อยากเล่าประสบการณ์ที่ต้องการให้ทุกคนรักษาสุขภาพเพราะตอนนี้พวกเราคงห่วงการติดต่อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ความจริงทุกคนทราบหรือไม่พวกเราอาจมีภัยเงียบจากโรคร้ายมาหาเราเมื่อไรก็ไม่รู้ตัวดังเช่น ที่ได้พบจากคุณแม่เมื่อสามเดือนที่แล้ว คุณแม่ไปทำบุญที่วัดมหาธาตุท่าพระจันทร์ เผอิญคุณแม่เป็นลม เท็กซี่ใจดีพาไปโรงพยาบาลศิริราช เข้าฉุกเฉิน วันนั้นที่โรงพยาบาลคนเยอะมากเมื่อหมอตรวจลงความเห็นแม่มีปัญหาการทรงตัวไม่ได้ ซึ่งเกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากันแล้วหมอให้ยาและให้กลับบ้านแต่คุณแม่ลุกไม่ขึ้นหมอยังคงย้ำอีกว่า 2-3 วันก็หายและให้กลับมาบ้านเพราะโรงพยาบาลมีเชื้อโรคมากเดี๋ยวจะเป็นโรคอื่นน่ากลัวมากกว่านี้ เที่ยงคืนนั้นพวกเราพาคุณแม่กลับบ้านด้วยความห่วงใย หนึ่งวันผ่านไป ที่สำคัญอาการคุณแม่ไม่ดีขึ้น เพราะคุณแม่ไม่สามารถทรงตัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ตกบ่ายคุณแม่บอกใบหน้าของคุณแม่มีอาการชา ตอนนั้นติดประชุมแต่โชคดีที่น้องติดต่อพี่หมู(ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนป.โทที่มศว.ที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลตำรวจช่วยดำเนินเรื่องให้ (ต้องขอบพระคุณอีกครั้งที่กรุณาช่วยเหลือ) คุณหมอให้สแกนสมองพบลิ่มเลือดอุดตันก้านสมองและหมอบอกว่ามาช้าไปส่งผลให้คุณแม่เป็นอัมพฤตขณะนี้อยู่ระหว่างทำกายบำบัด ซึ่งจากกรณีนี้อยากให้เป็นบทเรียนสำหรับทุกคนว่ามีข้อสังเกตของโรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือโรคบ้านหมุนเวลาจับลุกนั่งจะยังนั่งทรงตัวได้ แต่ถ้าจับลุกนั่งจะล้มลงทันที่ไม่สามารถทรงตัวนั่งได้เลยจะเป็นอาการของโรคทางสมองต้องพบแพทย์โดยด่วนจะช่วยแก้ไขได้ทันเวลา เรื่องนี้ได้ความรู้จากคุณหมอวรรณีท่านสอนนักเรียนแพทย์โดยใช้คุณแม่เป็นกรณีศึกษา จึงอยากบอกกล่าวให้ทุกคนระวังภัยเงียบนี้เป็นภัยที่กำลังคุกคามต่อสุขภาพของคนไทยไม่ใช่น้อยที่ควรระวังจ๊ะ...นี่ขนาดคุณแม่เป็นคนระมัดระวังเรื่องสุขภาพแล้วนะยังเจอจนได้เลย แถมโชคร้ายหมอช่วงแรกวินิจฉัยผิดส่งผลให้เป็นหนักขึ้น
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เขียนยังไม่จบแล้วบันทึกเพราะง่วงนอนเสียก่อนก็เลยเป็นผลอย่างที่เห็นละต้องมาแก้ไขบันทึกที่หลัง
ไม่มีความเห็น