ความสำเร็จของ HRD
ความสำเร็จของ HRD
*****ปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ : ความสำเร็จของงาน HRD ทั้งหลายนั้นจะเกิดขึ้นจาก
1) การยอมรับในตัว HRD เอง - หน่วยงานต่างๆ ต้องมีความเชื่อมั่น (Credibility) ต่อผลการทำงานของนัก HRD เพราะความไว้วางใจจะนำไปสู่ความเลื่อมใสศรัทธา (Trust) ซึ่งการสร้างความศรัทธานั้นจะต้องมาจากการทำงานของนัก HRD ต้องมีความเป็นมืออาชีพ (Professional)
2) การทำงานต้องจริงใจ - นัก HRD ต้องพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้บริหารและพนักงาน ต้องทำให้ผู้บริหารคิดว่าสามารถพึ่งพานัก HRD ได้ HRD ต้องไม่ทำให้ผู้คนรอบข้างเข้าใจว่าเรามีเงาของ CEO มาครอบอยู่ เพราะความจริงใจต่อกันจะเลือนหายไป
3) ต้องเข้ากับพนักงานได้ทุกคนทุกระดับ – ที่สำคัญนัก HRD ต้องมีทักษะในการสร้างความสัมพันธ์ส่วนบุคคล (Interpersonal Skill) เพราะงานจะไม่สำเร็จถ้านัก HRD เข้ากับ CEO และพนักงานในองค์กรไม่ได้ ดังนั้นนัก HRD จะต้องทำงานแบบหัวถึงฟ้า ขาถึงดิน นั่นก็คือ ต้องสามารถพูดคุยกับพนักงานทุกคนในองค์กร ตามคำเปรียบเปรยที่ว่า นัก HRD ต้องมองอย่างนกอินทรีย์ มองการณ์ไกล แต่ต้องทำงานแบบหนอน ที่เป็นนักทำงาน เฉกเช่นเดียวกันนัก HRD ต้องสามารถทำงานร่วมกับทั้งผู้บริหารและพนักงานได้ทั้งสองฝ่าย
*****มุมมองของผู้บริหาร : ผู้บริหารเริ่มมองว่า HRD เป็นเสมือนเพื่อนคู่คิด (Partnership) ในการทำงาน เพราะนอกจากการบริหารธุรกิจแล้ว ต้องบริหารคนด้วย ตอนนี้ผู้บริหารจะขาดทักษะในการบริหารคนเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการนัก HRD ให้เป็นผู้ช่วยเหลือ เป็นพี่เลี้ยงที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำ ในมุมมองของผู้บริหารพบว่าการพัฒนาบุคลากรเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากขึ้น คนที่มีความสามารถย่อมช่วยผู้บริหารทำงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดขึ้น ซึ่งเป้าหมายแต่ละปีจะมีความท้าทายมากขึ้นผู้บริหารจึงต้องการเห็นคนในหน่วยงานมีความรู้ ทักษะในการทำงานที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี และหากถามผมว่าแล้วหน่วยงานที่ไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เข่น หน่วยงานสนับสนุน ผู้บริหารของหน่วยงานเหล่านี้ยังเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรอีกหรือไม่ ผมกลับคิดว่าเป้าหมายของหน่วยงานเหล่านั้นสามารถวัดได้จากประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายย่อมต้องสูงขึ้นด้วยเช่นกัน และเป้าหมายที่สูงขึ้น ย่อมไม่พ้นเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานให้สูงขึ้นตามไปด้วย
*****หลุมพรางในการพัฒนาบุคลากรในองค์กร : หลุมพรางที่เกิดขึ้นในงาน HRD ก็คือ การยึดติดกับเครื่องมือมากเกินไป จนทำให้ระบบขาดความยืดหยุ่นในการนำเครื่องมือมาใช้ในองค์กร การทำงานของนัก HRD ยังยึดติดกับวิธีการแบบเดิม ๆ รวมถึงการที่นัก HRD มองว่าคนเปลี่ยนยาก เป็นนัก HRD แบบเก่าเน้นการทำงานประจำ (Admin Solution) มากกว่าการทำงานที่ตอบสนองต่อกลยุทธ์องค์กร (Strategic Solution) ดังนั้นนัก HRD ต้องเปลี่ยนมุมมองและความเชื่อพื้นฐานตรงนี้ก่อน เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงตนเอง ก่อนจะไปเป็น Change Champion ต้องทำให้หน่วยงาน HR มีต้นทุนในองค์กรที่สูงพอที่จะยืนเคียงข้าง CEO ได้ ดังนั้น HR ต้องมีความรู้ในเชิงธุรกิจ ความรู้ในงานเทคนิคเฉพาะทาง และมีทักษะในการบริหารการเปลี่ยนแปลงผ่านผู้คน การทำงานของ นัก HRD จะประสบความสำเร็จได้ต้องรู้จักวิเคราะห์ถึง Generation และ lifestyle ของคนในองค์กร เพราะมิเช่นนั้นแล้ว HR จะ “ทำงานเสร็จแต่ไม่สำเร็จ” (Finish แต่ไม่ Achieve) กล่าวคือทำงานให้เสร็จ แต่ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ มี Output แต่ไม่มี Outcome มีผลทำให้การทำงานของนัก HRD ไม่สามารถผลกระทบที่เกิดต่อองค์กรและธุรกิจได้
ข้อคิดเห็น
การพัฒนาคนเพื่อให้มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมักจะมีข้อจำกัด จึงควรที่จะพัฒนาคนให้มีคุณภาพให้ครอบคลุมในทุกๆด้าน ดังนี้ การพัฒนาด้านคุณธรรมและจริยธรรม พัฒนาด้านบุคลิกภาพ พัฒนาด้านมนุษยสัมพันธ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากการพัฒนาด้านความรู้และทักษะกระบวนการในการปฏิบัติงาน จุดเน้นที่ควรพัฒนามากที่สุดในปัจจุบันนี้ก็คือ การพัฒนาด้านคุณธรรมและจริยธรรม คนควรมีความรู้คู่คุณธรรม
ความเห็น (7)
ถ้าปฎิบัติสายกลาง ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป ทุกคนก็อยู่ดีมีสุขเด้อค่ะ
มาเยี่ยมชมผลงานครับ
มาให้กำลังใจค่ะ (ฝนตกอย่าลืมร่มนะค่ะ)
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ถ้าเราสามารถพัฒนาคนให้มีความรู้คู่คุณธรรมได้สังคมไทยจะน่าอยู่กว่านี้เยอะค่ะ
เห็นด้วยกับน้องพรรณี องค์การใหญ่ๆ บ้างครั้งการบริหารจัดการก็อุ้ยอ้าย เพราะระบบขั้นตอนมากเกินไป
บุญสม ผาสุข
การพัฒนาบุคลากรตามหลักวิชาการหรือตามยุทธศาสตร์องค์การเป็นการทำให้การพัฒนาบุคลากรเกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่ในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยาก เพราะกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของบุคคล และที่สำคัญผู้บริหารต้องให้ความสำคัญโดยมีวิธีการที่ทุกคนยอมรับ
ธนาคารนครหลวงไทย จัดอบรมหลักสูตร HRD Professional ให้ทีมงาน HRD
แฟนเราก็เข้าเรียนด้วย และกลับมาชื่นชม อ.อุไรวรรณ อยู่ชา ผอ.Thaiskillplus มาก
ว่า อาจารย์เก่งมาก ๆ เป็น HRD มือาชีพตัวจริง เพราะ รู้ที่มาของระบบต่าง ๆ
จนถึงการนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร อาจารย์ทำงานที่ SCG มาก่อนด้วย
เรานำเอกสารของอาจารย์มาอ่านแล้ว ยังอยากเรียนกับอาจารย์ เพราะเรียงลำดับ
การสอนได้เข้าใจง่ายมาก แฟนเราบอกว่า ชาว HRD ของธนาคาร
ปลื้มอาจารย์ก้นมาก เพราะเรียนแล้วได้ประโยชน์มาก ๆ และก็สนุกกับ
Workshop และ กิจกรรม ที่ได้ทั้งความรู้ ฝึกทักษะ ไม่แรงที่มาอบรม
ในวันหยุด เพราะได้ประโยชน์คุ้มค่า ที่สำคัญทำให้ตระหนักถึง
ความสำคัญของทัศนคติที่ดีกับงาน HRD ค่ะ เราก็เลยขอร่วม Share ว่า
การเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรง จะทำให้เราเข้าใจจริง ดังนั้น
ถ้าเราได้มีโอกาสเชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์ตรงและสอนเก่งแบบนี้บ้าง
มาสอนบ้าง จะทำให้เราได้ประโยชน์มาก ๆ แต่ก็ไม่รู้จะมีโอกาสหรือเปล่านะ