มาเรียนรู้การพัฒนาคุณภาพด้วยความรักที่วังจันทร์ 3


เรากลับต้องมาเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ เพราะเราเกิดมาเกิดจากความรัก เด็กทุกคนมีความน่ารัก ความน่ารักของเราเริ่มหายไปเรื่อยเมื่อโตขึ้น ความน่ารักหายไปหนอในวันนี้

การฝึกสมาธิผ่านลมหายใจ ก่อนเรียนรู้เรื่องอื่นกลับมาเรียนรู้อยู่กับตนเอง

สมองของมนุษย์กับการเรียนรู้

เรานำพาให้ทุกคนฝึกลมหายใจโดยให้ทุกคนเอามือจับที่ท้องแล้วหายใจเข้าและออกรับรู้ที่ปลายจมูกเราว่ามีลมหายใจเข้าและออก ลมหายใจได้นำออกซิเจนเข้าไปในร่างกายถูกนำไปใช้มากที่สุดที่สมอง สมองที่ทำหน้าที่ให้ได้มีชีวิต ได้คิด และแสดงความเป็นมนุษย์ออกมา สมองแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ

·       สมองชั้นในสุดมีหน้าที่บังคับการหายใจทำให้เรามีชีวิต เกิดรีเฟล็กซ์ สมองชั้นในมีเฉพาะสัตว์เลื้อยคลาน

·       สมองชั้นกลาง ทำให้เรามีความรัก มีความเอื้ออาทร มีความสามัคคี

·       สมองชั้นนอก มีเฉพาะในมนุษย์และเริ่มมีมากในลิง

มนุษย์เรามีสมองทั้ง 3 ส่วนมีหน้าที่ในการคิด มีเหตุมีผล (ใช้สมองซีกขวา) และเชิงสุนทรียะ (สมองซีกซ้าย)

คลื่นสมอง

·       คลื่นเบต้า (Beta) เป็นสมองของคนที่คิดมาก มีการเรียนรู้ได้น้อยมาก เพราะคิดมากเกินไป

·     คลื่นแอลฟา (Alpha) เป็นคลื่นสมองที่ทำให้เกิดการเรียนรู้มากที่สุด ซึ่งต้องมีการกลับมาสู่ตัวของตนเอง เฝ้าลมหายใจของเราเอง ซึ่งเป็นการเอื้อต่อการเรียนรู้ระดับหนึ่ง

·       คลื่นธีต้า (Theta) เป็นคลื่นที่มีการคิดน้อยที่สุด เป็นคลื่นของคนที่ใกล้จะหลับ พระนั่งสมาธิ

·       คลื่นเดลต้า (Delta) เป็นคลื่นสมองของคนหลับ

คลื่นสมองทั้ง 4 เกิดกับคนทุกวัน ซึ่งคลื่นสมองเบต้าเกิดกับคนมากที่สุดซึ่งวิธีการปรับคือการกลับมาที่ตัวเองคือการเฝ้าลมหายใจตนเอง นอกจากนี้เสียงดนตรีที่เลียนแบบเสียงธรรมชาติจะทำให้คลื่นสมองจากเบต้าเป็นแอลฟาได้ เพลงของโมสาสเมื่อให้เด็กฟังเด็กจะมีพฤติกรรมที่นิ่งมากขึ้นคือจากคลื่นเบต้าเป็นแอลฟา

                หากเรามีเบต้าเยอะในแต่ละวันเราจะไม่มีสารเอนโดรฟีน แต่จะมีสารที่ทำให้ทุกมาก แต่ถ้าเรามีคลื่นแอลฟามากจะมีสารเอนโดรฟีนเยอะ โดยสิ่งที่บอกว่ามีความสุขคือสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แววตา และเสียงหัวเราะที่เป็นธรรมชาติ แต่หากเป็นการหัวเราะแบบเยาะเย้ยจะเป็นคลื่นสมองเบต้า ซึ่งทุกครั้งที่เราหัวเราะจะมีการหลั่งสารเอนโดร ฟีนออกมา เราจึงควรหัวเราะบ่อย ๆ ซึ่งวัยเด็กเป็นช่วงที่มีการหัวเราะมากที่สุดโดยหัวเราะวันละ 300 ครั้ง (อายุถึง 7 ขวบ) และเมื่ออายุมากขึ้นการหัวเราะจะลดลง และเมื่ออายุ 45 ปีเสียงหัวเราะจะน้อยมากประมาณ 0.7 ครั้งต่อวัน แต่เมื่ออายุเลย 45 ปีเสียงหัวเราะจะมากขึ้นแต่ก็ไม่เท่ากับอายุ 7 ขวบ

                มนุษยเกิดขึ้นมาตั้งแต่การปฏิสนธิ (ทางการแพทย์) ตั้งแต่การคลอดแล้วรอด (นิติศาสตร์) การเป็นมนุษย์จึงเริ่มตั้งแต่เราคลอดออกมา อนุภาพของการคลอดเมื่อเด็กคลอดออกมาจะเกิดสิ่งต่าง ๆ บนโลกมากมายเช่น สถาปนาความเป็นแม่ พ่อ ปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งเชื่อมโยงความรักความเมตตา ความเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่พอเราเดินมาไกล ๆ เรากลับต้องมาเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ เพราะเราเกิดมาเกิดจากความรัก  เด็กทุกคนมีความน่ารัก  ความน่ารักของเราเริ่มหายไปเรื่อยเมื่อโตขึ้น ความน่ารักหายไปหนอในวันนี้ เป็นคำถามฝากให้สมาชิกได้ครุ่นคิด..................................

 

คำสำคัญ (Tags): #hhc
หมายเลขบันทึก: 282993เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2009 14:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท