เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 สำนักงาน กศน. จังหวัดพัทลุง ได้จัดอบรมให้กับอาสาสมัคร กศน. และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดพัทลุง เริ่มด้วย(ผอ.จรัล ชุมคง และผอพิศิษฐ์ วศินภัทรโภคิน) บรรยายสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับงาน กศน. ที่จัดการศึกษาตามแนวทางพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 และ10 ซึ่งประเด็นหลักกำหนดให้ “ประชาชนได้รับการศึกษาตลอดชีวิต” จึงเป็นหน้าที่ของ กศน. และอาสาสมัคร กศน. ในการที่จะดำเนินการขยายผลกระบวนการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต่อไป ในการนี้อาสาสมัครต้องทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับงานของ กศน.ที่จัดการศึกษา 2 รูปแบบดังต่อไปนี้ คือ
1. การศึกษานอกระบบ เป็นการจัดการศึกษาที่ประกอบด้วย
- การศึกษาขั้นพื้นฐานนอกระบบสำหรับผู้ด้อยโอกาสในระบบ
- การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (สอดคล้องกับภูมิภาคพื้นที่, วัตถุดิบ, ทันสมัย, ก้าวหน้าในอนาคต
และนำความรู้มาใช้ในชีวิตตามแนวพอเพียง)
- การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต (เน้นกระตุ้นให้เกิดวิธีคิด , เห็นคุณค่า, เกียรติศักดิ์ศรีของตน)
- การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน (เน้นเวทีชาวบ้าน, แผนชุมชน, การจัดการความรู้ ทักษะ
ภาษา นวัตกรรม คอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต)
- การจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (เวทีชาวบ้าน,หลักสูตรระยะสั้น,
รวมกลุ่ม, ศูนย์เรียนรู้ และเครือข่าย)
- การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ (ตาม พรบ. การศึกษา 2542)
2. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการจัดการศึกษาตามความต้องการเรียนรู้ของผู้สนใจศึกษาโดยไม่กำหนดเวลา สถานที่ ซึ่งประกอบด้วย
- ห้องสมุดประชาชน (จังหวัด อำเภอ และห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี ในอดีตมีที่อ่านหนังสือพิมพ์
ประจำหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันโอนให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
- ศูนย์การเรียนชุมชน (กิจกรรมพบกลุ่ม นอกจากนั้นยังมีสื่อวีดีโอ ตำรา และหนังสือพิมพ์ให้ได้
เรียนรู้ได้ตามความสนใจ)
- ภูมิปัญญาท้องถิ่น (แหล่งเรียนรู้ที่ใครใคร่รู้ก็เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ตลอดเวลา)
- แหล่งเรียนรู้ในชุมชน (วัด โบราณสถาน หรือแหล่งอื่นๆในชุมชน) และหรือ
- แหล่งเรียนรู้อื่นๆ ที่ประชาชนสามรถเข้าถึงและสามารถใช้ประโยชน์ทางการศึกษาได้
เมื่ออาสาสมัครทราบถึงภารกิจของ กศน. แล้ว ก็จะเห็นว่าภารกิจดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ของกศน. ซึ่งมีอยู่เพียงตำบลละ 1 คน คงจะยากที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นให้มีประสิทธิภาพได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ กศน. จะต้องจัดโครงการอาสาสมัคร กศน. เพื่อเป็นเพื่อนเรียนรู้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้นอีกตำบลละ 1 คน พร้อมกับฝากให้อาสาสมัครฯและครู ช่วยกันเพิ่มจำนวนอาสาสมัครฯ เพื่อช่วยกันพัฒนาชุมชนและสังคมที่จะนำไปสู่ประเทศที่อยู่ดีมีสุขต่อไป
ต่อจากนั้น(ผอ.สมปอง โชติพืช และ อดีตผอ.กศนจังหวัดพัทลุง ผอ.แปลก พัชรดำรงกุล) สร้างพลังจิตอาสาให้แก่อาสาสมัครและผู้เข้าร่วมอบรมโดยน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปลูกจิตสำนึกเสียสละ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าอาสาสมัครฯเป็นการเพิ่มทุนทางสังคม ที่จะช่วยชุมชนได้รวดเร็วกว่าหน่วยงานรัฐซึ่งมีขั้นตอนมากมาย ดังนั้นอาสาสมัครจึงเป็นคนเก่ง ดี มีน้ำใจ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นคนมีจิตอาสา ซึ่งพอจะจำแนกคุณลักษณะได้อย่างน้อย 5 ประการ คือ เป็นคนที่มีพื้นฐานทางอารมณ์ดี, ภูมิใจที่เกิดเป็นคน(มีรูปร่าง,อวัยวะและอื่นๆซึ่งมีขนาดหรือตำแหน่งที่เหมาะสม),คิดและทำเพื่อชุมชน, คิดและทำอย่างสร้างสรรค์ และประพฤติตนเป็นผู้นำ (ท่านยกตัวอย่างมากมายอย่างสนุกสนาน) กระผมคิดว่าเมื่อทุกคนมีจิตอาสา นอกจากการศึกษาแล้ว ประเทศไทยของเราทุกคนก็จะสามารถพัฒนาก้าวล้ำหน้าทุกประเทศทั่วโลกได้อย่างสบายเลยครับ
เติมเต็มด้วยกลยุทธสู่ความสำเร็จในการทำงานอาสาสมัคร กศน. ที่ใช้กระบวนการกิจกรรมกลุ่มจัดโดย(ผอ. วิรัตน์ สุขอ่อน และอ. กฤษณา จินตาคม) หลังจากแบ่งกลุ่มและแบ่งภารกิจเรียบร้อย ให้เวลาระดมสมอง 30 นาที จากนั้นจึงให้ตัวแทนกลุ่มออกไปนำเสนอบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมายมีดังต่อไปนี้คือ
- การเสนอความต้องการในการเรียนรู้ของประชาชน (จัดเวทีชาวบ้าน, วิถีชีวิต ฯลฯ)
- การประชาสัมพันธ์ สื่อสาร เผยแพร่ข้อมูลเพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ของประชาชน (หอกระจายเสียง, วิทยุชุมชน, ปากต่อปาก ฯลฯ)
- ส่งเสริม สนับสนุน และร่วมจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (เข้าถึงกลุ่มต่างๆที่มีอยู่แล้วสอบถามความต้องการการสนับสนุน, พาศึกษาดูงาน ฯลฯ)
- ร่วมกับครูประจำศูนย์การเรียนชุมชนในการติดตามผล และดูแลการจัดกิจกรรมการศึกษาในชุมชน ((ประชุมวางแผน/ สร้างเครื่องมือประเมิน) , ดำเนินการตามแผน, นำผลการประเมินมาสรุป และนำไปใช้พัฒนาต่อไป ฯลฯ)
- ส่งเสริม สนับสนุนการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานทางด้านการศึกษาของประชาชนในชุมชน (จัดหา/จัดทำข้อมูลประชากรโดยเฉพาะด้านการศึกษา, ส่งเสริมอาชีพควบคู่การศึกษา, ประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน ฯลฯ)
สรุปด้วย 30 วัน สู่ความสำเร็จ “เอแฝงอะไรไว้หรือเปล่าน้า” บรรยายโดย(ผอ. วรวุฒิ จริยภัครติกร และ ผอ. จรูญ อินขาว) เริ่มด้วย สโลแกน “ใฝ่เรียน มองลึก นึกไกล ใจกว้าง” ตามด้วยการวางแผน ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ คือ
- การเก็บรวบรวมข้อมูลชุมชน (ท่านกล่าวว่าเราควรเก็บเอง จะได้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ)
- การประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน
- ออกแบบกิจกรรมการศึกษาในชุมชน และ
- จัดทำรายละเอียดของแผน
โดยแผนแต่ละแผนอาจมีหลายโครงการ และแผนจะเป็นลักษณะไม่จบแค 1 เดือนหรือปี มีการตรวจสอบ 3 ระยะ คือ ระยะก่อนดำเนินโครงการ ก็เป็นการตรวจเอกสารแผนโครงการ, ระหว่างดำเนินโครงการ ก็เป็นการตรวจว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่อย่างไร หากแผนยังไม่ดีหรือไม่เหมาะสมก็ปรับเปลี่ยน และระยะหลังเสร็จสิ้นโครงการ ก็สำรวจความพึงพอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข วางแผนใหม่ ตรวจสอบใหม่ต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าดีแล้วก็ต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อยู่รอดปลอดภัย และอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นอาสาสมัครต้องมีแผนปฏิบัติงานของอาสาสมัครที่สามารถปรับได้แต่รัดกุมเรียบร้อยเป็นระบบ โดยยึดหลักใครทำอะไร ที่ไหน กับใคร เมื่อไหร่ อย่างไร ผลเป็นอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคหรือไม่อย่างไร
จากนั้นอาสาสมัคร กศน. ก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ในโอกาสต่อไปกระผมจะนำประสบการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจของอาสาสมัคร กศน. ที่กระผมจะหาโอกาสไปพบปะสนทนา เพื่อนำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อไปครับ
สวัสดีค่ะ
กศน.จังหวัดเพชรบุรี จัดอบรมไปเรียบร้อยแล้วค่ะเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 52 อาสาสมัคร กศน. ลงพื้นที่ไปแล้วค่ะ
พอลล่าชอบค่ะ จิตอาสา มีอะไรให้พอลล่าอยากช่วยติดต่อได้เลยนะคะ
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายและขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยือนค่ะ
สบายดีนะคะ
(^___^)
สวัสดีค่ะ
จิตอาสาเป็นกิจกรรมที่ดีมากๆเลยค่ะ
ต้องใช้คนที่มี น้ำใจ จึงจะทำได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับไม่ได้มานานเลยคิดถึงมาก
สวัสดีค่ะ
แวะมาส่งความระลึกถึงค่ะ
และเชิญชวนร่วมสร้างหอสมุดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ด้วยกันนะคะ
http://gotoknow.org/blog/rongkham/349984
ขอบคุณค่ะ
ถ้าเรามีอาสาสมัคร กศน. ครบทุกหมู่บ้าน เหมือน อสม. จะทำให้ กศน.เรา ไปโลดเลยครับ