7 คน
ระดมทุนได้ 14,000.- บาท และตกลงกันว่าจะนำเงินส่วนน้ีไปสร้างโรงเรือน
โดยซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างและสมาชิกทุกคนช่วยกันสร้าง
วัสดุบางส่วนเช่นไม้ เสา ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากคนในชุมชน
และจากสมาชิก โรงเรือก่อสร้างเสร็จ เงินหมด
ซึ่งขณะนั้นอยู่ในระหว่างปีงบประมาณ 2545 ซึ่ง กศน.
เมืองนครศรีธรรมราชได้ดำเนินการจัดกิจกรรมกลุ่มพัฒนาอาชีพในลักษณะของการจัดโครงงานอาชีพ
ซึ่งมีเงินสนับสนุนให้กับกลุ่ม จำนวน 6,000.- บาท
กลุ่มใช้ในการจัดซื้อวัสดุในการผลิตปุ๋ยหมัก
ในการผลิตครั้งแรกกลุ่มผลิตได้ 8 ตัน ซึ่งนับว่าไม่น้อย
ปุ๋ยหมักที่ได้สมาชิกได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1
สมาชิกแบ่งกันนำไปใช้ ส่วนที่ 2 แจกให้กับเพื่อนบ้านไปทดลองใช้
ปุ๋ยหมัก 8 ตัน หมดในเวลา 2 วันหลังจากบรรจุกระสอบ
แต่วัสดุในการผลิตปุ๋ยครั้งต่อไปบางอย่างหมด ต้องหาซื้อใหม่
สมาชิกได้ระดมทุนอีกครั้งได้เงินมา 4,200.- บาทนำไปซื้อวัสดุที่ขาด
และได้ผลิตปุ๋ยรอบที่ 2 ซึ่งไ้ปุ๋ยหมักประมาณ 8 ตัน
สมาชิกได้เห็นปัญหาในเรื่องของทุนในการผลิตจึงได้ประชุมหารือแนวทางในการบริหารกลุ่มและการดำเนินการของกลุ่มโดยมีมติให้ปุ๋ยหมักทุกรอบที่ผลิตได้แบ่งออกเป็น
2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งแบ่งให่สมาชิกนำไปใช้โดยไม่คิดราคา ส่วนที่ 2
ขายให้กับสมาชิกที่ต้องการปุ๋ยเพิ่มและประชาชนที่ต้องการ
ปรากฎว่าปุ๋ยรอบที่ 2 หมดภายในไม่ถึง สัปดาห์
และกลุ่มมีเงินสำรองจากการขายปุ๋ยครั้งนั้น 8,000.- กว่าบาท
เมื่อมีเงินก็มีปัญหา จะต้องหาคนรับผิดชอบ
กลุ่มได้ประชุมคัดเลือกสมาชิกเพื่อทำหน้าที่ในเรื่องการเงินของกลุ่ม
และจะเลือกคณะผู้บริหารกลุ่ม แต่มติที่ประชุมกลับเป็นว่า
ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อความโปร่งใส ทุคนต้องช่วยกันทำบัญชี
ทุกคนต้องช่วยกันขาย ทุกคนต้องช่วยกันบริหาร
เพราะกลุ่มเกิดขึ้นมาจากคนทุกคน และในครั้งนั้น
กลุ่มก็มีสมาชิกเพิ่มเป็น 20 คน กลุ่มได้กำหนดระเบียบของกลุ่ม
โดยให้สมาชิกทุกคนร่วมกันทำกิจกรรมของกลุ่มทุกครั้ง
สมาชิกทุกคนมีความช่วยเหลือเกื้อกูล รู้จักเสียสละแบ่งปัน
ทุกคนทำหน้าที่ทุกหน้าที่
อย่างมีความสุขไม่ยึดติดในตำแหน่ง
ทุกคนเสมอเหมือนกันหมด
จากบทเรียนน้ีเป็นอีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกได้ว่า
การดำเนินกิจกรรมให้บรรลุประสบผลสำเร็จ
ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิธีการที่เป็นระเบียบแบบแผน วิธีการคิด
การทำแบบบ้านๆก็สามารถ
นำไปสู่ความสำเร็จได้