เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน บ้านเราชัยภูมิกำลังจะผ่านไป เดือน มิถุนายน ถึง สิงหาคม ของทุกปี ผู้คนไหลเข้าสู่ทุ่งกว้าง ลานหิน ถิ่นดอกกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ฉบับนี้ขอเล่าสู่ฟังในบรรยากาศเดิมๆที่เคยสัมผัส ความงามทุกฤดูกาล แห่งป่าหินงาม " ทุ่งดอกกระเจียว เที่ยวสุดแผ่นดิน ถิ่นป่าหินงาม "
๑ ปีบานครั้งเดียว เมื่อฝนแรกมาเหมือนสัญญาใจที่ ราชินีแห่งขุนเขาให้ไว้กับชาวโลก สีชมพูอมม่วง ที่แย้มยิ้มสวยงาม ทั่วทุ่งเมื่อฝนแรกมาเยือนถิ่นป่าหินงาม เมื่อ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ปี ๒๕๔๐ ปีขบวนแรลลี่ เข้าสู่ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงามรถแต่ละคันจะเยือนความงามแห่งธรรมชาติได้ ต้องรวมพลังใจ พลังกาย และความมุ่งมั่นมากทีเดียว ด้วยความไม่สะดวกและค่อนข้างจะบากในการเดินทาง แต่บรรยากาศองผู้คนที่เริ่มเข้าเยี่ยมราชินีแห่งขุนเขา ก็มีต่อเนื่องตามพลังแต่ละคนที่มี ช่วงนั้นมีโอกาสได้เข้าไปทำงานในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และได้นำเด็กๆนักเรียนเข้าไปสัมผัส ไออุ่นของเมฆหมอก ความงามของดอกกระเจียว และความแข็งแกร่งของหินผา ซึ่งได้พบอะไรมากมายทีเดียว
" ปี ๒๕๔๐ ได้มีโอกาสนำนักเรียน และเพื่อนครูชาวเทพสถิตวิทยา ไปเรียนรู้ชีวิตดอกกระเจียว ราชินีแห่งขุนเขา จัดกิจกรรมเล็กๆกันร่วมกับหอการค้าชัยภูมิ เขตเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เด็กมีโอกาสได้รู้ลักษณะทางพฤษศาสตร์ของดอกกระเจียว ได้เรียนรู้ลักษณะกายภาพของภาคพื้นผิวโลกที่สูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตร พื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามร่วม 70,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ดอกกระเจียวเบ่งบานร่วม 200 ไร่ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนชาวบน ได้เรียนรู้บรรยากาศภูมิอากาศช่วงฤดูฝน ทั้งเช้า-สาย-บ่าย-เย็น-หัวค่ำ-กลางดึก-ย้ำรุ่ง ซึ่งบรรยากาศยากที่จะหาที่ใดเทียมในจังหวัดชัยภูมิ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มีโอกาสใช้ชีวิตบนอุทยานแห่งชาติป่าหินงามตลอดระยะเวลา ๕ ปี ในปี ๒๕๔๐ คำว่าเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน ยังไม่เกิดจริงจัง เพียงเป็นกิจกรรมจับหมอก หยอกดอกกระเจียวเท่าน้ันแต่โรงเรียนเทพสถิตวิทยาก็มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรม เช่นการแสดงฟ้อนรำ การวาดภาพ การประดิษฐ์ดอกกระเจียว " ปีนี้มีการแสดงของชาวบน การเป่าใบไม้ การละเล่นของชาวบน
พอฝนต่อไป ปี ๒๕๔๑ เริ่มมีผู้คนสนใจมากขึ้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับจังหวัดชัยภูมิ ก็เริ่มวางแผนจัดงานจริงจังขึ้น และใช้ชื่องานว่า " เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน " ช่วงนั้นใช้ระยะเวลาเดือนกรกฎาคม-กันยายน เป็นห้วงเทศกาล มีโอกาสได้จัดการแสดงพิธีเปิด ประกอบร่วมกับทางจังหวัด " แสดงในพิธีเปิด คณะครูนักเรียนช่วงนั้นตื่นเต้นกันมากทีเดียว ผู้คนล้นหลามมากหน้าหลายตา ร้านค้าพื้นเมืองเต็มไปหมด ทุกคนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การค้าขาย นักเรียนได้มีโอกาสเปิดร้านค้าขายแลกเปลี่ยน เราเกิดช่างภาพน้อยๆ ช่างเขียนเล็กๆ ช่างดอกไม้ประดิษฐ์ขนาดจิ๋ว ผู้นำเที่ยวตัวน้อยจากรั้วโรงเรียนได้แสดงศักยภาพ มากมายทีเดียว ภาพดอกกระเจียวขายดีมาก ผ้าพื้นเมืองจำหน่ายได้ตั้งแต่ตี ๔ ถึงกลางดึก ทุกวันศุกร์ผู้คนเริ่มเดินทางเข้าพื้นที่ กางเต็นท์เตรียมรับไออุ่นแห่งบริสุทธิ์ และความงามของธรรมชาติ ในปี ๒๕๔๑ ดอกกระเจียวเต็มทุ่ง ดอกขนาดใหญ่ ก้านยาวถึง ๓๐ ซม. ทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวยังไม่เป็นสัดส่วน สิ่งลำบากทีสุดในปีแรกๆ คือ การขอร้องไม่ให้ผู้คนทำร้ายจิตใจราชินีแห่งขุนเขา แต่เชื่อหรือไม่? เราทำไม่ได้เต็มที่ ยังมีผู้คนใจร้ายอยู่มาก ผู้คนที่พรากราชินีแห่งขุนเขาไปจากทุ่งลานหินงาม ผู้คนที่เหยียบย้ำหัวใจราชินีก็มีเยอะ ผู้คนที่ถอนรากถอนโคนก็มีใช่น้อย หากราชินีแห่งขุนเขาพูดได้เขาคงบอกว่า....ฉันเก็บรักษาความงาม ความสวย ความบริสุทธิ์มานานถึง ๙ เดือน ฉันอยากให้ทุกคนบนโลกใบนี้ได้เห็นความงามบริสุทธิ์ พักสายตาที่ความงามของฉันนานๆ ผู้คนช่วยเมตตาอย่าทำร้ายฉันเลย " แต่ผู้คนก็หาได้รับฟังไม่? และช่วงนั้นผู้คนขึ้นไปทุ่งดอกกระเจียวมาก เดินเท้าบาง ใช้รถสองแถวที่จัดไว้ให้บ้าง และนำรถขึ้นไปเองบ้าง " ระบบอะไรๆยังไม่ดีมากนัก
ปี ๒๕๔๒ "เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน ครั้งที่ ๒ จังหวัดชัยภูมิร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ " ท้องถิ่นเริ่มเข้ามาทำหน้าที่ โรงเรียนเทพสถิตวิทยายังได้รับหน้าที่การประชาสัมพันธ์ การแบ่งสรรปันส่วนร้านจำหน่ายสินค้า และเตรียมพิธีเปิดเช่นเดิม ปีนี้ตื่นเต้นกันมาก พยายามทำกิจกรรมพิธีเปิดให้ดี กว่าเดิม ได้นำการแสดงชุด "ของดีเมืองชัยภูมิ " มาแสดง บรรยากาศดีมาก เมฆหมอกลอยต่ำ เตรียมงานกันทั้งคืน ก่อนพิธีเปิด นึกภาพย้อนหลังการเตรียมงานมีการประชุมหลายต่อหลายครั้ง การมีส่วนร่วมของทุกองค์กร ทั้งระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล หน่วยงานแต่ละสังกัด ทั้งมหาดไทย เกษตร สาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ตำรวจ ครู กำนันผู้ใหญ่บ้าน ป่าไม้ นายสถานีวิทยุ ชุมชน ชาวบ้าน มีโอกาสร่วมคิดร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหารายวันกันอย่างจริงจัง ปี ๒๕๔๒ เป็นปีที่มีปัญหามากที่สุด เนื่องจาก ความไม่เข้าใจระหว่างประชาชน กับกระบวนการจัดงาน แต่ทุกวันเราก็แก้ปัญหาได้มาตลอด จากปัญหาครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โดย สวท.ชัยภูมิ นายประกอบ สระดินดำ. ได้จัดเตรียมเสียงตามสายไปยังพื้นที่ทุ่งดอกกระเจียว เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวน ไม่ให้ผู้คนที่เข้าชมความงามของราชินีแห่งขุนเขา ทำร้ายจิตใจราชินี ที่แสนสวยของเรา แต่ปีที่ ๒ ก็ยังแก้ปัญหาเรื่องการทำร้ายราชินีแห่งขุนเขาไม่ได้ เทศกาลผ่านไปสักเดือน ก็โบกมือลาด้วยความจำยอม ราชินีแห่งขุนเขาไปก่อนกำหนดสัญญานัดหมายเยอะมาก ด้วยความสุดทนต่อการย้ำยี้ ของผู้คนชาวโลก ปีการค้าขายของชาวบ้านทั่วถึง มีรอยยิ้มได้ อะไร?ที่เป็นสีชมพู สีชมพูอมม่วง ขายได้หมด เมื่อผู้คนกลับลงมาจากทุ่งเพื่อเดินทางกลับบ้าน ปีที่ ๒ ของการจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน เรามีกิจกรรมบริการเต็นท์พักขนาดเล็กให้นักท่องเที่ยวที่พักค้างมากขึ้น โรงเรียนได้ฝึกจิตบริการสำหรับนักเรียนได้มากทีเดียว และทำให้นักเรียนทำหน้าที่ผู้บริการได้ดีด้วย เต็นท์ขนาดเล็กคิอ ๑๐๐ บาท/คืน เต็นท์ขนาดกลาง ๒๐๐ บาท/คืน เต็นท์ขนาดใหญ่ ๓๐๐ บาท/คืน ฟิล์มถ่ายภาพ และภาพดอกกระเจียว เป็นสินค้าที่ขายได้ดีที่สุด ที่เราได้รับการแนะนำมากที่สุดก็เป็นเรื่องร้านอาหารที่ไม่เพียงพอ และห้องสุขาที่ไม่เพียง ไม่สะดวก แต่ปีนี้ลมแรงมาก มากจนคุยกันกับลมไม่รู้เรื่อง ป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายพิธีเปิดทะเลาะกับลมเป็นประจำ เกือบลืมปีนี้เรามีการสาธิตวิถีชีวิตชาวบน การแข่งแรลลี่ จักรยานเสือภูเขา ด้วย
ปี ๒๕๔๓ " เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียว ครั้งที่ ๓ " ตั้งใจไว้ว่าเราต้องคุยกับลมให้รู้เรื่อง ครั้งนี้ก็รับภารกิจพิธีเปิด การประชาสัมพันธ์ และ การแบ่งสรรปันส่วนร้านจำหน่ายสินค้า อีก พิธีเปิดจึงคิดว่า เราจะไม่ยอมให้ลมทำลายป้ายสัญญาณแห่งพิธีเปิดอีกต่อไป ปีนี้ทำป้ายหมุนทรงกระบอก การประชาสัมพันธ์สู่ความเป็นสากล การท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาร่วมคิด ร่วมวางแผน ทีมประชาสัมพันธ์เราไปแถลงข่าวถึง กรุงเทพฯ มีการส่งข่าวประชาสัมพันธ์รายวัน ส่งข้อมูล FAX รายวันให้ อสมท.ชัยภูมิ ปีนี้ได้รับฉายาว่า "krukrajeaw " และพิธีเปิดปีนี้ ได้นำหลัก ทฤษฎีบทที่ ๒๙ ไปใช้ในการออกแบบป้ายหมุนเพื่อคุยกับลม และใช้ลูกโป่งสวรรค์ประกอบพิธีเปิด เพื่อทำงานร่วมกับลมและก๊าซ นักเรียนและครูตื่นเต็นกันใหญ่เต็มลูกโป่งกันมากมาย การแสดงประกอบสวยงาม มีกลองเส่งด้วย ปีนี้การกระกวดวาดภาพก้ใช้การวาดกลางทุ่งดอกกระเจียว และมากฏเหล้กว่าทีมใดทำร้ายจิตใจดอกกระเจียวแม้เพียงนิด จะปรับแพ้ทันที แต่งานไม่ราบรืนนัก การเปิดช้ากว่ากำหนด ลมในลูกโป่งเหนื่อยอ่อนกำลัง ลมคุยกับเรารู้เรื่องมากไปไม่ยอมโบก พิธีเปิดเริ่มโป่งไม่ลอย ต้องใช้แรงคนช่วยสนุกอีกรูปแบบ แต่ที่สำเร็จคือ ป้ายหมุนพิธีเปิดทรงกระบอกอยู่ได้ตลอดเทศกาล ลมและป้ายคุยกันรู้เรื่อง ตลอดงานไม่ทำร้ายกัน แถมมีการสาธิตวิถีชีวิตชาวบนด้วยปีนี้ผู้คนนักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ ตีสามผู้คนเข้าพื้นที่ รถทัวร์เต็มไปหมด วันหยุดเทศกาลเข้าพรรษารถติดต่อกัน ประมาณ ๖ กิโลเมตร ปีนี้ถนนหนทางสะดวก ทางเดินชมดอกกระเจียวเป็นสัดส่วน ที่พักเพิ่มทวีคูณ เรายังอ่อนแอกันอยู่เห็นจะเป็นด้านร้านอาหาร ที่ยังไม่ได้มาตรฐานในปีนั้น แมลงวันก็เยอะไปหมดเพราะในพื้นที่มีการเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่กันมาก ปีนี้มีรถสุขาเคลื่อนที่ของกรมป่าไม้มาช่วยบริการ สาธารณสุขทำงานหนักขึ้น แต่อากาศและฟ้าฝนยังดูดีไปหมดเช่นทุกปี เย็นๆหัวค่ำอากาศสบายๆ มียุงนิดหน่อย พอเข้าประมาณ สองทุ่มไปย่งกลับบ้าน ฟ้างามเดือนสวย อากาศดี นั่งดีดกีตาร์ ร้องเพลง จับเข่าคุยกัน หน้าเต็นท์สบายๆ กลางดึกฝนจะมาเยี่ยมเป็นระยๆ ประมาณตีสามฝนเริ่มผ่านฟ้า เข้าตีห้าเมฆลอยต่ำสวยงาม ผู้คนเริ่มออกจับหมอก หยอกดอกกระเจียว นึกภาพดูแล้วกันว่าจะขนาดไหน ? ปีนี้มีความสุขกับธรรมชาติ และสบายใจเห็นผู้คนมีความสุขเพราะ ทุ่งดอกกระเจียว แต่สิ่งที่พบคือ การใช้รถสองแถวนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทุ่งดอกกระเจียวนั้น หลายคันไม่ปลอดภัยในความรู้สึกนักท่องเที่ยว และหลายคันควันดำมากอันตรายทั้งกับนักท่องเที่ยวและราชินีแห่งขุนเขา เสียงรถดังกระหึ่มเป็นสายธาร ทำให้เสียบรรยากาศธรรมชาติมากทีเดียว ปีนี้ได้จัดกิจกรรม WALK RALLY เพื่อเชิญชวนผู้คนให้หันมา WALK แทนการนั่งรถให้มากๆ เป็นการออกกำลังด้วย มีการประกวดวาดภาพ ประกวดถ่ายภาพ การเขียนโฮมเพจด้วย
สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ คืนไหน ที่มีนักท่องเที่ยวมากๆ เราเจ้าภาพต้องเสียสละที่พัก เสียสละเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวและก็นอนกันตามพื้นสำนักงานป่าไม้ก็มี เป็นความสุขและประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว และคงไม่มีเช่นนั้นอีกแล้ว
ปี ๒๕๔๔ " เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน ครั้งที่ ๔ " ปีสุดเท่ห์ ได้ใจจากปีที่ผ่านมาว่าคุยกับลมรู้เรื่อง ประกอบกับความสำเร็จในงานครั้งที่ ๓ ที่ก้าวสู่สากลคนทั่วไปมากขึ้น ครั้งที่ ๔ ทำโลกหมุนทั้งใบในแรงลม โลกใบนี้ทำด้วยเหล็ก และใช้แรงลมช่วยเพื่อเป็นสัญญาณว่า " ราชินีแห่งขุนเขา เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน " เป็นสิ่งที่ชาวโลกรู้กันทั่วแล้ว ปีนี้อะไรๆพร้อมมากขึ้น ดอกกระเจียวยังมาตรงเวลาตามนัด สวยงาม สดใสเช่นทุกปี โลกใบงามสัญญาณหน้าสำนักงานอุทยาน เป็นที่สนใจของผู้คนมากเพราะขนาดใหญ่ แปลกตาแปลกใจว่าทำไมเหล็กหมุนได้ โดยไม่มีกระแสไฟฟ้า ใครๆก่อนกลับต้องได้ภาพโลกใบนี้กลับไปด้วย เพราะโลกนี้ก็สีดอกกระเจียว เช่นกัน ปีนี้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ รับงานเต็มๆ การประกวดแข่งขันเกิดมากมายเต็มกำลัง ประกวดถ่ายภาพ เขียนภาพ วาดภาพ ประดิษฐ์ดอกกระเจียว เขียนโฮมเพจ คำขวัญ กิจกรรม WALK RALLY มีผู้ร่วมกิจกรรมมากขึ้น สรุปว่าปีนี้วงการศึกษาได้ใช้สนามเทศกาลดอกเจียวฝึกฝนนักเรียนหลายทักษะชีวิต ร้านสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหาร ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ดูดีขึ้น ที่จอดรถไม่เพียงพอ รถมากขึ้นเป็นทวีคูณ ผู้คนเกิดภาวะเรียกร้องความเป็นอิสระอยากนำรถขึ้นไปบนทุ่งดอกกระเจียวเอง ซึ่งทั้งที่รูว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะด้านบนป่าหินงามไม่มีที่รองรับการจอดได้ ปีนี้ผู้คนเริ่มสนใจดอกกระเจียวขาวมากขึ้น เนื่องจากด้านบนป่าหินงาม หากใครมีกำลังแรงมากพอสามารถเดินต่อไปชมทุ่งดอกกระเจียวขาวได้ ผู้คนจึงไปชมสิ่งแปลกใหม่ต่อไปเรื่อยๆเป็นธรรมดา ปีนี้ภาพถ่ายขายไม่ค่อยออกเพราะทุกคนที่มาเที่ยว มีกล้องของตนเองมามากขึ้น ของที่ระลึกที่ขายได้ดีมาก เห็นจะเป็นปากกา และเสื้อที่กรมป่าไม้จัดทำ ปีนี้เด็กๆได้ออกแบบผ้ารองจานลายดอกกระเจียวด้วย แต่ทุนทำไม่มี การจำหน่ายจึงไม่เกิด ได้แค่ประกายความคิดและตัวอย่างเท่านั้น ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ๕ ปี ๔ เทศกาลที่มีโอกาสได้สัมผัส ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจธรรมชาติของป่าหินงาม ทุ่งดอกกระเจียว ได้เรียนรู้ความเป็นวิถีชีวิตชาวบน ชาวบ้าน และการทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆในสถานการณ์จริงรายวัน ที่แทบคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย
ปี ๒๕๔๕ ก็ได้ย้ายสถานที่ทำงาน จึงไม่มีโอกาสสัมผัสจริงในถิ่นดอกกระเจียวครั้ง ต่อๆมา ใครยังไม่เคยสัมผัสดินแดนทุ่งดอกกระเจียว ราชินีแห่งขุนเขา ป่าหินงาม ต้องหาโอกาสไปนะ ขณะนี้ยังพอมีให้ชม ปีนี้ไม่ทันปีหน้าตั้งท่าให้ดีก็แล้วกัน เคยพาเด็กๆบ.ท.ไปเมื่อปี ๒๕๔๕ -๒๕๔๗ แหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่บ้านเราชัยภูมิ ยังมีอะไรที่น่ารู้อีกเยอะ ฉบับสองจะนำ ชีวิตพฤกษศาสตร์ดอกกระเจียวมาเล่าสู่ฟัง ฉบับนี้เล่าไว้เป็นประวัติเท่านั้น ยังไม่ละเอียดแต่จะปรับปรุงเป็นระยะๆ
ถึงปีนี้ ๒๕๕๐ นับสิบปีผ่านไป มีเวลามองย้อนภาพที่ผ่านกับเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน จึงเขียนภาษาอักษรเท่าที่เขียนได้ เพื่อความทรงจำในยุคดิจิตอลให้เห็นความเป็นมาที่ผ่านไป ถึงวันนี้ 18มิถุนายน 2559 เปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบานขอเติมต่อบทเขียนเดิมสักนิด หลายปีชื่องานเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแต่ปีนี้ กลับมาใช้คำว่า"เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน"อีกครั้ง นับได้ 19ฝน19ปีแห่งกาลเวลา ที่ผู้คน นักท่องเที่ยวได้สบายตา สบายใจ อบอุ่นไอหมอก หยอกเมฆ เราคืนสิ่งใดให้ดอกกระเจียวบ้าง ช่วงไร้ฝนกระเจียวพึ่งตนเอง ช่วงฝนมากระเจียวส่งสีสวยให้คนเราได้เชยชม นี่คือ กระเจียว -ราชินีแห่งขุนเขา - ทิวลิปเมืองสยาม ณ ลานหินงามเทพสถิต ชัยภูมิบ้านเรา
สุดท้าย......ขอเพียงฝากคิดว่า " ทุกสรรพสิ่งรักชีวิตและลมหายใจของตนเอง ไม่ว่าจะพูดได้ พูดไม่ได้ ทุกสรรพสิ่งรักถิ่นบ้านเกิดของตนเอง ไม่ว่าจะพูดได้พูดไม่ได้ ดังนั้นอย่าได้พราก อย่าได้ทำร้ายชีวิตเขาเลย " ทุกคนที่ได้อ่านช่วยเล่าสู่กันฟังต่อๆไป กระเจียว-ราชินีแห่งขุนเขา จะได้อยู่กับเรา ....รักเรานานๆ ขอความเมตตาชาวโลกได้ช่วยกันดูแลราชินี แห่งขุนเขา ที่พูดไม่ได้ แต่ราชินีแสนสวยเขาเกิดมาคู่กับขุนเขา.....ช่วยกัน รักษ์เขาไว้นานๆ เท่าที่เราจะช่วยกันได้ ....ที่สุด.....โลกใบนี้ ก็จะมีราชินีแสนงามอยู่ที่...เมืองชัยภูมิ ....แผ่นดินแห่งชัยชนะ ตลอดไป
เด็กรุ่นใหม่ควรจะดูแลรักษาไว้..ตราบนานเท่านาน...เพื่อดอกไม้จังหวัดเรา(ชัยภูมิ) ...เด้อ..
ฟ้องด้วยภาพทุ่งกระเจียว
ขอให้ธรรมชาติอยู่คู่โลกนี้ไปอีกนาน