สัตว์ที่อยู่คู่พงศาวดารไทย หรือบัดนี้จะเป็นเพียงแค่ตำนาน...

คนเลี้ยงช้าง ฤๅ ช้างเลี้ยงคน

อีกแล้วเหรอ!!!............. เอ๋ลากเสียงยาวขณะนั่งดูข่าวกับแม่

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ช่วยช้างตกท่อระบายน้ำกลางเมืองระยอง

ระยอง 9 ส.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือ "พลายพลุ" ช้างวัย 3 ปี ตกท่อระบายน้ำกว้าง 1 เมตร ลึก 1.60 เมตร ริมถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมือง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (9 ส.ค.) ซึ่งการช่วยเหลือค่อนข้างลำบาก เพราะตัวช้างติดอยู่กับปากท่อคอนกรีต ไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้ ขณะที่ช้างส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด และการจราจรเริ่มติดขัด เพราะต้องปิดกั้นบริเวณดังกล่าว ประกอบกับมีประชาชนมามุงดูนับร้อยคนเพื่อให้กำลังใจช้าง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครระยอง ใช้เครื่องขุดเจาะสกัดปูนซีเมนต์บริเวณปากท่อให้กว้างขึ้น หลังใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงนำพลายพลุขึ้นจากท่อได้อย่างปลอดภัย แต่ช้างมีสภาพอ่อนเพลีย

เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของพาช้างมาจากจังหวัดสุรินทร์เข้ามาหาเร่ร่อนขายอาหารช้างแก่นักท่องเที่ยวใน จ.ระยอง ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเกิดเหตุพาช้างเดินขายกล้วยและอ้อยอยู่ริมถนน และช้างเหยียบฝาท่อก่อนตกลงไป คาดว่าฝาท่อคงชำรุดและรับน้ำหนักช้างไม่ไหว.- สำนักข่าวไทย

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ปิดฉาก “พังกำไล” ครบ 2 เดือนล้มลงด้วยความสงบ

“พังกำไล” หรือ “พังแต๋น” ที่ประสบอุบัติเหตุ รักษาพยาบาลอยู่ที่ สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จังหวัดสุรินทร์ ล้มลงแล้ว จากอาหารมาอุดตันที่หลอดลม สัตวแพทย์พยายามช่วยชีวิต แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ทำให้พังกำไลเสียชีวิตลงอย่างสงบ รวมระยะเวลาที่พังกำไลรักษาตัว ครบ 2 เดือนพอดี

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

พูดได้คำเดียวค่ะว่า "ใจตก"

"ใจตก" เป็นคำที่เอ๋ใช้บรรยายความรู้สึก ที่เป็นขั้นกว่าของคำว่า"ใจหาย"

คือความรู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก จะเห็นว่า เราได้รับรู้ข่าวเรื่องช้างแบบนี้แทบจะรายวัน

สถานการณ์ช้างไทย เข้าสู่ วิกฤต!!!!! แล้วหรือ

หากจะกล่าวถึงช้างไทย

ช้างไทยในอดีตใช้เป็นสัตว์พาหนะในสงครามแบบรบกันบนหลังช้างตัวต่อตัว ที่เรียกว่า "ยุทธหัตถี" ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติยศสูงสุด แต่การรบแบบนี้เริ่มเสื่อมลงเมื่ออาวุธปืนไฟเริ่มเกิดขึ้น และแพร่หลายไปยังส่วนต่างๆของโลก ช้างไม่อาจต่อสู้กับปืนไฟได้ การรบบนหลังช้างจึงค่อยๆเสื่อมลง ฉะนั้นช้างจึงกลายเป็นสัตว์พาหนะที่ถูกนำไปใช้ในด้านอื่นๆแทน

ในปัจจุบัน บทบาทและความสำคัญของช้างเริ่มลดน้อยลง ช้างถูกนำไปลากไม้ลากซุงเริ่มน้อยลง เพราะการตัดไม้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ช้างจึงต้องออกจากบ้านป่าดงพงไพร เข้าสู่กรุงศรีวิไล เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสี

แน่นอนว่า สัตว์ป่า มิใช่ สัตว์เมือง ปัญหาย่อมมีตามมาอย่างแน่นอน

คนเลี้ยงช้างหากินด้วยการดึงเอาความสงสาร ความเห็นใจจากซอกหลืบเล็กๆแห่งหัวใจ

ที่เอ๋คิดว่ามีในหัวใจของคนไทยทุกคน ออกมา

"ซื้ออ้อยเลี้ยงช้างหน่อยครับ....... " "ช่วยเลี้ยงช้างหน่อย......"

ตามต่อมาด้วยเสียงร้อง แปร๊น แปร๊น กับการย่อตัวขอบคุณ

...............แล้วใครจะอดสงสารไม่ได้ จริงมั้ยคะ

สายตาคู่นี้บอกอะไร?

เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบค่ะ เพราะเอ๋เชื่อว่าทุกคนมีคำตอบในใจแน่นอน

สำหรับเอ๋นะคะ หากลองมองตาสัตว์หลายๆชนิดจะพบว่าสัตว์แต่ละชนิดมีแววตาที่ไม่เหมือนกัน เอ๋เชื่ออย่างนั้นค่ะ หากมองดูแววตาของเสือจะพบว่าเค้ายังมีสัญชาติญาณของสัตว์ป่ามากอยู่ แต่สัตว์บางชนิดเช่น วัว ควาย รวมทั้งช้าง แววตาของเค้าจะอ่อนโยนและเป็นมิตร

สำหรับ....แววตาคู่นี้เค้าไม่ได้อ้อนวอนหรือร้องขอ หรือล้ำเลิกบุญคุณว่าเค้าได้ช่วยปกป้องชาติ ปกปักประเทศ ไม่ได้ร้องขอที่นอนอันแสนนุ่ม หรืออาหารอันโอชา..... กับคุณประโยชน์อันมหาศาลที่เค้าได้ทำไว้ให้กับชาติประเทศ

จะต้องได้ยินได้ฟังข่าวช้างตกท่ออีกสักกี่ครั้ง โดนไฟฟ้าช็อตอีกสักกี่หน ถึงจะตื่นตัวช่วยพวกเค้าคะ หรือเราจะรอให้ถึงวันที่ต้องเปิดหนังสือ สอนเด็กรุ่นหลังว่า......รูปนี้แหละคือช้างไทย!!!!!

ขอเสริมความรู้เรื่องช้าง นีสสสสส นึงนะคะ

เพื่อมิให้เสียหน้า ที่คุณแม่สอนภาษาไทย ดีกรี อ.3 มาหมาดๆ

แต่ก็คงจะขาดนักพิมพ์สัมผัส มือวางอันดับหนึ่งอย่างเราไม่ได้ อิ อิ (โม้ไปนิดค่ะ)

ช้าง เป็นสัตว์บกสี่เท้าชนิดหนึ่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Elephas maximus

อยู่ในวงศ์ Elephantidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกันกับแมมมอสค่ะ

ช้าง มีชื่อเรียกต่างกันในหลายๆภาษาค่ะ เท่าที่เอ๋รู้นะคะ

ภาษาจีนเรียก大象อ่านว่า ต้า - เซี่ยง แปลว่า ช้างใหญ่ (ต้า แปลว่า ใหญ่ , เซี่ยง แปลว่า ช้าง)

ส่วนช้างตัวเล็กๆ เค้าเรียก 小象 อ่านว่า เสี่ยว - เซี่ยง (เสี่ยว แปลว่า เล็ก, น้อยค่ะ)

เหมือนกับ小云 อ่านว่า เสี่ยว - อวิ๋น แปลว่า เมฆน้อย (อวิ๋น แปลว่า เมฆค่ะ)

เรียนภาษาจีนมาสองคอร์สค่ะ ไม่ต้องแปลกใจ(วิชาเอกฟิสิกส์ วิชารองภาษาจีน และพฤกษศาสตร์ค่ะ

อิ อิ (",)

ส่วนภาษาอีสานเหรอคะ......อะไรนะพี่เดย์ ซ้างอยู่ไส............

ภาษาเหนือว่าไงคะพี่เอก........ เสริมให้น้องด้วยนะคะ

อะ อะ ..เข้าสู่ความรู้กันดีกว่าค่ะ ออกนอกเรื่องมานานละ ต่อค่ะ

เจ้าช้างเนี่ยมีงวง และ งา ที่มีขนาดใหญ่กว่าสัตว์สี่เท้าทุกชนิดในปัจจุบันค่ะ

งาช้าง ศัพท์ภาษาไทยเราเรียกอีกชื่อว่า ขนาย (อ่านว่า ขะ - หนาย)

ช้างตัวผู้ เราจะเรียกว่า ช้างพลาย หรือเรียกตามลักษณะ เช่น ช้างสีดอ , ช้างงวง , ช้างนรการ(ช้างที่ไม่มีงาหรืองาสั้น)

ส่วนช้างตัวเมีย เราจะเรียกว่า ช้างพัง ช้างพังนี่จะเป็นหัวหน้าโขลงค่ะ (เห็นมั้ยคะว่าในสังคมช้างตัวเมียจะเป็นผู้นำ ดังสุภาษิตที่ว่า ช้างเท้าหน้า) ช้างพังที่เป็นหัวหน้าโขลง เราจะเรียกว่า ช้างแม่แปรก แต่คำนี้ไม่สุภาพ คำสุภาพเค้าจะเรียกว่า ช้างแม่หนัก

ลักษณะนามที่ใช้เรียกช้าง แบ่งเป็น 2 ประเภทค่ะ

ถ้าเป็นช้างป่า หรือ ช้างไพร (ช้างที่ยังไม่ได้ฝึกหัด) ลักษณะนาม เรียกเป็น ตัว

แต่ถ้าช้างนั้นขึ้นเพนียดแล้ว รวมทั้งช้างเผือกด้วย เราก็จะเรียกเป็น เชือก

ส่วนสมุหนามของช้างใช้อย่างเดียวกันทั้งหมดค่ะ ว่าเป็นโขลง อาทิเช่น พวกเราไปกินส้มตำกันเป็นโขลง (อย่างนี้เจ้ามือถึงขั้นล้มละลายได้ค่ะ อิ อิ)

ที่เล่ามา อย่าเบื่อนะคะ เป็นเรื่องที่คนไทยอย่างเราต้องรู้ ไม่งั้นอาจหลงลืมได้ อ้อ....เอ๋ขอแนะนำหนังสือดีหนึ่งเล่มเกี่ยวกับช้างค่ะ

ใครมีหนังสือดีๆ น่าอ่านรบกวนแนะนำเอ๋ด้วยนะคะ....ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

เขียนใน GotoKnow โดย เสี่ยวอวิ๋น
ใน กรุณาส่งถึงฟากฟ้า จดหมายนี้ถึงตา

คำสำคัญ (Tags): #ช้าง

หมายเลขบันทึก: 286177เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2009 14:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน