กว่าที่จะเป็นผู้นำ

ในช่วงแรกๆของการรับราชการ  ข้าพเจ้าไม่เคยคิดที่จะสอบเพื่อคัดเลือกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา  ด้วยคิดว่าตัวเองชอบงานวิชาการน่าจะมีอนาคตที่รุ่ง  แต่วันหนึ่งถึงจุดเปลี่ยน  จึงเดินทางสู่เส้นทางผู้บริหารสถานศึกษาอย่างเต็มตัว

            หากมองย้อนอดีตถามว่าก่อนมาเป็นผู้บริหารสถานศึกษา  ข้าพเจ้ามีวิธีการพัฒนาตนเองอย่างไร  อาจได้รับคำตอบใกล้เคียงกับผู้นำทั่วๆไป  กล่าวคือ

            1.    เรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ  ทั้งจากเอกสารตำรา     เพื่อนร่วมงาน    ผู้รอบรู้ต่างๆ  เพื่อให้มีความเข้าใจในวิชาชีพ   พัฒนาด้านความรู้  พัฒนาด้านทักษะและการปฏิบัติตามระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติ  พยายามเรียนรู้การเข้าสังคม  เพื่อเรียนรู้การเข้ากับพวกพ้องและปรับตัวเข้ากับสังคม

            2.  นำความรู้และทักษะที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปปฏิบัติให้เกิดผลต่อผู้เรียน  เพื่อนร่วมงาน  องค์กรและราชการ  ทุกครั้งที่คิดริเริ่มสิ่งใดและสามารถขยายผลต่อเพื่อนร่วมงานให้สามารถปฏิบัติงานได้ก้าวหน้าจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจ ซึ่งจะปฏิบัติงานด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง  มีความกระตือรือร้น   มีความจริงใจ  รู้จักกาลเทศะและมีความรับผิดชอบ

            3.  มีการวัด/ประเมินผลตนเองและการปฏิบัติงานเป็นระยะๆ   สังเกตปฏิกิริยาของผู้อื่นที่มีต่อตน  ถ้าเป็นไปในทางดีก็หมายความว่าตนไม่มีอะไรบกพร่อง รับฟังความคิดของคนอื่น   เป็นการแสดงถึงความใจกว้าง ที่จะยอมรับความเป็นจริง  เพราะเป็นการสะท้อนตัวเราเอง  จากคนที่จะวิจารณ์ด้วยความจริงใจ เช่น พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่  เพื่อนสนิท   เพื่อนำมาวิเคราะห์ ไตร่ตรอง กับสิ่งที่เราประเมินตนเอง  เพื่อหาจุดปรับแก้ไขสิ่งบกพร่องให้สมบูรณ์ขึ้น

            4.  พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการศึกษา ค้นคว้า หาความรู้ ด้วยการเข้าประชุมทางวิชาการ อบรม สัมมนา   การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านวิชาการในหมู่เพื่อนร่วมงาน  ฯลฯ