เมนูปาท่องโก๋แฟนซี


แมกกาซีนแปลก วันที่ 17 กรกฎาคม 2552

เมนูปาท่องโก๋แฟนซี

ปาท่องโก๋ที่คนไทยเรียกนั้น แท้จริงแล้วมีชื่อเรียกว่า อิ่วจาก้วย โดยมีที่มาจาก สมัยราชวงศ์ซ้อง ที่มีขุนนางกังฉินชื่อว่า "ฉินข้วย" หรือ "ฉินฮุ่ย" มีความอิจฉาริษยา นายทหาร "เยียะเฟย" หรือ แม่ทัพงักฮุย จึงได้วางแผนให้ฮ่องเต้เรียกตัวงักฮุยกลับจากแนวหน้า และ ฉินข้วย ทำให้เขาถึงแก่ชีวิตในเวลาต่อมา ข่าวล่วงรู้ไปถึงประชาชนจึงโกรธแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ช่วงนั้นชาวจีนนิยมรับประทานแป้งทอดอยู่แล้ว จึงมีคนคิดเอาแป้งสองชิ้นมาประกบกันเพื่อเป็นตัวแทนขุนนางกังฉินกับภรรยาแซ่หวัง แล้วนำมาทอดกินเพื่อระบายความแค้น เรียกว่า “อิ่วจาก้วย” หมายถึง น้ำมันทอดฉินข้วย

ส่วนที่คนไทย เรียกว่า ปาท่องโก๋ นั้น เพราะจำมาผิดสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากในสมัยรัชกาลที่ 6 ชาวจีนที่ขายปาท่องโก๋ หรือขนมน้ำตาลทรายขาว มักจะขายอิ่วจาก้วยด้วย พอคนขายตะโกนขายปาท่องโก๋ จึงเข้าใจว่า ปาท่องโก๋ คือ แป้งทอดอิ่วจาก้วยนั่นเอง แต่ในภาคใต้ผู้คนยังคงนิยมเรียกว่า อิ่วจาก้วยอยู่หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า จาก้วย ตามแบบสำเนียงใต้

โดยทั่วไปเรานิยมทานปาท่องโก๋คู่กับน้ำเต้าหู้ ในตอนเช้า แต่ก็มีบางที่ที่มีวัฒนธรรมการกินปาท่องโก๋ที่แตกต่างออกไป เช่น ที่เมืองตรัง ขึ้นชื่อเรื่องการดื่มโกปี๊คู่กับหมูย่าง ติ่มซำ พร้อมด้วยปาท่องโก๋(แท้ๆ) กับอิ่วจาก้วย และก็มีบางที่ที่นำปาท่องโก๋ไปทำเป็นเมนูที่ไม่เหมือนใคร อย่างร้าน Patonggo ซึ่งตั้งอยู่ที่ย่านบางลำพูบริเวณฝั่งตรงข้ามวัดบวรฯ

ร้านปาท่องโก๋ร้านนี้มีเมนูปาท่องโก๋ย่างหรือตั้งชื่อเก๋ไก๋เป็นภาษาอังกฤษว่า Grilled Chinese Donut โดยปกติที่เคยเราเห็นกันก็มีแต่ขนมปังย่างราดแยมต่างๆ แต่ที่นี่เขาใช้ปาท่องโก๋ย่างราดด้วยหน้าต่างๆมีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสังขยา นมข้น ช็อกโกแล็ต วานิลา แยมส้ม แยมสตรอเบอรี่ แยมมะพร้าว น้ำพริกเผา ส่วนราคาก็อยู่ที่ชุดละ 30 บาท และไม่เพียงแต่ขนมปังย่างที่ร้านปาท่องโก๋นี้ก็ยังมีเมนูปาท่องโก๋ไอศครีม ซึ่งเป็นสูตรที่คิดคิดเองโดยใช้ไอศครีมโฮมเมทที่ทำกันเองเช่นกัน ไอเดียเก๋นี้แทนที่ทางร้านจะตักไอศครีมมาวางไว้บนขนมปังแบบเดิมๆแต่เขากลับนำไอศครีมมาวางบนปาท่องโก๋แทน ทานไอศครีมกับปาท่องโก๋ก็ได้รสชาติดีไปอีกแบบ กลายเป็นเอกลักษณ์ของร้านที่หาไม่ได้ที่ไหน ไอศครีก็ให้เลือกหลากหลายรสชาติทั้งไอศครีมกะทิ บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก คุ้กกี้แอนด์ครีม เบอร์รี่ ฯลฯ ราดด้วยท็อปปิ้งแบบครีมเข้มข้น จนถึงพวกเชอร์เบตหวาน ๆ เปรี๊ยว ๆ

นอกจากปาท่องโก๋ย่างและปาท่องโก๋ไอศครีมแล้วไม่ไกลกันเท่าไรนัก ที่ร้านกินลมชมสะพาน ถนนสามเสนซอย 3 มีอาหารจานเด็ดที่ขึ้นชื่อของร้านคือ ปาท่องโก๋สอดไส้ ..  เมนูจานนี้เรียกว่าเปลี่ยนปาท่องโก๋ซึ่งจัดเป็นอาหารประเภทขนมปังทานเล่นรสจืดยามว่าง ให้กลายเป็นอาหารจานหลักประเภทอาหารคาวหวานมีรสชาติขึ้นมาเลยทีเดียว แต่จริงๆแล้วจะว่าไปเมนูปาท่องโก๋สอดไส้ของทานร้านก็ถูกเซ็ทให้เป็นของทานเล่นประมาณอาหารเรียกน้ำย่อย ออกแนวติ่มซำกลายๆซะมากกว่า ทานจิ้มกะซอสเปรี้ยวตามแบบติ่มซำทั่วไป แต่ที่แปลกเพราะเค้าสามารถเอามาผสมผสานได้อย่างดี โดยไม่มีความเลี่ยนของปาท่องโก๋เลย

ส่วนร้านไฮไลท์สุดยอดปาท่องโก๋ที่เราอยากจะแนะนำ รับรองว่าไม่เหมือนใครและยากที่จะมีใครเหมือนนั่นคือ ร้านปาท่องโก๋ของโกเหน่งซึ่งขายอยู่ที่ตลาดเช้าวโรรส จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่เป็นตลาดเช้าที่คนในท้องถิ่นนิยมมาจ่ายตลาด ใครที่จับจ่ายซื้อของอยู่ที่นี่จะได้พบกับร้านกาแฟร้อน ปาท่องโก๋ ที่เป็นรูปสัตว์ประหลาดต่างๆมากมาย ชื่อร้านว่าปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ โกเหน่ง ซึ่งหน้าตาปาท่องโก๋ของที่ร้านนั้นไม่ธรรมดา แต่ปาท่องโก๋ที่นี่เป็นรูปมังกร จระเข้ สุนัข ช้าง ไดโนเสาร์ กบ และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งยังสามารถสั่งให้โกเหน่งทำเป็นรูปสัตว์อะไรก็ได้ตามความพอใจ โดยเนื้อแป้งที่ใช้ทำนั้นเป็นแป้งแบบเดียวกับที่ใช้ทำปาท่องโก๋ แต่มีสูตรเฉพาะที่ทำให้แป้งเหนียวยิ่งขึ้น สามารถนำไปขึ้นรูปและแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆได้โดยไม่เสียรูปทรง และรสชาติก็ยังเหมือนกัน เพียงแต่ปาท่องโก๋รูปสัตว์จะมีเนื้อจะแน่น แล้วก็อิ่มท้องกว่าเดิม

โกเหน่งเจ้าของร้านผู้ออกความคิดในการทำปาท่องโก๋รูปสัตว์ประหลาดต่างๆ ขายปาท่องโก๋มานานนับสิบๆปี ภายหลังเขาจึงเกิดไอเดียคิดทำปาท่องโก๋เป็นรูปสัตว์ จนขายดิบขายดี และเพิ่มมูลค่าให้กับปาท่องโก๋ของเขาซึ่งแต่เดิมแค่เพียงชิ้นละบาทสองบาทให้กลายเป็นชิ้นละสิบบาทยี่สิบบาทได้ และก็มีเขาคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ โกเหน่งจึงมีชื่อเสียงมากในการทำปาท่องโก๋ เรื่องชื่อเสียงของโกเหน่งนั้น ได้มีการถ่ายทำทั้งทางทีวี หนังสือพิมพ์กันอยู่หลายรายการ เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ชมหรือผ่านตาชื่อเสียงของโกเหน่งไปบ้างแล้ว ถ้าใครไปเที่ยวเชียงใหม่ขอแนะนำให้ไปลองชิมดูสักครั้ง อากาศหนาวแล้ว ออกมาเที่ยวก็ตื่นแต่เช้าไปเดินเล่นตลาดริมแม่น้ำปิงวิวก็สวย กินน้ำเต้าหู้ของโกเหน่งกับปาท่องโก๋กันให้อร่อยไป แต่ขอแนะนำให้ตื่นเช้ากันสักหน่อย เพราะกว่าจะได้กินก็ต้องต่อคิวรอหน้าร้านกันแถวยาว เนื่องจากว่าต้องใช้เวลาในการทำสัตว์ประหลาดตัวละประมาณ 5 นาที เนื่องจากต้องแกะสลักลวดลายรวมไปถึงการที่ปาท่องโก๋รูปสัตว์มีเนื้อหนาจึงสุกยากกว่าปกติ หรือถ้าขี้เกียจรอก็เอาปาท่องโก๋หน้าตาปกติไปกินเล่นกันก่อน แต่ถ้าใครขี้เกียจตื่นเช้า โกเหน่งเขาก็มีอีกร้านหนึ่งตั้งอยู่บนถนนกำแพงดิน ซึ่งร้านนี้เปิดขายในช่วงกลางคืน ส่วนเรื่องราคานั้นก็ไม่แพงอย่างที่คิด อย่างเจ้ากบตัวอ้วนพองเนื้อเยอะตัวละ 10 บาทเท่านั้น ไดโนเสาร์ตัวละ 15 บาท ช้างก็ตัวละ 15 บาทเช่นกัน แต่มังกรตัวใหญ่กว่าเพื่อน ตัวละ 20 บาท กินกับน้ำเต้าหู้ถุงละ 5 บาทเท่านี้ก็อิ่มอร่อยกันได้แล้ว

ในการทำนั้นโกเหน่งมีลูกมือเป็นคนในครอบครัว ต่างก็มาช่วยกันขาย และให้บริการกันอย่างมือระวิง แต่ถ้าทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆนั้นโกเหน่งจะเชี่ยวชาญที่สุด โกเหน่งบอกว่าตัวมังกรใช้เวลาทำนานกว่าตัวอื่นเพราะมีรายละเอียดเยอะ
            ส่วนการเดินทางไปที่ร้านนั้น จากตัวเมืองเชียงใหม่ให้เริ่มจากวิ่งเข้าถนนช้างม่อยจนสุดถนน เมื่อผ่านไฟแดงคนข้ามถนนมาแล้วจะเจอสามแยกให้มาทางขวามือ (ถ้าตรงไปจะตรงไปถึงริมน้ำปิง) ผ่านสะพานคนข้ามมาสัก 20 เมตร จะเห็นร้านแว่นตาท้อปเจริญอยู่ทางซ้ายมือติดกับร้านแว่นตาท้อปเจริญนี้จะเป็นซอย ร้านโกเหน่งจะอยู่ในซอย มองเข้าไปก็จะเห็น หรือจะโทรไปสอบถามเส้นทางล่วงหน้าได้ ที่เบอร์โทร 089-7566444 ถ้ามากันเช้าๆ ช่วง 7-8โมงเช้า ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ยังพอจอดรถข้างถนนปากซอยบริเวณแถวนี้ได้เลย แต่ถ้าวันธรรมดา อาจจะต้องจอดให้คนลงไปซื้อแทน


 

หมายเลขบันทึก: 285862เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2009 18:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ยศปลาท่องโก๋เพรชกระเกรษ52หลังเขตภาษีเจริญอร่ยอมากๆ*-*

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท