สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทาน ข้อคิด ข้อเตือนใจ เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ

  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ณ หน้าพระตำหนักใหญ่ วังศุโขทัย เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552  และเสด็จฯท่าวาสุกรีทรงปล่อยโค จำนวน 1 คู่ ทรงปล่อยนกปรอดหัวโขน 58 ตัว และทรงปล่อยปลา 58 ตัว จากนั้น เสด็จขึ้นพระตำหนักใหญ่ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีเข้าเฝ้าฯ ถวายแจกันดอกไม้พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหาร และอาหารกลางวันแก่ผู้เข้าร่วมพิธี

เวลา 13.10 น. เสด็จฯ พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ยังศาลามิตราภิรมย์ วังศุโขทัย เพื่อพระราชทานทุนการศึกษาภายใต้โครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมฯ แก่นักเรียนที่ยากจนแต่เรียนดี ประพฤติดี 152 ราย โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ กราบบังคมทูลรายงาน

สมเด็จพระบรมมีพระราชดำรัสแก่นักเรียนด้วยว่า การพัฒนาประเทศนั้นการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง บุคคลไม่ว่าจน ลำบากยากเข็ญ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ศึกษาให้รู้จริง ถึงแก่นชัด และสามารถนำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์กับความสามารถและนิสัย ตลอดจนสิ่งที่ใจรัก การศึกษาไปได้ดีต่อเมื่อมีความใส่ใจ เห็นคุณค่าตลอดจนมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ต่อส่วนรวม และประเทศชาติ เพราะว่าคนที่มีการศึกษาสูง แต่มีทัศนคติที่ไม่ดีจะเป็นการทำลายสังคมและประเทศชาติ คนที่มีนิสัยนึกถึงส่วนรวมและเพื่อน สังคม มีความคิดสร้างสรรค์ จะนำความรู้มาใช้ประโยชน์ได้ นักเรียนที่ได้รับทุนครั้งนี้ นับว่าเป็นคนที่มีความตั้งใจ ใฝ่รู้ใฝ่ดี ผู้ใหญ่เขาไม่ลืม เขาใส่ใจ ผู้ใหญ่ที่ทำโครงการนี้จำเป็นต้องศึกษาติดตามอย่างต่อเนื่อง พัฒนาแผนในการช่วยเหลือ การทำงานให้ได้ผล คือการศึกษาข้อมูล ใส่ใจการทำงานอย่างต่อเนื่อง บางทีอิงทฤษฎีมากๆ ไม่ได้ผล เราเป็นนายทฤษฎี มีไว้ใช้ประโยชน์ เพื่อนำมาพัฒนาบุคลากร เพื่อพัฒนาประเทศชาติ เมื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเองแล้วจะเป็นบุคคลที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมได้

วันเดียวกัน พระราชทานข้อคิด ข้อเตือนใจ แก่ ข้าราชบริพาร และบุคคลทั่วไป เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 28 กรกฎาคม 2552  ความว่า

สะเจ  สะรูปะภาโว   สุทัสสะนี  โสภะโณ  สุธัมโม ปะฏิรูโป

สัพเพ ชะนา  จิรัฎฐิติกะกาเล  ถาวะระโต   กายะสุขี โหนติ มะโนรัมมา

ถ้าหากภาพรวมสวยงามถูกต้องเหมาะควร

ทุกคนทุกหมู่เหล่า จะได้รับความสุขกาย  สบายใจอย่างถาวรในระยะยาว

๑.     ความหมายของ “ภาพรวม ”

        ความจำกัดความคร่าวๆของ “ภาพรวม” คือ การรักษาภารกิจหน้าที่ตามตำแหน่งที่หน่วยงานหรือ สถาบัน ให้หน่วยหรือ หน้าที่ที่เรารับผิดชอบดำเนิน(การ) ไป ด้วยความดี เรียบร้อย เหมาะสม ตามภารกิจ โดยยึดมั่น ในเป้าหมาย(Goals)และดำเนินไปตามความมุ่งหมาย (Objectives)ตามนโยบายและภารกิจ(Policies and Mission)โดยครบถ้วน ตามขั้นตอนและแนวความคิดที่ถูกต้อง

๒.    ข้อควรคิดสำหรับภาพรวม

     ๒.๑ ต้องคำนึงตาม ข้อ ๑ โดยต้องตระหนัก และไม่ลืม

- Objectives

- Goal

- Policy

- Organization + Troops to tasks

- Situation (ของเราเอง,สิ่งรอบตัว และ Out Side factors )

- Terrain + Ground (สิ่งแวดล้อม รอบตัว)

- กาลเวลาต่างๆ VS งานที่ต้องทำ ( Time + Space VS tasks )

- Prediction + forecast (“หมอดูทายว่า” การมองไปข้างหน้า + การ Recall Lesson Learned บทเรียน)

- การวางแผนที่ดี พร้อมทั้งแผนเผชิญเหตุ แผนฉุกเฉิน

     ๒.๒ ภาพรวมไม่ใช่การหยวนหรือปล่อยเฉื่อยไปตามน้ำ เราต้องคิดตาม ข้อ ๒.๑ แต่ก็ต้องรู้ว่าสถาบันเราหน่วยเราประกอบด้วย หลายคน หลายหน่วย ซึ่งแตกต่างหลากหลายกัน จึงต้องรวมความสามารถหรือขีดจำกัดตลอดจนคุณลักษณะต่างๆของหลายฝ่ายเข้ามาให้เกื้อกูลกันและได้ประโยชน์ โดยเฉลี่ยคุณสมบัติต่างๆ ให้สมดุลเพื่อให้ได้หน่วยที่มีความเสถียร และมั่นคง แน่นหนา แข็งแรง หนักแน่น แต่อ่อนตัว ทั้งนี้ ไม่เว้นข้อความใน ข้อ ๑

๓. บทจบของภาพรวม

งานดี คนดี คิดดี วินัยแน่น เข้มแข็ง เข้มๆ แต่มีน้ำใจและเข้าใจเหตุผล เข้าใจภาพรวม = ภาพรวมที่ดี หน่วย Happy ภารกิจก้าวหน้าสำเร็จ(ถ้ายังบกพร่องหรือยังไม่ดี ทั้งๆที่ตั้งใจ ก็แก้ได้ถือเป็นบทเรียน – Lesson Learned) ส่วนรวม Happy ผลประโยชน์ ส่วนรวม ตัวเอง เองก็ Happy และสบายใจ

เอาข้อ ๑ + ข้อ ๒ ตั้ง + คิดให้ดี และนำ ข้อ ๒.๒ มาบริหารรับรองว่า จะสบาย

 

                   ข้อคิด ข้อเตือนใจ พระราชทานแด่  ข้าราชบริพาร และบุคคลทั่วไป

                 เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ  ๒๘  กรกฎาคม   ๒๕๕๒  

ที่มา ฝ่ายข่าวในพระราชสำนัก สถานีโทรทัศนทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7  และ  http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0101290752&sectionid=0101&day=2009-07-29

 

[อิงครัตน์]

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ควรเรียนเพื่อรู้ และนำไปใช้ประกอบอาชีพ และช่วยเหลือสังคม แต่ถ้าเรียนมากรู้มาก และนำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด สิ่งที่เรียนมาก็ "ไร้คุณค่รา" ค่ะ ขอบคุณบทความดี ๆ ค่ะ