บันทึกความทรงจำ "เศรษฐกิจพอเพียง"


การจับจ่ายใช้สอยนั้น ซื้อเท่าไรก็ไม่พอ ความอยากของมนุษย์มีมากมายนานับประการ ของทุกอย่างที่ซื้อเราก็คิดว่ามีประโยชน์ ต้องถามว่าจำเป็นด้วยหรือไม่

          ช่วงนี้มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน มีโอกาสได้สังสรรกับกลุ่มเพื่อนของครอบครัว ซึ่งบางคนแยกย้ายกันไปอยู่ต่างจังหวัด นานมากแล้วไม่ได้มาพบกัน เพื่อนเล่าว่าที่ไม่ค่อยได้มาพบนั้นเพราะนานๆ จะมากรุงเทพสักครั้ง ถ้ามาส่วนใหญ่ก็จะไปหาเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่ยังลำบากอยู่ในขณะนี้เพราะสงสารและเป็นห่วง เนื่องจากในสมัยที่เพื่อนเก่ายังหนุ่มมีงานการที่ดีทำ มีรายได้มากมาย แต่การครองตนในวัยนั้นพลาดไป ใช้จ่ายเงินที่หามาได้อย่างสบายเกินตัว ทำให้ครอบครัวลำบากมาถึงทุกวันนี้ ตอนช่วงที่เพื่อนยังอยู่ในวัยนั้นก็มีความชื่นชมเพราะคิดว่าเขา Sport เลี้ยงคนอื่นๆ ตลอด เฮฮาได้ทุกวัน แต่เมื่อตนเองมีครอบครัวก็ห่างๆ กันไป โชคดีที่ครอบครัวของเพื่อนมีความรอบครอบเรื่องการใช้จ่าย จึงผ่านพ้นและมีความมั่นคงจนถึงปัจจุบัน ไม่ลำบากเหมือนครอบครัวเพื่อนเก่า

          สิ่งที่ได้รับฟังจากประสบการณ์ของเพื่อน ทำให้คิดถึงคำสอนของพ่อที่สอนเราในวัยเด็ก โชคดีมากที่เราได้รับฟัง ได้รับการปลูกฝังจากพ่อที่สอนให้รู้จักการใช้จ่ายอย่างพอเพียง พ่อสอนว่าเมื่อเราเติบโตขึ้น มีงานมีการทำ สามารถหารายได้ได้เอง เราต้องรู้จักการใช้จ่าย เพราะจำนวนรายได้ที่ได้มาไม่สำคัญเท่ากับจำนวนรายได้ที่ยังเหลืออยู่ และพ่อยังบอกถึงวิธีการใช้จ่ายด้วยว่าต้องแบ่ง 4 ส่วน คือ

          ส่วนที่ 1 ใช้เพื่อการดำรงชีวิต คือ ใช้จ่ายในการซื้อหาปัจจัย 4 ตามความเหมาะสมของชีวิต

          ส่วนที่ 2 ใช้หนี้เก่า คือ ใช้ในการตอบแทนผู้มีพระคุณ 

          ส่วนที่ 3 ใช้ลงทุนเพื่ออนาคต คือ เลี้ยงดู & ให้การศึกษาบุตร ทำบุญทำกุศลตามจิตศรัทธา

          ส่วนที่ 4 เก็บออม ไว้ใช้ยามเจ็บป่วยหรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

          ซึ่งการแบ่งใช้จ่ายในแต่ละส่วนนั้นไม่จำเป็นต้องเท่ากัน เพราะในวัยเริ่มต้นของชีวิต ส่วนที่ 1 จะมีความจำเป็นมากที่สุด จึงใช้ในส่วนนี้มากหน่อย แต่อย่าให้มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เดือดร้อน การจับจ่ายใช้สอยนั้น ซื้อเท่าไรก็ไม่พอ ความอยากของมนุษย์มีมากมายนานับประการ ของทุกอย่างที่ซื้อล้วนมีประโยชน์ แต่ต้องถามว่า "จำเป็น" ด้วยหรือไม่   หลีกเลี่ยงการใช้เงินของอนาคตในสิ่งที่ฟุ่มเฟือยและเกินความจำเป็น    ควรแบ่งสรรปันส่วนให้ครบทั้ง 4 ส่วนตามความเหมาะสม  ถ้ามีมากพอแล้วจะใช้จ่ายในส่วนที่ชอบที่ทำให้เกิดความสุขบ้างนอกเหนือจากสิ่งที่จำเป็นโดยไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนก็ไม่เป็นไร

          เคยถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ให้น้องๆ ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพฟังบ้างเมื่อมีโอกาส เพราะอยากให้น้องๆ ทุกคนมีครอบครัวที่ดี มีความสุข และรู้จักใช้จ่ายในสิ่งที่พอเพียง เพราะเงินก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต มีมากเท่าไรก็ไม่เพียงพอ แต่การรู้จักพอและรู้จักใช้จ่ายต่างหากที่จะทำให้เกิดความสุขที่แท้จริง

 

หมายเลขบันทึก: 28104เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2006 00:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน


ความเห็น

รู้สึกว่าน้องๆที่ศูนย์รวยขึ้นทุกวันนะคะ

น้องศูนย์พัฒนาคุณภาพ
ทุกวันนี้ไม่ลืมที่พี่มอมสอนไว้ แล้วก็พยายามทำอย่างสมำเสมอค่ะ เพราะพี่สอนเราด้วยการทำเป็นตัวอย่าง

เห็นด้วยกับพี่มอมค่ะ  การประมาณตนเองเป็นสิ่งสำคัญ แม้รายได้น้อยก็อยู่อย่างเป็นสุขได้ ดังคำกลอนที่ว่า

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท

อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์

แม้มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง

อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท