7. สื่อคุณธรรม งานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ
.
.
.
จากอารมณ์ ไม่อยากเขียน ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ก็ตั้งใจว่าจะเขียนต่อ
เรื่องราวก็เริ่มมาจากก่อนงาน ได้ร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อเตรียมประเด็นและการขับเคลื่อน
ส่วนของผม ทำหน้าที่ประสานท่านผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกับรัฐมนตรี ก.วัฒนธรรม คุณธีระ สลักเพชร
และพี่ัลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม คนที่มักจะตกเป็นข่าวเสมอ
การประสานงานเป็นไปได้ด้วยดี และสมบูรณ์ จะมีก็แต่ กำหนดการที่เปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ
จนหน้างาน... ผมล่ะ งง กะเค้าจริงๆ
ในส่วนที่ต้องประสานท่านผู้ใหญ่ เขียนสคริปท์ ให้ท่านๆ และต้อนรับขับสู้เป็นเรื่องสนุกไม่ใช่เล่น
แต่เวลามีเรื่องอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วไม่ได้รับการสื่อสาร พบว่า ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้
พี่อีกคนที่เป็นเลขาคณะทำงาน (ผมเป็นผู้ช่วยเลขา) ไม่ยอมสื่อสารความเปลี่ยนแปลงด้วย
เรื่องสำคัญที่ควรจะต้องคำนึงถึงสำหรับคนทำงานเป็นทีมเดียวกัน แม้จะเฉพาะกิจก็ตาม นั่นคือ การสื่อสารที่ดี ถูกต้อง และรอบด้าน ซึ่งจะช่วยทำให้ทีมสามารถประเมินสถานการณ์และจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้
งานนี้ต้องกราบขอบพระคุณท่าน ผอ.นราทิพย์ (ผอ.ศูนย์คุณธรรม) อย่างมาก ที่ท่านช่วยต้อนรับขับสู้ผู้ใหญ่ด้วยรอยยิ้ม และความอดทน ...
พอรัฐมนตรีมากล่าว ปาฐกถา ... ท่านก็กล่าวถึงความสำคัญของ "สื่อกับการสร้างชาติ" ที่พอจะสรุปเนื้อหาใจความสำคัญได้ดังนี้ สื่อ เป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ทำให้เราออกไปท่องโลกกว้างได้ โดยไม่ต้องออกไปจากบ้าน และสามารถสร้างต้นทุนของสังคมและผู้คนในชาติได้
สื่อเป็นดาบสองคม ให้ได้ทั้งประโยชน์และโทษแก่ผู้ชม หากไม่กลั่นกรองก่อนรับมาใช้ในชีวิตประจำวัน การตั้งรับเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้น เราจึงควรที่จะเริ่มรุก ไปเรื่อยๆ อาทิ
การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ที่ควรมุ่งไปที่การสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์*** อันมีองค์ประกอบ 4 ด้าน ด้วยกัน นั่นคือ ด้านแรก การสืบทอดวัฒนธรรม และมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งก็มีเรื่องของการท่องเที่ยว งานฝีมือ งานหัตถกรรม แพทย์แผนไทย และอาหารไทย ด้านที่สอง ศิลปะ ศิลปะการแสดงต่างๆ และทัศนศิลป์ ด้านที่สาม สื่อ ภาพยนตร์ และวีดีทัศน์ การพิมพ์ การกระจายเสียง ซึ่งหมายรวมถึงการกระจายเสียงทั้งวิทยุและโทรทัศน์ และ ดนตรี ด้านสุดท้าย คือ งานสร้างสรรค์ และการออกแบบ แฟชั่น สถาปัตยกรรม การโฆษณา และซอฟท์แวร์ ต่างๆ (***TDRI, TCDC, สภาพัฒน์ฯ)
ทั้งหมด มีความเกี่ยวข้องกับสื่อและวัฒนธรรม สามารถสร้างมูลค่าได้จากความคิด องค์ความรู้ การศึกษา การสร้างสรรค์ผลงาน และการใ้ช้ทรัพย์สินทางปัญญา เชื่อมโยงกับรากฐานวัฒนธรรม การสั่งสมความรู้ของสังคม ผนวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
สื่อสร้างสรรค์ จึงไม่ได้หมายความ แค่ “นวัตกรรม” ที่แปลกใหม่เท่านั้น แต่ต้องหมายถึง คุณภาพในการนำเสนอ รสนิยมที่ดีงาม ถ่ายทอดคุณธรรม วัฒนธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ เพื่อสร้างความหมายที่ดีให้กับสังคม
โอ้ว นี่เป็นมุมมองจากคำกล่าวของท่าน และท่านก็ยังเสริมในเรื่องการที่อยากจะผลักดันให้เรื่องสื่อสร้างสรรค์ สื่อคุณธรรม เป็นวาระแห่งชาติ !!!
นอกเหนือไปกว่านั้น ในด้านของสื่อมวลชนเอง ซึ่งผู้ร่วมเสวนา มีนายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพสื่อฯ (คุณจำนรรค์ สิริตัน) ผู้แทนช่อง 5 (พี่จ๊ะโอ๋) พี่สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ(พี่เช็ค ใส่หมวก ทีวีบูรพา) กรรมการบริัษัทกันตนา และผู้แทนช่องทรู ที่มาร่วมเสวนา ก็ให้ข้อเสนอแนะที่สอดคล้องต้องกัน
และในบางเรื่องก็เป็นข้อเสนอย้อนกลับไปสู่องค์กรรัฐ เป็นข้อเสนอและข้อสรุปย่อๆ ดังนี้
· ความร่วมรับผิดชอบของผู้ผลิตต่อการสร้างผลกระทบทางสังคม
· สื่อ มีอิทธิพลต่อการสร้างชาติ
· ผู้ผลิตสื่อต้องคิดให้มากกว่าคนที่บริโภคสื่อ และหล่อหลอมคนในสังคม
· รูปแบบสื่อที่สร้างสรรค์ ไม่ควรปนกับเนื้อหาที่ไม่สร้างสรรค์
· สื่อ เป็นบริการทางสังคม ที่สามารถสร้างต้นทุนกับผู้ชมและคนในสังคมได้
· ภาครัฐ ควรให้การสนับสนุนการผลิตสื่อสร้างสรรค์ และสนับสนุนให้มีวาระแห่งชาติด้านสื่อสร้างสรรค์
· ภาคประชาสังคม ควรพัฒนาการศึกษาในการเลือกรับสื่อของประชาชนในชาติ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มของการวัดระดับความนิยมรายการ(เรตติ้ง) ทั้งนี้ จะช่วยทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดรายการดีๆ ได้
· ควรลองปรับเวลาที่เรตติ้งดี ไปในช่วงเวลาที่ไม่ดี สลับกัน เพื่อวัดผลตอบรับจากสังคม
· ผู้ผลิต ควรคำนึงถึงหลักการที่ไม่ควรทำ 10 ข้อ คือ
o ชี้นำลำเอียง
o สุข เสี่ยง สบาย
o ให้ร้ายสถาบัน
o ปลุกปั่นแตกแยก
o แทรกแซงส่วนตัว
o สื่อมั่วนั่งเทียน
o วนเวียนเรื่องเซ็กส์
o หลอกเด็กลวงผู้ใหญ่
o อ่อนไหวสร้างกระแส
o ห่วงแต่หาตังค์
· ผู้ผลิต ควรตระหนักในหลักการที่ควรทำ 10 ข้อ คือ
o สื่อข่าวรอบด้าน
o บริการสังคม
o ชื่นชมคนดี
o มีจิตสำนึก
o ปรึกษาผู้รู้
o ตามดูเตือนภัย
o เชียร์ไทยช่วยชาติ
o …
o เนื้อหาสร้างสรรค์
o มุ่งมั่นคุณธรรม
นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่กลุ่มผู้ผลิตสื่อเอง ก็ยืนยันว่า อยากสร้างสื่อดีเหมือนกัน แต่ไม่มีพื้นที่
เพราะบ้านเราบ้า เรตติ้ง ... พอเรตติ้งรายการละครน้ำเน่ามันดี ผู้จัดก็ต้องไปทำละครน้ำเน่า เพื่อดึงเรตติ้ง
และที่สำคัญจะได้ไม่โดนช่องดึงออกจากผังรายการ
บริษัท ทรู กล่าวไว้ว่า
" การผลิตรายการที่ดี ไม่มีผู้สนับสนุนรายการ วันนี้ผู้ผลิตรายการเกิดขึ้นเยอะซึ่งจะเติบโตขึ้นมาในวงการ คนอยากผลิตสื่อดีๆ แต่ไม่มีทางเลือก เพราะการสนับสนุนมีอยู่อย่างจำกัด
การแข่งขันของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์สูงขึ้นมาก สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คือ การมีธรรมาภิบาล และการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ"
พี่เช็ค จากทีวีบูรพา ก็บอกไว้
"เมื่อสมัยผมยังเด็ก ผมก็เคยได้ยินคำว่า สังคมเสื่อม สื่อไม่ดี ตั้งแต่เด็ก จนถึงวันนี้ ก็ยังมีเรื่องราวเดิมที่เคยมีการพูดกันไว้ สื่อ ก็มีทั้ง ผู้รับสื่อ และ ผู้ผลิตสื่อ
กรอบเรื่องของการสร้างชาติด้วยสื่อสร้างสรรค์ ณ วันนี้ ประเด็นที่สำคัญที่เราควรจะต้องครุ่นคิดไปพร้อมๆกับมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการใช้สื่อ สิ่งที่จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันก็คือต้นทุนภายในชาติบ้านเมือง ถ้าหากว่า เราเชื่อว่าสื่อเป็นตัวกลางที่ทำให้เกิดปัญหาในมนุษย์ ในชาติบ้านเมือง .. สิ่งที่ต้องพูดอย่างเอาจริงเอาจัง ก็คือการใช้สื่อเป็นตัวสร้างทุนให้เกิดขึ้นโดยมีพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม
ไม้บรรทัด ที่วัดเจตนา ... เราปฏิเสธความเป็นธุรกิจและความจำเป็นในการหาเงินไม่ได้ สื่อควรให้ความสำคัญในการใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้ให้กับสังคม ให้เกิดการส่งเสริมวัฒนธรรม และค่านิยมอันดีให้เกิดขึ้น"
คุณปฏิมา ตันติคมน์ จากกันตนา ก็บอกไว้ว่า
"เราทำสิ่งที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง คนไทยชอบดูละครน้ำเน่า จะมาต่อต้านคนทำทำไม ทำไมไม่มาพัฒนารสนิยมของผู้ชม" (อันนี้ก็แอบจริง)
แง่บ สรุปๆ ว่า เรื่องสื่อคุณธรรม จากที่คุยในสมัชชา คงได้มีการขับเคลื่อนและดำเนินการ อย่างแน่นอน ทั้งในการร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมในการทำงานในประเด็นนี้ต่อ
แต่อย่างไรก็ตาม การทำงานต่อไป ก็คงต้องอาศัยพลังกาย พลังใจ จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ความฝันนี้เป็นจริงขึ้นมา ชีวิตคนเรามันไม่ยาวนานเท่าไหร่หรอกครับ เดี๋ยวก็ตาย ทำเรื่องดีๆ แบ่งปันให้คนอื่นกันดีกว่าครับ ไม่ว่าจะกำลังทำเรื่องอะไรกันอยู่ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องดี มีผู้อื่นได้ประโยชน์ สังคมได้ประโยชน์ ผมก็ขออนุโมทนา และขอให้สิ่งที่ท่านๆ ทำอยู่ประสบความสำเร็จ ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดีครับ
ความเห็น (8)
สวัสดีค่ะ
หนูอ่านบันทึกฉบับนี้แล้ว หนูต้องระวังเรื่องการดูโทรทัศน์แล้วนะคะ
ตามจริงหนูไม่ชอบดูมากมาย ถ้าดูกับคุณครูคิม คุณครูจะสอนและอธิบายไปด้วยค่ะ
เวลาอยู่ที่บ้านนอกก็ไม่นินมดูเท่าไร หนูชอบรายการฟ้ามีตาและรายการเกี่ยวกับคุณธรรมมากกว่าค่ะ
วันหยุดพักผ่อนขอให้มีความสุขนะคะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะคุณตาเหลิม
ตามมาอ่านค่ะ
อ่านบันทึกคุณตาเหลิมมาหลายบันทึกแล้ว
|
ตาเหลิม
|
อ๋อ ประวัติคุณตาเหลิม ยาววววววววว แบบนี้นี่เอง
ต้องฝากคุณตาเหลิมเป็นการบ้านน่ะค่ะ
(แอบกระซิบคุณตาเหลิมว่า ให้พ่อกอพักผ่อนบ้างค่ะ อิอิ)
1.ฝากคุณตาเหลิม คิดเรื่องในบันทึกคุณตาเหลิมเป็นการบ้านไงค่ะ
2.วันเฉลิม (จุ๊ๆ ชื่อเหมือนพ่อค่ะ แต่พ่อไม่มีวัน มีแต่เดือนกับปี)
อิอิ
- ขอบคุณน้องนัท
- ขอบคุณ สุดสายป่าน ด้วย นะครับ
- เรื่องในบันทึก... ผมคงต้องทำต่อไป
- ส่วนที่ชื่อเหมือนคุณพ่อ ... อิอิอิ อันนี้ ตกร่องปล่องชิ้น
- แป่ว
อิฉันไปมาเหมือนกันค่ะ สนุกมากขอบอก
อ้อ ยัง ลืมบอกไปว่า มันสนุกตรงไหนก็มิทราบเจ้าคะ
มีเรื่องให้เรียนรู้เยอะ แต่อิฉันง่วง
ในหลายๆ องค์กร มักพูดเสมอว่า "วัฒนธรรมองค์กร" ...แต่พอเจาะลึกลงไป กลับพบว่า เป็นเพียงคามเฝ้าฝันเท่านั้น หลายแห่งยังไม่กล้านิยามเลยด้วยซ้ำไป...
ผมว่า บางที การกำหนดวัฒนธรรมองค์กร ก็เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์ขององค์กรด้วยเหมือนกัน...
....
ผมชอบงานศิลปะทุกแขนง..และเชื่อว่า ศิลปะทุกแขนง คือเครื่องมืออันทรงพลังแห่งการขัดเกลาจิตใจของเยาวชน...และยิ่งหากผูกโยงให้ชัดกับความเป็นวัฒนธรรมของชาติ ยิ่งเหมือนการปลูกฝังความเป็นชาติอย่างทระนง
ขอบคุณครับ