สะโบ
ด้วยความคิดถึง จะเริ่มต้นด้วยอยากจะบอกกับเธอว่าไม่ต้องคิดมาก พระเจ้าที่มีชีวิตอยู่จะไม่ทอดทิ้งเธอตลอดไป สะโบ ขณะนี้ฉันคิดอะไรไม่ออก จะเป็นด้วยความผิดของเธอหรือของฉันก็ไม่รู้ ถ้าเป็นความผิดของฉัน อภัยให้ฉันด้วย ถ้าเป็นความผิดของเธอฉันก็ให้อภัย ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว เหลือแต่ที่เราจะต้องอดทน ฉันเองคิดตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน คิดอะไรไม่ออกแล้ว ที่รักถ้าเธอต้องคิดคุก 15 ปี แทนคนอื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากที่เราจะต้องอดทน เธอไม่ต้องห่วงฉัน ขอให้เธออยู่ดี ๆ ฉันอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนอยู่กับเธอตลอดเวลา ฉันไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น ผัวฉันก็คือผัวฉัน ถ้าฉันได้ข่าวว่าเธอตาย ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องบอกฉันให้มีผัวใหม่ แลนเนต[๓] สำหรับฉันมีเต็มไปหมด สะโบ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ฉันจะซื่อสัตย์กับเธอจนกว่าเราจะได้เจอกันอีก
….สะโบ ถ้าเธอได้อ่านจดหมายฉันเธออย่าได้คิดมาก ลูก ๆ อยากจะเห็นหน้าเธอทุกคน ขอให้เธออยู่ดี
---------------------------------------------
ข้อความข้างต้นเป็นบางส่วนของจดหมายที่พอวา (ภรรยาของจอบิ) เขียนถึงจอบิ (แปล เป็นภาษาไทยโดยอาจารย์วุฒิ บุญเลิศ ประธานประชาคมอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี) ระหว่างที่จอบิถูกคุมตัวอยู่ในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ฉันได้ยินมันผ่านรายการถึงลูกถึงคน ทำให้วันรุ่งขึ้นฉันโทรศัพท์หา ปรีดา อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ และบอกปรีดาว่า ถ้าไปกรณีจอบิเมื่อไร ให้ตามฉันด้วย!
ฉันขอจดหมายฉบับเต็มๆ ของพอวา รวมถึงของ เจวา (ลูกสาวคนโต) และ แอนะ (ลูกชายคนที่ ๓) จากอาจารย์วุฒิเมื่อครั้งที่เจอกันตอนไปเยี่ยมจอบิที่ตม. สวนผึ้ง (แต่ไม่เจอจอบิ!) ต้อง ขอบอกว่า-หลายครั้งที่ฉันแกะปมประเด็นของนายจอบิ (ไม่มีนามสกุล) คนนี้ไม่ออก จดหมายของพอวาและลูกๆ ช่วยให้ฉันใจเย็นและพยายามมากขึ้น-ได้เยอะมากเลย
จอบิ ไม่ใช่ “เคสแรก” และคงไม่ใช่ “เคสสุดท้าย” ของคนที่ไม่มีเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลอะไรเลยสักอย่าง (Undocumented Person) ด้วยระยะทางที่ห่างไกลตัวอำเภอแก่งกระจาน พ่อและแม่ของจอบิ คือ นายพะวอ และนางกิคุ จึงไม่ได้แจ้งเกิดลูกหญิง-ชายทั้ง ๕ คน โดยจอบิเป็นลูกชายคนที่ ๓ ผลก็คือลูกทั้ง ๕ คนไม่มีสูติบัตรและไม่ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนเมื่ออายุถึงเกณฑ์
ข้อมูลจากการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงพยานบุคคลที่แวดล้อมจอบิหลายครั้งของคณะทำงานกรณีนายจอบิ (ไม่มีนามสกุล) ภายใต้อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ [๔] (ขณะนั้นจอบิอยู่ระหว่างการถูกควบคุมอยู่ที่สำนักตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสวน ผึ้ง, เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพหลพลหยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี และโรงพยาบาลศิริราช) โดยคณะทำงานฯ พบว่า จอบิเป็นคนไทยชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเผ่าสกอว์ เกิดที่บ้านป่าเด็ง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ปี พ.ศ.๒๕๑๐ มีรกรากทางบรรพบุรุษที่ต้นน้ำภาชี [๕] มีพ่อชื่อนายพะวอ เป็นกะเหรี่ยงเผ่าสกอว์ เกิดบริเวณต้นน้ำปราณบุรี ซึ่งเป็นเขตต้นน้ำในเขตอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี [๖] และแม่คือ นางกิคุ เกิดที่บ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
คณะ ทำงาน โดยความช่วยเหลือของประชาคมอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้ข้อมูลพยานบุคคลและได้พบกับพยานบุคคล (บางราย) ที่สามารถยืนยันการเกิดของนางกิคุ นายพะวอ และนายจอบิว่าเกิดในไทย และเป็นคนไทยจริง
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์สัญชาติไทยของจอบิ
(ตารางแสดงเปรียบเทียบการดำเนินการภายใต้ระเบียบฯ ทั้ง ๒ ฉบับ)
ประเด็น |
ระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๕ |
ระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการพิจารณาลงรายการสถานะบุคคลในทะเบียนราษฎรให้แก่ บุคคลบนพื้นที่สูง พ.ศ.๒๕๔๓ |
-พื้นที่ |
-ทั่วประเทศ |
-เฉพาะ ๒๐ จังหวัดในเขตพื้นที่สูง |
· ผู้ยื่นคำร้อง (ตามแบบพิมพ์ที่กำหนด) |
-บุคคลอ้างว่ามีสัญชาติไทย โดยไม่มีหลักฐานมาแสดง หรือผู้ขอเพิ่มชื่อ (ข้อ ๙๗) |
-ชาวไทยภูเขา ที่เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ (ข้อ ๑๑) |
|
-เจ้าบ้าน (ข้อ ๙๗) |
-บุคคล บนพื้นที่สูงที่ทางราชการได้จัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวไว้แล้วและ เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ (ข้อ ๑๑) |
· พยานหลักฐานที่กำหนดให้ต้องยื่นประกอบคำร้อง |
- |
-พยานเอกสาร (ข้อ ๑๒) -พยานบุคคล (ข้อ ๑๓) |
· กระบวนการพิจารณา |
|
-ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ ของคำร้อง หากไม่ถูกต้องสมบูรณ์แจ้งผู้ยื่นคำร้องภายใน ๑๕ วัน (ข้อ ๑๗) |
|
-สอบสวนเจ้าบ้าน ผู้ขอเพิ่มชื่อ บิดามารดาหรือญาติพี่น้อง (ถ้ามี) หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ (ข้อ ๙๗(๑) ) |
-สอบถามพยานบุคคล (ข้อ ๑๘) |
|
-ตรวจสอบไปยังสำนักทะเบียนกลาง (ข้อ ๙๗(๒) ) |
|
|
-รวบรวมหลักฐานทั้งหมด พร้อมความเห็นเสนอต่อนายอำเภอแห่งท้องที่ (ข้อ ๙๗(๓) ) |
|
· การอุทธรณ์กรณีนายทะเบียนไม่รับคำร้อง |
- |
-เมื่อ นายทะเบียนมีคำสั่งไม่รับคำร้องโดยไม่แจ้งเหตุ หรือแจ้งเหตุ ผู้ยื่นคำร้องมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งไปยังคณะกรรมการอุทธรณ์อำเภอ ภายใน ๓๐ วันนับแต่ได้รับคำสั่งแจ้งเป็นหนังสือ (ข้อ ๑๙) |
· ระยะเวลาพิจารณาของทางอำเภอ |
- |
-นาย อำเภอจะต้องมีคำสั่งอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ลงรายการสัญชาติในทะเบียน บ้าน(ท.ร. ๑๔) ภายใน ๓๐ วัน นับแต่รับความเห็นของนายทะเบียน (ข้อ ๒๑) |
· การแจ้งผลคำสั่งฯ |
-หาก พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานเอกสารหรือพยานบุคคลไม่น่าเชื่อถือหรือผู้ขอเพิ่ม ชื่อและรายการในทะเบียนบ้านมีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สุจริต และสั่งไม่อนุมัติหรืออนุญาตแล้ว ให้แจ้งผู้ร้องทราบเป็นลายลักษณ์อักษร (ข้อ ๑๐๗) |
-นายทะเบียนจะต้องแจ้งผู้ร้องภายใน ๕ วันนับแต่ทราบผลการพิจารณา พร้อมเหตุผลในกรณีไม่อนุมัติ (ข้อ ๒๒) |
· การอุทธรณ์คำสั่งของนายอำเภอ |
- |
-ผู้ยื่นคำร้องจะต้องอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน นับแต่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ หากไม่อุทธรณ์ภายในระยะเวลา ถือว่าสิทธิอุทธรณ์เป็นการสิ้นสุด (ข้อ ๒๔) |
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2547 ที่ผ่านมา คณะทำงานได้ดำเนินให้ความช่วยเหลือในการพิสูจน์สถานะบุคคลตามกฎหมายของนายจอ บิ โดยลงพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และเข้าพบนายอำเภอแก่งกระจาน พร้อมนายนิรันด์ พงษ์เทพ ในฐานะเจ้าบ้าน เพื่อยื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อนายจอบิเข้าทะเบียนราษฎรประเภท ๑๔ ของตน พร้อมรายชื่อพยานบุคคล ต่อนายอำเภอและปลัดอำเภอแก่งกระจาน ซึ่งเป็นไปตามข้อ ๙๗ แห่งระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๕
ในเบื้องต้น ทางอำเภอแจ้งว่านายจอบิอาจไม่ ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านของนายนิรันด์ พงษ์เทพ ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอแก่งกระจานได้ โดยทางอำเภอมีความเห็นเบื้องต้นว่านายจอบิควรยื่นเรื่องขอเพิ่มชื่อฯ ที่อำเภอสวนผึ้ง โดยอ้างว่าเป็นภูมิลำเนาปัจจุบันของนายจอบิ
และทางอำเภอแก่งกระจานก็ไม่เพิ่มชื่อจอบิเข้าในท.ร. 14 จริงๆ
(อ่านต่อตอน ๒)
[๑] ชายหนุ่มคนหนึ่งเคยวิจารณ์ฉันว่า หลายต่อหลายครั้งที่ฉันพูดถึงใครสักคน มักจะต้อง “อ้างอิง” ถึงใครอีกคนเสมอ เช่น กรณีนี้ “จอบิ ของ พอวา” ฉันไม่เคยบอกเขาว่า มันไม่ใช่การ “อ้างอิง” หรอก แต่มันเป็นการพูดถึงในบริบทของ “การพึ่งพิงกันและการผูกพันกัน” ต่างหาก จะมีใครสักกี่คนกันที่มีชีวิตอยู่โดยไม่พึ่งพิง หรือผูกพันกับใครเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่ เราต่างเป็นที่พึ่งพิงกันและผูกพันกันในฐานะแฟนหรือคนรัก การเล่าถึงชีวิตบางด้านของเรา โดยพูดถึงแฟนหรือคนรักของเราด้วยนั้น จึงย่อมไม่ใช่ในฐานะของการ “อ้างอิง” กันแน่นอน และยังฟังดูน่ารักดีด้วยนา
[๒] สะโบ ในภาษากะเหรี่ยง สกอว์ มีความหมายว่า ใช้เรียกแทนคำว่า ที่รัก ปกติถ้าไม่มีความรักกันจริง ๆ ไม่ใช้เรียกกัน เหมือนกับ คำว่า ฮันนี่ ในภาษาผรั่ง
[๓] แลนเนต สารเคมีสำหรับฆ่าแมลงและวัชพืช แสดงว่า เมียจอบิก็จะฆ่าตัวตายด้วยการดื่มยาแลนเนต
[๔] มี การตั้งคณะทำงานกรณีพิสูจน์สัญชาตินายจอบิ ในอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติและผู้พลัดถิ่น เพื่อติดตามให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยคณะทำงาน ประกอบไปด้วย สุรพงษ์ กองจันทึก, วิบูลย์ เชื้อชุมพล, ปรีดา ทองชุมนุม และดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล
[๕] ต้นน้ำที่เกิดขึ้นจากเทือกเขาตะนาวศรี
[๖] “ความเป็นมาของครอบครัวนายจอบิ” โดยวุฒิ บุญเลิศ ประธานประชาคมอำเภอสวนผึ้ง และนายจิ๊บ จะนุ กำนันตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
เผยแพร่ครั้งแรก http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=90&d_id=90
โอ้โห ! จดหมายของพอวาถึงจอบิไพเราะมาก เหมือนกับการเริ่มต้นการอ่านนิยายชิ้นดี และถ้าเต็มฉบับละ มันจะลึกซึ้งถึงความรู้สึกของภรรยาซึ่งมีต่อสามีมากน้อยเพียงใดนะ ทำให้ผมอยากเห็นตัวอักษรในจดหมายเสียแล้วสิ
ในฟุตโน้ตไม่มีคำว่า "สะโบ" และ "แลนเนต" มันหมายถึงอะหยังฮิ
เติมให้แล้วเน้อ
สงสัย firefox จะมีปัญหากับ gotoknow น่ะค่ะ
อืมม ..แล้วจดหมายฉบับเต็มอยู่ไหนกันนะ
"ใครอยากอ่านจดหมายฉบับจริงของ พอว้า ต้นฉบับที่เขียนถึงเหตุการณ์จริง จากความจริงไม่ได้ถูกบอกให้เขียนเพื่อหวังผลในรูปคดี จนไม่สามารถจับคนยิงรถนักเรียนตัวจริงได้" ผมมีอยู่ 2 ฉบับ สดใจตามหาความจริงติดต่อมาได้