นวัตกรรมที่นำมาใช้ทั้งที่ผ่านมาแล้วและที่จะมีในอนาคตมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้นวัตกรรมในด้านต่างๆ ในที่นี้จะขอกล่าวคือ นวัตกรรม 5 ประเภท คือ
1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร
2. นวัตกรรมการเรียนการสอน
3. นวัตกรรมสื่อการสอน
4. นวัตกรรมการประเมินผล
5. นวัตกรรมการบริหารจัดการ
ควรให้ความสำคัญ นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร มากสุดเพราะนวัตกรรมทางด้านหลักสูตร
นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร เป็นการใช้วิธีการใหม่ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นและตอบสนองความต้องการสอนบุคคลให้มากขึ้น เนื่องจากหลักสูตรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลก นอกจากนี้การพัฒนาหลักสูตรยังมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่บนฐานของแนวคิดทฤษฎีและปรัชญาทางการจัดการสัมมนาอีกด้วย การพัฒนาหลักสูตรตามหลักการและวิธีการดังกล่าวต้องอาศัยแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมการศึกษาเข้ามาช่วยเหลือจัดการให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ นวัตกรรมทางด้านหลักสูตรในประเทศไทย ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรดังต่อไปนี้
1. หลักสูตรบูรณาการ เป็นการบูรณาการส่วนประกอบของหลักสูตรเข้าด้วยกันทางด้านวิทยาการในสาขาต่างๆ การศึกษาทางด้านจริยธรรมและสังคม โดยมุ่งให้ผู้เรียนเป็นคนดีสามารถใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ในสาขาต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมอย่างมีจริยธรรม
2. หลักสูตรรายบุคคล เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อการศึกษาตามอัตภาพ เพื่อตอบสนองแนวความคิดในการจัดการศึกษารายบุคคล ซึ่งจะต้องออกแบบระบบเพื่อรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านต่างๆ
3. หลักสูตรกิจกรรมและประสบการณ์ เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้น กระบวนการในการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ เช่น กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในบทเรียน ประสบการณ์การเรียนรู้จากการสืบค้นด้วยตนเอง เป็นต้น
4. หลักสูตรท้องถิ่น เป็นการพัฒนาหลักสูตรที่ต้องการกระจายการบริหารจัดการออกสู่ท้องถิ่น เพื่อให้สอดคล้องกับศิลปวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่น แทนที่หลักสูตรในแบบเดิมที่ใช้วิธีการรวมศูนย์การพัฒนาอยู่ในส่วนกลาง
รูปแบบการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา แบ่งได้กี่แบบ แต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อจำกัด
นวัตกรรมจัดแบ่งเป็น 2 แบบ
แบบที่ 1ได้แก่วิธีจัดการเรียนรู้ เทคนิคการสอนแบบต่างๆ เช่น การสอนแบบร่วมมือร่วมใจ การสอนแบบเกม การสอนโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ การสอนแบบโครงงาน เป็นต้น
ข้อดีแบบที่ 1
นักเรียนได้รับการสอนในรูปแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิมจากสิ่งที่เคยเป็นอยู่ใบแบบสมัยอื่น
ข้อเสียแบบที่ 1
ถ้าผู้สอนเรียงลำดับการให้ความรู้ไม่ถูกนักเรียนอาจจะไม่เกิดกานพัฒนาได้ เช่น ผู้สอนเริ่มจากบทที่ยากๆ ก่อนไปสู้ทบที่ง่าย หรือ เริ่มจากความรู้ ยากๆ ไปหา ความรู้ง่าย เป็นต้น
แบบที่ 2 ได้แก่สื่อการสอน หรือสื่อการเรียนรู้ สื่อสิ่งตีพิมพ์ เอกสารประกอบการสอน บทเรียนสำเร็จรูป ชุดการสอน บทเรียนการ์ตูน แบบฝึก วีดิทัศน์ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) E-learning
ข้อดีแบบที่ 2
นักเรียนสามารถมองเห็นถึงสิ่งที่เป็นมโนทัศน์ที่นักเรียนนั้นไม่สามารถสร้างจินตนาการได้
ข้อเสียแบบที่ 2
ถ้าหากสื่อนั้นไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญให้ดีเสียก่อน เด็กอาจได้รับสิ่งที่เป็นความรุนแรงได้ อาจแสดงถึงเป็นพฤติกรรมเรียนแบบได้
ทำไมครูจึงต้องเรียนรู้ การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา นวัตกรรมที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรานั้น ในชีวิตประจำวันเกิดขึ้นมาอยู่ทุกวัน ครูเองก็สมควรตามนวัตกรรมเหล่านั้นให้ทันเสมอเพราะว่าจะได้นำ ความรู้นวัตกรรมนั้นๆมา ถ่ายถอดแรกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างนั้นที่ครูได้เรียนรู้มา ครูที่ดีต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
อ้างอิง : กนกอร แพรวา.ประเภทของการใช้นวัตกรรมการศึกษาในประเทศไทย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก : http: //kanok-orn.blogspot.com/2007/10/blog-post.html
( วันที่ค้นข้อมูล : 2 สิงหาคม 2552 ).
ขอบคุณมากๆนะคะที่ให้ความรู้เรื่องนี้ กำลังอยากอ่านอยู่พอดีเลยค่ะ
โชคดีจังเลย หลงเข้ามาก็เลยได้อ่าน
มีความรู้อะไรดีๆอย่าลืมเอามาฝากอีกนะคะ
อืม..เห็นด้วยๆ ครูสมัยนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้และใช้สื่อนวัตกรรมในการเรียนการสอน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตามเทคโนโลยีให้ทันเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการถ่ายทอดความรู้ที่มีอยู่ให้แก่นร.หรือนศ.ได้เข้าใจในเนื้อหาที่ง่ายและชัดเจนและประหยัดเวลา