สุภาษิตสอนหญิง (พระนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
สุภาษิตสอนหญิง (สุนทรภู่)
เมียดี 4 แบบ (ปรมาจารย์ภาษาไทย ขุนจงจัดนิสัย)
กฤษณาสอนน้อง (สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิต)
คติเตือนใจหญิง
สุภาษิตสอนหญิง (พระนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ขอประพันธ์จรรยาสุภาษิต
ไว้เตือนจิตหญิงไทยในสยาม
ทั้งเริ่มรุ่นลักขณาสง่างาม
อยู่ในความดำริควรติตรอง
เป็นสตรีนี้ไซร็มิใช่ง่าย
สงวนกายเราไว้อย่าให้หมอง
จะยากจนค่นไร้วิสัยทอง
ย่อมจะต้องมีค่าราคาแพง
เหมือนพิกุลดีจริงไม่ทิ้งกลิ่น
ถึงตกดินจมทรายไม่หน่ายแหนง
ยังหอมหวานชวนชื่นระรื่นแรง
ไม่เหี่ยวแห้งไม่ทรามความนิยม
แต่หอมกลิ่นมาลาที่ว่าหอม
ชั่วถนอมเชยชิดสนิทสนม
เฉพาะเมื่อจับต้องประคองชม
เวลาดมชั่วครั้งไม่ยั่งยืน
อันหอมนามความดีสตรีนั้น
ไม่มีวันทรามเชยระเหยหืน
ถึงมาตรแม้นตัวตายไม่คลายคืน
ยังหอมชื่นชูนามเพราะความดี
เป็นผู้หญิงตำราที่ว่าสวย
ต้องกอปรด้วยเบญจลักษณ์เป็นศักดิ์ศรี
ถึงไม่ครบทั้งห้าตามมาลี
สมัยนี้สำคัญด้วยจรรยา
อันงามรูปงามทรัพย์บังคับยาก
มีน้อยมากก็ตามชาติวาสนา
ถึงร่างกายบุญกรรมก็ทำมา
มิใช่ว่าสรรสร้างได้ดังใจ
คงแต่เพียงที่สามให้งามจิต
งามจริตกิริยาอัชฌาสัย
งามวาจาไพเราะเสนาะใน
ดำรงค์ไว้ให้งามสามประการ
แม้สตรีมีงามเพียงสามสิ่ง
นับว่าหญิงน่ารักสมัครสมาน
ถึงรูปทรัพย์คับแค้นแสนกันดาร
ต้องประมาณว่างามตามตำรา
อีกนัยหนึ่งเครื่องประดับสำหรับนาฎ
ศิลปศาสตร์เป็นของจะต้องหา
งามอะไรก็ไม่เยี่ยมเทียมวิชา
อาจจะพาให้กายสบายเบา
อันสตรีที่งามด้วยความรู้
เป็นที่ชูโฉมเชิดเลิศเฉลา
แต่อย่าเพียรเรียนเล่นพอเป็นเรา
ต้องเรียนเอารู้ดีจึงมีคุณ
สุภาษิตสอนหญิง (สุนทรภู่)
จงปฎิบัติสามีเป็นที่รัก
สามิภักดิ์โดยเที่ยงไม่เดียงสา
มิให้เคืองขืนขัดเรื่องอัชฌา
ถึงเวลายามนอนผ่อนเอาใจ
ก้มกราบบาทสามีเป็นที่ยิ่ง
สรรพสิ่งชอบประกอบให้
ตื่นก่อนนอนหลังระวังระไว
ตักน้ำไว้คอยท่าให้สามี
จะได้ชำระพักตราเพลาเช้า
นวลเจ้าจำไว้เป็นศักดิ์ศรี
หาหมากพันพลูบุหรีดี
.................................
การกินนอนนั้นเป็นการใหญ่
ระวังระไวอย่าให้ทำเมินเฉย
ของคาวหวานเป็นการของทรามเชย
อย่าละเลยไว้ใจให้ใครทำ
เป็นสตรีย่อมมีมารยาท
จะทำการก็สะอาดไม่ผลีผลาม
สิ่งใดดีที่ไหนสนใจจำ
ปากคำไม่กระเดื่องให้เคืองใจ
จัดแจงการบ้านเรือนดูรอบคอบ
ถึงทำชอบผัวว่าชั่วก็นิ่งได้
รักษาตัวกลัวผิดระวังระไว
ตั้งจิตคิดไว้ให้คนชม
บาลีว่าหญิงดีมีสี่อย่าง
ไม่อำพรางย่อมตรัสบริหาร
สำแดงไว้ให้เห็นเป็นประธาน
จึงพิจารณ์ตามพระพุทธาธิบาย
หญิงเหล่าหนึ่งเรียกว่ามาตาภริยา
สเน่หาในสามีไม่เหือดหาย
ปฎิบัติเช้าเย็นไม่เว้นวาย
มิไข้หน่ายในการบำรุงบำเรอ
มารดารักบุตรนั้นฉันใด
เอาใจใส่มิได้แต่งเสนอ
รักสนิทจิตสมัครสามีเธอ
เทียบเสมอเพียงบุตรในอุทร
ภคินีภรรยานั้นพวกหนึ่ง
เร่งรำพึงคิดคร่ำคำที่สอน
รักสามีเหมือนพี่ร่วมมารดา
โอนอ่อนคำนับน้อมยอมยำเกรง
ทาสีภรรยาพวกหนึ่งเล่า
ท่านชักเอามาเปรียบเทียบเหมาะเหม็ง
รักสามีเหมือนนายเงินของตนเอง
ต้องยำเกรงเช้าเย็นเป็นนิรันดร์
สหายิกาภรรยาครบสี่
รักสามีดังสหายผ่อนผายผัน
สงวนอารมณ์มิได้ข่มขี่กัน
สู้อดกลั้นจริงจริงทุกสิ่งเจียว
เมียดี 4 แบบ (ปรมาจารย์ภาษาไทย ขุนจงจัดนิสัย)
เมียดีเสมอทาส
อย่างหนึ่งถึงหากไม่งาม
รูปทรามไปบ้างช่างหนอ
แต่งานหล่อนนี้ดีพอ
มุ่งก่อกิจทำกล้ำไป
รุ่งเช้าเจ้ากอปรกิจการบ้าน
ไม่คร้านเกะกะไถล
มีงานควรทำทำไป
หล่อนไม่บิดเบี่ยงเกี่ยงงอน
จักใช้สิ่งใดให้ทำ
ตรากตรำห่อนเพิกถอน
ไม่ขัดด้วยขานวานวอน
เหมือนทาสซึ่งอ่อนผ่อนกลัว
เมียดีเสมอมารดา
อย่างหนึ่งซึ่งนางจงรัก
พิทักษ์บำรุงเลี้ยงผัว
แม้ถ้าสามีเมามัว
เกรงชั่วหล่อนขัดทัดทาน
ยามที่สามีป่วยไข้
หล่อนยิ่งมีใจสงสาร
ฟูมฟักรักษาพยาบาล
ตราบการป่วยนั้นบรรเทา
เปรียบนางอย่างเช่นนายแพทย์
ระแวดระวังนั่งเฝ้า
เหมือนหนึ่งมารดาเลี้ยงเรา
โลมเล้าเกษมเปรมปรีดิ์
เมียดีเสมอเพื่อน
อีกอย่างหนึ่งนวลนางอย่างมิตร
จอดจิตฝากรักศักดิ์ศรี
มอบชีพมอบกายหมายพลี
ร่วมทุกข์สุขีด้วยกัน
ถึงตายยอมเพื่อนคู่
หวังอยู่ร่วมเรียงเคียงขวัญ
ถึงยามฝากตัวพัวพัน
บากบั่นยินยอมพร้อมใจ
หากผัวมีกรรมจำจร
จากหล่อนลงซึ่งถึงไหน
ห่อนสู้ติดต้อยตามไป
อดอยากอย่างไรก็ไม่กลัว
เมียดีเสมอน้อง
อย่างหนึ่งนั้นน่าปราณี
นุชช่างภักดีต่อผัว
อ้อนออดพรอดฝากเนื้อตัว
เกรดชั่วเกรงผิดคิดแคลน
ห่อนหยาบห่อนหยาบคร้ามเกรง
ยำเกรงอารีดีแสน
รู้หลีกชั่วกลัวแคลน
หากแค้นห่อนคลายอารมณ์
ผัวอ่อนหล่อนอวยเออตาม
เผื่องามเผื่อรักศักดิ์สม
นางดังดุจน้องปองชม
เกลียวกลมควรอยู่คู่ครอง
กฤษณาสอนน้อง (สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิต)
อย่าซอนซอนสรวลเสียงสำเนียงดัง
อย่าระเริงกิริยาเป็นน่าชัง
ถ้ายามพลั้งชนจะชวนสำรวลพลัน
อย่าด่วนดำเนินไคลครรไลแล่น
กรกรีดแหวนแกว่งหัตถาหกหัน
อย่ามุ่งเมิดเดินบาทจะพลาดพลัน
อย่าทัดพันธุ์มาลาเมื่อคลาไคล
อย่าเสยเกศยุรยาตรเมื่อนาถย่าง
จีบพกหกลางขายสำเนียงส่งเสียงได้
สะกิดเพื่อนเยื้อนสรวลสำรวลใน
อย่าทรงสะไบพลางเดินดำเนินลี
อย่ายอหัตถ์ผัดลบกำโบละ
ประทินประนางย่างทางวิถี
อย่านุ่งกรายภูษาเดินจรลี
จะเสื่อมศรีศักดิ์ยุพาไม่ถาวร
อนึ่งอย่าทรงสะไบครองทั้งสองบ่า
เปลือกพระกายินทรีศรีสมร
ถ้าชายสบก็จะสรวลสำรวลอร
เป็นเครื่องร้อนสำรวมหทัยไม่ธำรง
คติเตือนใจหญิง
ขอบคุณhttp://www.baanjomyut.com/10000sword/women_poem/05.html
อิอิ พี่สายธาร
ต้องบอกว่า สุภาษิตสอนหญิงแท้ด้วยสิค่ะ
แม่สอนว่า ก่อนนอนให้ระลึกถึง 5 สิ่ง
หนึ่ง ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ท่านมีความรุ้จริง
สอง ระลึกถึงพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
สาม ระลึกถึงพระสงฆ์ ผู้ดำรงไว้ซึ่งพุทธศาสนา
สี่ ระลึกถึงพ่อแม่ ผู้ให้กำเนิด เกิดเรามา
ห้า ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ซึ่งถ่ายทอดความรู้ให้เราจนสิ้น ตลอดทั้งชีวิต มีครู
สุขสันต์ทุกวันน่ะค่ะ พี่สายธารและเพื่อน ๆ ก็เป็นครูที่ให้ความรู้เหมือนกัน
เข้ามาชมคำกลอนสอนหญิงแท้ครับ
สวัสดีค่ะ
จะเก็บไว้ค่ะ "สุภาษิตสอนหญิง"
สบายดีน่ะคะ
สวัสดีค่ะ เก็บไว้ให้นักเรียนอ่านนะคะ
ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทายพร้อมคำสอนของแม่ที่น่าประทับใจ
มีความสุขในทุกๆวัน นะคะ
เจริญพร โยมครูสายธาร
คำกลอนสอนหญิงหรือคติเตือนใจหญิง
มีคุณค่ามากมายแต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยใส่ใจ
เจริญพร
ขอบคุณท่านรองฯค่ะ ที่แวะมาทักทาย
มีสิ่งดีๆนะคะ
รักษาสุขภาพนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ
มีความสุขในทุกๆวัน นะคะ
ปัจจุบัน หลายๆอย่างเปลี่ยนไปมากค่ะ
แต่ยังคงรู้สึกดีๆกับความงดงามของวัฒนธรรมในสัมยก่อนมากๆค่ะ
สาธุ
ขอพระคุณเจ้าสุขภาพแข็งแรง
มหา แวะมาเยี่ยมถามข่าว สบายดีไหม
สบายดีค่ะ แต่รู้สึกยุ่งๆมากๆค่ะ
ไม่ได้มาที่นี่เกือบครึ่งเดือนแล้วค่ะ
รักษาสุขภาพนะคะ
ขอบคุณมากมายค่ะ :)
ขอบคุณค่ะ ขอยืมไปใช้บางน่ะค่ะ ...
น่าจะให้สั้น