ชีวิตตะเภาแก้วตะเภาทอง ในอีกมุมมองหนึ่ง


สุขจากการมีงานทำ

เผลอแป็บเดียวเอง เข้าสู่เทศกาลการเกษียณอายุราชการกันอีกแล้ว ก็ว่ากันตั้งแต่ปีนี้มีคนจำเป็นต้องเกษียณกี่คน และคนสมัครเกษียณตามการส่งเสริมของรัฐกี่คน คนทำงานครบ 25 ปีก็มารับของขวัญการทำงานมานานได้รับกันทุกคน

ในปีนี้ที่องค์กรผม เค้าให้คนสมัครเกษียณ 3 คน คนมีคุณสมบัติและผ่านการพิจารณาไปก็ 2 คน

 ส่วนคนที่ต้องเกษียณจริงๆ ผมไม่แน่ใจ

 

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษียณเพราะจำเป็นหรือ สมัครเกษียณ จริงๆก็มีหลายอย่างเกิดขึ้นให้ได้คิดนะ เค้าออกไปทำอะไรกันนะ งานนะมันมีคุณค่าในตัวของมันเอง สร้างสุข สร้างความภูมิใจ การมีส่วนร่วม  ฯลฯ

แต่ก็ได้รับคำตอบอยู่เหมือนกันก็คือเส้นทางแต่ละคน แผนชีวิตของแต่ละคน เค้าวางมาไม่เหมือนกัน บางคนเค้าคิดแล้วว่าจะต้องเปลี่ยนเส้นทางตรงนี้เค้ารอคอยตรงนี้และโอกาสก็มาถึงแล้วอันนี้ก็ไม่ห่วง

 

ในส่วนของบางคนเค้าก็กะว่าจะสบายตัวจะได้มีความเป็นอิสระไม่ถูกการบีบคั้นจากระบบที่ใช้การบริหารสมัยใหม่เข้าควบคุม

และได้เคลียร์หนี้สินกัน อันนี้ก็ต้องคิดให้มากหน่อย

เพราะถ้าเลยจากอุปสรรค์ตรงนี้ไปก็จะเกิดปัญหาใหม่คือ

ความหมดคุณค่าเพราะไม่มีงานทำ และหลายคนเงินก็หมดไปด้วย เหตุการณ์อาจจะพาไปจนถึงคำว่าไร้ค่า รอรับความช่วยเหลือจากลูกหรือคนอื่นไปเลย บางคนก็ค้านบอกว่าโอ้โฮงานเยอะแยะจะไม่มีงานทำได้อย่างไร งานบ้านก็รอให้ทำเต็มไปหมด จริงๆ งานบ้านมันไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ทำแล้วถ้าไม่มีคนชื่นชม หรือติ ก็จะไม่ค่อยมีแรงขับดัน สารแห่งความสุขมันไม่หลั่ง ในที่สุดก็จะทำน้อยลงจนเหมือนเดิมกับตอนที่เราทำตอนที่รับราชการนั่นแหละ มันก็จะทำให้จิตใจอ่อนแอกระทบต่อร่างกาย หลายคนเสียชีวิตเร็วไป ตรงนี้อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่น่าห่วงก็ได้..

คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้คิดอะไร ไม่ชัดเจนอะไร คิดว่าเวลายังมีอีกเยอะ อีกนานกว่าจะเกษียณ เรามั่นคงซะขนาดนี้จะกังวลไปทำไม ทุกอย่างแก้ไขได้ สบาย สบาย

อีกหน่อยเดี๋ยวก็เปลี่ยนตำแหน่ง เดี๋ยวเงินเดือนก็ขึ้น  ก็ว่ากันไปนะ..

คนที่น่าอิจฉาที่สุดก็น่าจะเป็นคนที่ไม่มีวันเกษียณนะ

คือเมื่ออายุครบ 60 ปีก็ยังสามารถมั่นใจและมีทางเลือกที่จะเดินต่อไปโดยไม่มีใครมาตัดสินชีวิตเราหรือตัดสินชีวิตเราได้แต่ไม่มีผลกระทบกับตัวเราเลย เช่น หากเรามีกิจการส่วนตัวอยู่ซึ่งรอคอยเรามาตลอด อยากให้เราออกมาอยู่ด้วยทุกเมื่อเชื่อวัน และก็มาถึงโอกาสนั้น ก็คงได้เฮกันละครับ

 

องค์กรเค้าดูแลผู้เกษียณนี้อย่างดี พาไปเที่ยว ไปอบรมสัมมนาเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ชุมชนสูงวัย โดยทั่วไปก็จะพาไปเที่ยวในแถบที่มีทะเลกัน ได้สนุกสนานลืมความทุกข์ความกังวลที่จะเกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ ถึงขนาดที่ว่า ไม่มีเวลาในการอยู่กับครอบครัวกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้บังคับหรอกนะครับ..

ว่ากันว่า ทั่วไทยเลยก็แล้วกัน ปีนี้ก็ที่ชะอำ ที่อุดรธานี... สุดท้ายก็จะจบและอำลาชีวิตราชการกันที่องค์กรของเรา แล้วก็เงียบหายไป...

 และจะกลับมาเริ่มบรรยากาศแบบนี้ใหม่ในช่วงนี้ของปีหน้าครับ

เหมือนกันทุกที่หรือเปล่าครับ

หมายเลขบันทึก: 282020เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2009 10:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ถึงตุลา คราเกษียณ เวียนมาถึง        บุคคลซึ่งเหนื่อยนักได้พักผ่อน

หกสิบแล้วพักเถิดหนาอย่าอาวรณ์ เพราะเมื่อก่อน ทำมามาก ยากมานาน

 

แต่คนเคยมีงานทำประจำอยู่           แล้วจู่จู่ ให้หยุดสุดสงสาร

ร่างกายยังทำได้ไปอีกนาน             แต่สมองซิคร้านเรื่องความคิด

 

คนวัยนี้ควรพักกายพักสมอง          อายุถึงรัฐจึงต้องจำกัดสิทธิ์

แต่ด้วยว่าเรื่องเงินทองไม่รอนลิด     ไม่เบือนบิดทั้งบำเหน็จหรือบำนาญ

 

วัยเกษียณ  ใช่คนแก่  ที่ไร้ค่า         หรือจะมาเป็นภาระแก่ลูกหลาน

เพียงหยุดกิจประจำการทำงาน      ตามสังขารอายุขัยวัยของเรา

 

หางานทำที่กำลังพอทำได้            อย่าทุกข์ใจหมดหวังนั่งจับเจ่า

การสิ่งใดทำแล้วช่วยบรรเทา        ความหงอยเหงาว้าเหว่เร่เข้าทำ      

 

จะเที่ยวไหนเที่ยวไปให้สนุก        อย่ามัวนั่งเป็นทุกข์วันยังค่ำ

อยากจิตโปร่ง จงปฏิบัติธรรม        อยู่อย่างเป็น ผู้ชี้นำทำสิ่งดี

 

คนไทยเรายังเคารพรุ่นปู่ย่า            คนชราใช่หมดค่าไร้ราศี

ทำเกษียณให้สุขเกษม เปรมฤดี      ลูกหลานไทยยังมีกตัญญู

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท