ผู้สืบทอด โดย อาจารย์นิษฐา หรุ่นเกษม กรรมการโครงการสื่อสร้างสรรค์สุขภาพ


“อยากจะถ่ายทอดภูมิปัญญาให้กับลูกๆหลานๆสืบต่อๆกันไป เพราะว่าทุกวันนี้ไม่มีคนสนใจแล้ว เพราะมันต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้ ไปครั้งสองครั้งจำไม่ได้ พอต้องไปหลายครั้งก็ไม่มีใครเอา ภูมิปัญญาด้านสมุนไพรก็จะหมดไป ทีนี้หนังสือตำรายา ตำราสมุนไพรของบ้านเราก็ยังไม่ได้ทำ ถ้ามีการมาถ่ายทำเก็บภาพไว้ เก็บวิธีทำ ก็คงจะดี”

                      “อยากจะถ่ายทอดภูมิปัญญาให้กับลูกๆหลานๆสืบต่อๆกันไป เพราะว่าทุกวันนี้ไม่มีคนสนใจแล้ว เพราะมันต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้ ไปครั้งสองครั้งจำไม่ได้ พอต้องไปหลายครั้งก็ไม่มีใครเอา ภูมิปัญญาด้านสมุนไพรก็จะหมดไป ทีนี้หนังสือตำรายา ตำราสมุนไพรของบ้านเราก็ยังไม่ได้ทำ ถ้ามีการมาถ่ายทำเก็บภาพไว้ เก็บวิธีทำ ก็คงจะดี
 
                        ถ้อยคำในข้างต้น มิใช่เสียงรำพึงรำพันของป้าฮอง แม่ครูภูมิปัญญาด้านสมุนไพรของตำบลบ้านอีเซ กิ่งอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเสียงสะท้อนของพ่อครูและแม่ครูในทุกที่ที่ห่วงกังวลต่ออนาคตของภูมิปัญญาพื้นบ้านที่จะค่อยๆหดหายตายลงไป เพราะไร้ผู้สืบทอด
 
                        แต่คงเป็นโชคดีของป้าฮองและคนบ้านอีเซและบ้านเสียว เพราะที่นี่มีครูจันทร์และครูจ่อย คณะกรรมการป่าชุมชนโนนใหญ่ที่รับเอาภาระการสืบสานภูมิปัญญาและรักษาป่าชุมชนมาดำเนินการ เพื่อเตรียมการส่งทอดต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่ของชุมชนต่อไป
 
                        เมื่อโครงการสื่อสร้างสรรค์สุขภาพ ชุดโครงการการสื่อสารเพื่อสุขภาพ ภายใต้มูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ในฐานะเครือข่ายการสื่อสารด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อมของครูจันทร์และครูจ่อย ได้รับรู้ถึงความต้องการดังกล่าว จึงได้วางแผนที่จะจัดกิจกรรมร่วมกัน ในชื่อว่า ค่ายเยาวชนผลิตสื่อเพื่อการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชุมชน โดยได้รับความสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
 
                        ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ โครงการฯได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากทีมงานของอาจารย์นิคม หรือลุงนิคของเด็กๆ จากมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ ทีมงานของคุณสุชัย หรือพี่กี้ จากโครงการสื่อสร้างสุข จังหวัดอุบลราชธานี และเหล่าครูภูมิปัญญาของกิ่งอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ อาทิ พ่อสมัย ภูมิปัญญาด้านป่าชุมชน พ่อรัตน์และพ่อขำ ปราชญ์ชุมชนด้านความเชื่อของชุมชน ป้าฮอง แม่สำราญ แม่หมอด้านสมุนไพร ในการเป็นวิทยากรให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ โดยใช้สถานที่ของโรงเรียนบ้านอีเซและป่าชุมชนโนนใหญ่เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เสกป่าให้เป็นสื่อ เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
                

        กิจกรรมครั้งนี้จับเอาสื่อสมัยใหม่อย่างสื่อวิดีโอมาควบคู่เข้ากับการเปิดป่าเป็นห้องเรียนรู้ โดยมีเป้าหมายหลัก คือการติดตั้งความรู้ในเรื่องของการสื่อสารเรื่องป่า ทั้งวิธีการหาข้อมูลที่ครบทุกด้านในเรื่องป่า วิธีการถ่ายทำวิดีโอ การตัดต่อภาพและเสียง และการนำเสนอผลงาน ให้กับเด็กและเยาวชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในเขตภาคอีสาน เช่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ นครพนม ฯลฯ ได้นำไปถ่ายทอดต่อเยาวชนคนอื่นๆต่อไป และเป้าหมายรองคือความต้องการของโครงการฯที่จะช่วยต่อเชื่อมเส้นสายความสัมพันธ์ระหว่างคนหลากหลายวัยเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะเด็กและผู้เฒ่าผู้แก่ที่โลกสมัยใหม่ทำให้คนสองวัยแยกไกลออกจากกัน โดยโครงการฯใช้กลวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ปู่/ย่าสอนหลานเรื่องป่า และ ลูกหลานขอถามให้ปู่ย่าตอบ
 
                        สามวันแห่งการทำกิจกรรมภายใต้กติกาการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมที่พี่ๆทีมงานตั้งไว้ว่า ทุกคนต้องได้จับกล้อง ต้องได้ตัดต่อภาพและเสียง และเนื้อหาเรื่องป่าที่ไปถ่ายทำมานั้นต้องมีครูภูมิปัญญาเป็นผู้ให้ข้อมูลอยู่ด้วย ผลก็คือ เด็กๆและเยาวชนได้เรียนรู้เนื้อหาเรื่องป่าชุมชนโนนใหญ่ ได้รู้จักป่าและรู้จักตัวเอง เด็กๆยังกล้าซักกล้าถามและกระตือรือล้นที่จะพูดคุยกับพ่อครูแม่ครูในเรื่องต่างๆ อย่างน้องบอส น้องเยาวชนจากโรงเรียนบ้านอีเซ ในกลุ่มความเชื่อเรื่องป่า ที่ถามพ่อสมัยไม่ขาดปากว่า พ่อครูครับ เป็นจังใด๋จึงต้องบวชจอมปลวก พ่อครูครับ... พ่อครูครับ...
 
                        เด็กๆยังได้สนุกสนานกับอุปสรรคที่เข้ามาท้าประลองปัญญานานาชนิดในการหัดถ่ายทำวิดีโอระหว่างการเดินป่าชุมชน บางคนท่องสคริปต์ได้จนขึ้นใจ แต่พอหนูได้ออกหน้ากล้อง ก็ลืมจนหมดสิ้น เพื่อนๆในกลุ่มต้องช่วยกันเขียนบทลงกระดาษใบโตให้อ่าน มือใหม่หัดถ่ายหลายคน ถ่ายไปใจก็สั่น มือก็ยิ่งสั่นไหว ต้องใช้ เทคนิคแสวงเครื่อง เมื่อขากล้องไม่มีให้ ก็เพื่อนนี่แหละช่วยได้ อุทิศหัวให้วางกล้อง ภาพจะได้ไม่สั่นไหว
 
                       

 

                       น้องแจ๊ค ตัวแทนกลุ่มเยาวชนสื่อพื้นบ้านจากจังหวัดนครพนม ได้เล่าให้พี่ๆทีมงานฟังว่า ยังไม่เคยได้จับวิดีโอกับคอมพิวเตอร์มาก่อนเลย
 
                        ตอนแรกผมนึกว่าอาจารย์จะให้มาเรียนคอมพิวเตอร์ ไม่รู้ว่าจะได้มาทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเยาวชนที่อีเซ พอได้รู้ว่าจะได้ถ่ายวิดีโอและตัดต่อวิดีโอ ตื่นเต้นมากเลยครับ เป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะว่าที่บ้านไม่มีอย่างนี้ ผมได้มาที่นี่เพราะเป็นตัวแทนจากกลุ่มเยาวชนที่บ้าน ดีใจมาก อยากให้ไปที่บ้านผมบ้าง อยากให้เพื่อนได้ทำอย่างนี้บ้าง
 
                        แม้ว่าจะอยากให้โครงการฯไปที่บ้านนครพนมบ้าง แต่น้องแจ๊คก็บอกพี่ๆว่า ระหว่างนี้ เพื่อนๆที่มางานค่ายด้วยกันก็จะรวมทีมกันกลับไปสอนเพื่อนๆในกลุ่มที่ไม่ได้มาก่อน จะขอยืมกล้องจากเพื่อนจากครูไปถ่ายในงานต่างๆ นอกจากจะเป็นกิจกรรมเสริมรายได้แล้ว ยังทำให้มีกิจกรรมดีๆทำ มา สุมหัว กันทำงานแต่ ไม่มั่วสุม ทำสิ่งไม่ดีอีกด้วย
 
                        คำตอบของน้องแจ๊ค ทำให้ทีมงานกลับมาถามครูจันทร์ คณะกรรมการป่าชุมชน จากโรงเรียนบ้านเสียว ผู้ประสานงานกิจกรรมในครั้งนี้ ว่าอนาคตหลังจากงานค่ายนี้เสร็จไปแล้วครูจันทร์จะทำอะไรต่อ
 
                        ครูจันทร์บอกกับทีมงานถึงอนาคตในวันข้างหน้าว่า เมื่อเสร็จจากกิจกรรมครั้งนี้แล้ว ครูจันทร์จะเปิดป่าให้เป็นห้องเรียน ให้เด็กๆนักเรียนใช้กล้องวิดีโอมาเรียนรู้เรื่องต่างๆ เช่น เรื่องพืชป่าสวนครัว หรือเรื่องของบุคคลสำคัญในชุมชน เพื่อให้ความสนุกช่วยสอดแทรกเรื่องป่าให้เด็กๆได้เรียนโดยไม่รู้สึกตัวและได้เจาะลึกในเรื่องนั้น
 
                        ถึงข้อจำกัดของเราจะอยู่ที่เรายังมีอุปกรณ์ไม่พอ เพราะโรงเรียนมีงบประมาณที่จำกัด แต่เราจะเอาผลงานของเด็กๆไปขยายต่อกับเพื่อนครู และให้เพื่อนๆช่วยกันหาหนทาง เช่น กระตุ้นให้โรงเรียนหรือผู้ปกครอง ชุมชน หรืออบต.ที่มีอุปกรณ์อยู่แล้วเอามาช่วยกัน หรือครูจันทร์อาจจะทำเป็นโครงการสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนของชุมชนไปที่อบต. อบจ. ต่อไป
 
                        หวังไว้ล่วงหน้าแทนครูจันทร์ว่าจะได้สมหวัง เพราะกิจกรรมในครั้งนี้มีทั้งอบต. กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงครูโรงเรียน และป่าไม้ ในบริเวณพื้นที่ของป่าชุมชนโนนใหญ่มาเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆกันอย่างคับคั่ง
 
                        และที่น่าชื่นใจเป็นอย่างที่สุด ทั้งแทนป้าฮองและครูภูมิปัญญาทุกคน ที่น้องโจ กลุ่มอาสาสมัครเยาวชนบ้านโนนใหญ่ ได้ประกาศเจตนารมย์ของกลุ่มไว้ว่า
 
                        เราจะทำกิจกรรมเพื่อสืบทอดเจตนารมย์ของผู้ปกครองของพวกเราที่เป็นคณะกรรมการป่าชุมชน เราจะเป็นต้นกล้ารุ่นใหม่เพื่อป่าโนนใหญ่และชุมชนของเรา
 
 
                                                 + + + + + + + + + + + +

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 28744เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2006 12:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน


ความเห็น
แอนคะ ขอบคุณนะคะที่บันทีกข้อความให้ พี่มาลงรูปและใส่สีเพิ่มเติมค่ะ หัดทำค่ะ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่เอ๋ ทำสวยกว่าเราอีก อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท