ของฝาก


ของฝาก นักศึกษา

ที่คณะมีการเรียนการสอนโครงการพิเศษที่รับคนทำงานมาเรียนต่อ การเรียนนี้เรียนเป็นช่วงๆ ช่วงละ 2-3 เดือนต่อเทอม  แล้วก็กลับไปทำงาน ช่วงที่กลับไปก็มีกลุ่มใหม่คนละชั้นปีมาเรียนมาเรียน ความที่นักศึกษากลุ่มนี้เป็นผู้ใหญ่  เมื่อถึงตอนกลับมาเรียนมักมีของฝากติดมือมาฝากอาจารย์อยู่เสมอ บางทีไปทำงานสาย นักศึกษาไม่เจอตัว ก็แขวนไว้หน้าห้อง หรือฝากอาจารย์ห้องข้างๆ ไว้ ของฝากง่ายๆ ก็มักเป็นของกินประจำถิ่น ของดัง  ของดี ของมีชื่อ ที่ได้ดาว  OTOP เหมือนเราเอาของไปฝากใคร ก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่คนรับ ความรู้สึกประมาณนั้น พอได้ชิมของฝากที่นักศึกษาหอบมา รู้สึกว่าอร่อยสมกับได้ดาวจริงๆ เนื่องจากนักศึกษามาจากหลายที่ บางทีได้เปรียบเทียบกันว่า package ของใครสวยกว่า น่าสนใจกว่า แล้วก็มาคิดเปรียบเทียบของขอนแก่นน่าจะทำอย่างนั้นบ้าง อย่างนี้บ้าง เรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึงอร่อยอยู่แล้ว  

                เอาของกินมาฝากนั้นธรรมดา บางรุ่นเอาขนุนจากสวนมาฝาก  ฝากอาจารย์  3 คน แบกมา  3 ลูกใหญ่ ที่เอาขนุนมาฝากก็ต้องมีอะไรพิเศษกว่าขนุนที่อื่น ถามไปถามมาได้ความว่า ปลูกเอง และที่สวนไม่ใช้สารเคมีเลย เลยอยากให้อาจารย์ได้ลองชิม อันนี้ก็อร่อยสมกับที่เจ้าของภูมิใจนำเสนอ

                อีกกลุ่มเหมาสวนส้ม สวนลำไย สวนลิ้นจี่มา  คือ เอามาเป็นเข่ง แล้วมาแบ่งให้อาจารย์ที่คณะ  ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากทางเหนือ ของดี ของอร่อย ของบ้านเรา ก็อยากให้คนอื่นได้ลอง ถ้ามาจากทางใต้ที่ได้รับบ่อยคือ ไข่เค็มไชยา แต่ไม่ใช่พร้อมทาน รอให้ได้เวลาหลายวัยหน่อย แล้วล้างเอาดินเหนียวคลุกแกลบออก ยังไม่สะอาด เอาสก็อตไบร์ทมาขัดอีกที แล้วค่อยเอาไปต้ม ล้างไปคิดถึงคนเอามาฝาก แต่พอได้กินไข่เค็ม อื้อ อร่อยจริงๆ  มีอีกแบบคือ นักศึกษาที่เรียนจบไปแล้ว พอรู้ว่าเพื่อนทางเหนือจะเดินทางมาเรียนที่ มข. เนื่องจากต้องผ่านตลาดทุ่งเกวียน ให้เพื่อนแวะเอาไส้อั่วมาฝากอาจารย์ด้วย คราวนั้นผิดพลาดนิดหน่อย เพราะฝากกันหลายทอด มาถึงมข. ก็ยังไม่ใช่วันนเปิดเรียน บวกกับความร้อนระหว่างเดินทาง ไส้อั่วบูดเสียก่อน

                บางทีต่างคนต่างเอามา มันเยอะมาก กินไม่ทัน แบ่งให้อาจารย์ที่ทำงานไปบ้าง เอามาฝากอาจารย์ท่านอื่นที่แฟลตบ้าง บางทีอาจารย์ท่านอื่นก็เอามาฝากเหมือนกัน เพราะลูกศิษย์เอามาฝาก กินไม่ทัน บางทีให้คนรู้จักไปกินบ้าง แล้วบอกด้วยว่านักศึกษาเอามาฝาก ทีนี้ก็เลยรู้กันเวลาได้ของฝาก แสดงว่า นักศึกษากลุ่มเก่ากลับไป กลุ่มใหม่มาแล้ว

                กลับมานึกถึงตัวเอง เวลาไปที่ไหนถ้าต้องถือของเยอะ ก็ไม่อยากซื้อของฝากแล้ว เป็นภาระหอบหิ้ว อยากเดินตัวเบาๆ ของน้อยๆ   แต่เมื่อเทียบกับนักศึกษาแล้ว ทัศนคติเรื่องนี้ของตัวเองไม่ดีเลย  ขี้เกียจกว่าเยอะ

แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกที่เป็นผู้รับ เราได้รับของฝากเราก็ดีใจ ไม่ใช่ดีใจที่ได้กิน แต่ดีใจที่เค้ายังนึกถึงเราอยู่  เรื่องของกินนั้น อายุขนาดนี้ ได้ลองกินลองเที่ยวมาเยอะแล้ว ถ้าชอบก็ไปหามากินจนได้ ได้กินหรือไม่ได้กินจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่  แต่มันซึ้งที่น้ำใจนี่แหละ

แล้วคำถามที่ว่า เมื่อได้รับของฝากจากนักศึกษาแล้ว เราเป็นอาจารย์มีความลำเอียงต่อนักศึกษาที่ให้ของฝากหรือไม่ให้ของฝากหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ ไม่ว่านักศึกษาจะเอาของมาฝากหรือไม่เราก็ปฏิบัติต่อนักศึกษาเท่าเทียมกัน ไม่ลำเอียง การประเมินผลแต่ละวิชากำหนดไว้แน่นอนดังนั้นเราไม่สามารถช่วยนักศึกษาให้สอบตกหรือสอบผ่านได้  ซึ่งเรื่องนี้นักศึกษาเองก็ทราบเช่นกัน

ที่เขียนเรื่องนี้ เพราะเมื่อกี้นักศึกษาโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะเอาของมาฝาก เลยคิดว่าเรื่องของฝากนี้มีอะไรน่าบันทึกไว้เหมือนกัน

 

คำสำคัญ (Tags): #ของฝาก#นักศึกษา
หมายเลขบันทึก: 280495เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2009 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท