ข้อเสียของการเรียนพิเศษระดับประถม


การเรียนพิเศษระดับประถมมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน

จากคราวที่แล้วได้พูดถึงข้อดีของการเรียนพิเศษสำหรับแม่ไปแล้ว - คือ ได้เวลาว่างมานิดหน่อย ส่วนข้อดีของลูกคือ ได้ความรับผิดชอบมานิดหน่อยเเหมือนกัน ที่นี้มาต่อที่ข้อเสียที่เกิดกับแม่บ้าง แม่มีภาระเพิ่มขึ้นเพราะต้องไปรับไปส่ง จะไปรับช้าก็ไม่ได้เพราะจะไม่ทันเรียนพิเศษ พอเลิกทำงานก็ต้องรีบไป การทำอะไรรีบๆ ทำให้เกิดความเครียดตามมา พอเกิดความเครียด ความผิดพลาดจะตามมาเป็นเหตุและผลต่อเนื่องกัน คนอื่นเลิกงานจิตใจแจ่มใสเตรียมตัวพักผ่อน สบายใจ เตรียมไปออกกำลัง หาของอร่อยทาน เราต้องรีบไปรับลูก กระหืดกระหอบ ที่พูดไม่ได้บอกว่าเป็นภาระแต่แค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าการเรียนพิเศษตอนเย็นในเวลาที่จำกัดต้องรีบและรีบมาก

พอส่งลูกเรียนตอนเย็นเสร็จ กว่าจะเลิกเกือบทุ่ม กลับบ้านอาบน้ำ ทานข้าว ทั้งบอกทั้งดุทั้งว่า กว่าจะเสร็จภาระกิจพวกนี้เกือบสองทุ่ม ถึงสองทุ่มครึ่ง เหนื่อยกันทั้งแม่ทั้งลูก แต่ยังนอนไม่ได้ มีงานโรงเรียนต่ออีก ถ้าเป็นวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ไม่เป็นปัญหามากเพราะลูกทำได้ แต่ถ้าเป็นอ่านสังคม อ่านวิทยาศาตร์ แบบเนื้อหายาวๆ อันนี้แทบแย่ทั้งแม่ทั้งลูก เพราะกว่าจะมาเริ่มอ่านกันก็หลังทำการบ้านโรงเรียน การบ้านเรียนพิเศษเสร็จ นั่นก็เหนื่อยยกที่สองแล้วตั้งแต่กลับมา แทบไม่มีเรี่ยวแรงเหลือสำหรับการอ่านเนื้อหายาวๆ แบบสังคมแล้ว ลูกก็จะหลับ แม่จะหลับ บางทีสงสารลูก ชวนกันนอนดีกว่า พรุ่งนี้เช้าค่อยมาอ่าน ดีว่าลูกปลุกง่าย ถ้ารู้ว่างานยังไม่เสร็จปลุกเช้าๆ ก็ตื่น แต่ไม่อยากให้ลูกทำแบบนั้นกลัวติดนิสัยมาปั่นงานตอนเช้า - เหมือนแม่ตอนเรียน  ลูกอ่านไป เราก็เอาแบบฝึกหัดมาถามบ้าง ให้ลูกตอบตอนกินข้าว ตอนอาบน้ำ กิจกรรมทั้งหมดนี้จะดีถ้าบรรยากาศไม่เครียด ก็ช่วยลูกอ่านได้นิดๆ หน่อยๆ  - หมดไปหนึ่งวัน  พอเวลาส่วนใหญ่ใช้ไไปสำหรับเรียนพิเศษ ทำการบ้านทำให้เราไม่ค่อยได้สอนอะไรลูกหลายอย่าง หนังสือที่อ่านก็จำกัด จะอ่านหนังสือนอกเหนือจากที่เรียน เหมือนเราสมัยเด็กก็ไม่ได้ทำ เพราะแต่ละวันหมดไปกับเรียนพิเศษ และเวลาว่างก็ดูทีวี ว่างหน่อยก็ปั่นจักรยาน เพราะเด็กผู้ชายถ้าไม่ออกกำลังกายบ้าง รู้สึกว่าพลังงานยังไม่ได้ใช้มันเฉื่อย ๆ ยังงัยไม่รู้ แล้วความที่ไม่มีพ่ออยู่ด้วย การออกกำลังกายอาจทำให้เค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายอยู่นะ - ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่า เลยคิดว่าเค้าต้องออกกำลัง เพื่อร่างกายเค้า และเพื่ออะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น- อันนี้ความคิดแม่

พอกิจกรรมพวกนี้เอาเวลาไปหมด ลูกก็ไม่ได้อ่านหนังสือหลากหลาย ดีว่าตอนนี้มีการ์ตูนความรู้เป็นชุดๆ ชุดละ 3-4 เล่ม ของหลายๆ สำนักพิมพ์มาให้อ่านพอได้มีความรู้รอบตัวบ้าง รู้สึกเค้าชอบมากเหมือนกัน ได้ความรู้มาคุยกับเราด้วย บางทีเราก็ได้ความรู้จากที่เค้าอ่านเหมือนกัน

ตอนนี้การเรียนพิเศษไม่ได้เรียนไปเฉยๆ เหมือนสมัยก่อน ตอนนี้เรียนพิเศษที่เป็นแฟรนไชส์ต้องมีการสอบหรือประเมินก่อนขึ้นชั้นต่อไป บางทีวันปิดคอร์สต้องมาเตรียมตัวสอบให้ลูก พากันทบทวนเนื้อหาอีก เป็นงานเพิ่มขึ้นมาอีก แทนที่เรียนพิเศษจะสบายๆ เหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่แล้ว บางทียังเคยได้ยินว่าลูกของบางคสเรียนอ่อนมาก สอบไม่ผ่านอยู่บ่อยๆ มีผลต่อตัวชี้วัด (KPI) ของโรงเรียนที่เด็กเีรียนพิเศษเหมือนกัน

ข้อเสียของการเรียนพิเศษที่มองเห็นตอนนี้ คือ ใช้เวลามากจนอาจทำให้เด็กขาดการเรียนรู้ทักษะอย่างอื่น ๆ หรือเปิดโลกทัศน์อย่าง แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าแต่ละครอบครัวต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกอยู่แล้ว ที่เขียนมาเป็นความเห็นเล็กๆ ของคุณแม่คนหนึ่งเท่านั้นคะ

หมายเลขบันทึก: 285839เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2009 16:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 14:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท