ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกประชุมครูจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 5,500 คน


ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกประชุมครูจาก 3 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดพิษณุโลกจำนวน 5,500 คน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=392776

13 กค. 2552 14:10 น.

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกประชุมครูจาก 3 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดพิษณุโลกจำนวน 5,500 คน ที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก เพื่อเร่งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดหวัด2009 มีนายสุรินทร์ ฐิติปุญญา นายกอบจ.พิษณุโลก นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกร่วมประชุมชี้แจงกับครูพิษณุโลกที่มาประชุม

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เชื่อว่าหวัดสายพันธุ์ใหม่คงแพร่กระจายไปครบทั้ง 9 อำเภอแล้ว เพียงแต่ยอดการตัวพบเชื้ออาจจะน้อยมาก และส่วนให้แพร่กระจายในเด็กนักเรียน สถานศึกษา ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องขอความร่วมมือกับครูทุกคนมาร่วมประชุมครั้งนี้ และขอให้ครูทุกคนช่วยกัน นับจากนี้ ขอให้หยุดการทัศนศึกษา หยุดการทัศนาจร หยุดกิจกรรมการรวมตัวของเด็กนักเรียน และขอให้สาธารณสุข ทำงานเชิงรุกร่วมกับอสม. สถานีอนามัย ทำงานร่วมกับครู ช่วยกันเช็คเด็กทุกคน ทุกโรงเรียนในทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด

นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในจังหวัดพิษณุโลก ข้อมูล ณ วันที่ 12 กรกฏาคม 2552 พบผู้ป่วยหวัดสายพันธุ์ใหม่แล้วจำนวน 29 ราย กระจายใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 14 ราย อำเภอเนินมะปราง 7 ราย อำเภอพรหมพิราม 5 ราย อำเภอบางกระทุ่ม 2 ราย อำเภอชาติตระการ 1 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยเรียน กระจายอยู่ในหลายอำเภอ ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิต แต่คาดการณ์ว่า ผู้ป่วยในพิษณุโลกยอดอาจจะถึง 2,000 คนแล้ว

คำสำคัญ (Tags): #ไข้หวัดใหญ่ 2009
หมายเลขบันทึก: 276355เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2009 11:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=26705

สธ.เผยสายด่วนไข้หวัดใหญ่ฯ ประชาชนโทรวันเดียว
กว่า 2,000 สาย ชี้สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่ฯ
ของไทย ไม่ได้เลวร้ายที่สุดในโลก

กระทรวงสาธารณสุข เผยประชาชน

โทรสอบถามสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ 1422
และ 0-2590 -3333 ตลอดวานนี้กว่า 2,000 สาย
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอาการ การรักษา
ชี้สถานการณ์โรคของประเทศไทยไม่ได้เลวร้ายกว่าที่อื่น
เหมือนที่หลายฝ่ายวิตก ระบุเหตุที่จำนวนคนป่วยยืนยันมาก
เป็นผลมาจากการทุ่มเททำงานของเจ้าหน้าที่
เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการมาก

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เปิดเผยความคืบหน้าการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดสายด่วน
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ทางหมายเลข 0-2590-3333 และ
1422 บริการตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าได้รับความสนใจจากประชาชน
โทรสอบถามจำนวนมาก ตลอดวานนี้มีทั้งหมด 2,112 สาย
เฉลี่ยนาทีละ 1 สาย ส่วนใหญ่มีความสงสัยเรื่องอาการป่วยและ
การรักษา

นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
จะมีอาการคือ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ
คัดจมูก น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร บางรายอาจมีอาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 90 มีอาการเล็กน้อย อาการจะทุเลาลงตามลำดับ
คือ ไข้ลดลง ไอน้อยลง รับประทานอาหารได้มากขึ้น
และหายป่วยได้เองภายใน 3-5 วัน โดยให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
แต่หากมีอาการซึมหรืออ่อนเพลียมาก รับประทานอาหารไม่ได้
อาเจียน ไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจเร็ว หรือเหนื่อย
ต้องรีบไปพบแพทย์ หรือเมื่อครบ 48 ชั่วโมงแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
ก็ให้ไปพบแพทย์เช่นกัน
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ทางด้านรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขอให้ผู้ที่ป่วยไข้หวัดใหญ่
สายพันธุ์ใหม่ฯ ที่พักรักษาตัวที่บ้าน อย่าออกนอกบ้านหรือไปทำงาน
ยกเว้นไปพบแพทย์เมื่ออาการไม่ดีขึ้น ส่วนการดูแลตนเองที่บ้าน
จะเหมือนกับโรคไข้หวัดทั่วไป คือนอนพักผ่อนมากๆ ในห้องที่อากาศ
ถ่ายเทสะดวก ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มากๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด
รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน
และรับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาละลายเสมหะ
ตามคำแนะนำของเภสัชกร

ทางด้านนายแพทย์คำนวน อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค
กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ของไทย
ในขณะนี้ไม่ได้เลวร้ายที่สุดในโลก เหมือนที่หลายฝ่ายวิตก
สาเหตุที่ ไทยมีรายงานจำนวนผู้ยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
และผู้เสียชีวิตมากขึ้นทุกวัน เป็นผลมาจากการทำงานเฝ้าระวัง
อย่างเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ เพื่อเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งผู้ป่วย
รายที่สงสัยส่งตรวจ โดยในการเปรียบเทียบสถานการณ์กับประเทศอื่นๆ
ตามหลักสากลและทางวิชาการ จะดูจากจำนวนผู้เสียชีวิตต่อประชากรล้านคน
 ซึ่งขณะนี้ ไทยมีผู้เสียชีวิต 24 ราย คิดเป็นผู้เสียชีวิต 0.4 ต่อล้านประชากร
ซึ่งน้อยกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีผู้เสียชีวิต 0.7 ต่อล้านประชากร
ส่วนที่แคนาดามีผู้เสียชีวิต 1.2 ต่อล้านประชากร
และอีกหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้

สำหรับสถานการณ์ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552
-15 กรกฎาคม 2552 มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 4,469 ราย
เสียชีวิตเท่าเดิม 24 ราย เฉพาะวันนี้ได้รับผลการตรวจยืนยัน
ทางห้องปฏิบัติการเพิ่ม 412 ราย ส่วนสถานการณ์โลก องค์การ
อนามัยโลกรายงานถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2552 มีผู้ป่วยใน 136
ประเทศ รวม 94,512 ราย เสียชีวิต 429 ราย.......

แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ
ผู้จัดทำ.... ฝ่ายข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ กลุ่มสารนิเทศ
[15/ก.ค/2552]

 

http://www.moph.go.th/hot/moph.pdf

กระทรวงสาธารณสุข

คู่มือ การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 
สํำหรัับประชาชน 

โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ติดต่อได้ โดยการไอหรือจามรดกันโดยตรง หรือการติดต่อผ่านทางมือที่สัมผัสของปนเปื้อน เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โทรศัพท์ โต๊ะ เก้าอี้ แป้นคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน และเคาน์เตอร์ เป็นต้น แล้วใช้มือแคะจมูก ขยี้ตา ป้ายปาก โดยไม่ได้ล้างมือด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลก่อน 

อาการ 
ไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก อาจมีอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย ในรายที่มีอาการรุนแรง จะมี อาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาจเสียชีวิตได้ 

การป้องกัันไข้หวััด 2009 

1. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล เพื่อฆ่าเชื้อโรค

2. หลีกเลี่ยงการคลุกคลี ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัด หรือในที่ชุมชนหนาแน่น หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกัน การติดเชื้อ

3. ปิดปาก ปิดจมูก ด้วยกระดาษทิชชู เมื่อไอจาม และต้องล้างมือทุกครั้ง 

4. หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น (กิินร้อน---ช้อนกลาง---ล้างมืือ) 

5. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ 

6. ติดตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด 


คํำแนะนํา สํำหรัับผู้ป่วยไข้หวััดใหญ่ 2009 

1. สวมหน้ากากอนามััย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น 

2. หยุดงาน หยุุดเรีียน และ พัักผ่อนอยููทีี่บ้านจนกว่าจะหาย 
ในผู้ป่วยที่มี อาการไม่รุนแรง เช่น ไข้ต่ำๆ ไม่เหนื่อย รับประทาน อาหารได้ หากมี อาการรุนแรง เช่น ไข้สูง หอบเหนื่อย อาเจียน ท้องเสีย ซึม หรือ รับประทานยาลดไข้แล้ว 48 ชั่วโมง ไข้ยังไม่ลด ควรพบแพทย์ทันที 

3. ใช้กระดาษทิชชู ผ้าเช็ดหน้า ปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอจาม และต้องล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล ทำความสะอาดมือ 

4. ไม่ควรคลุกคลี ใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ควรพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ 

5. ผู้ที่มี โรคประจำตัว เช่น โรคปอด หอบหืด เบาหวาน ภูมิต้านทานต่ำ หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี หรือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคอ้วน หากเป็นหวัด ต้องพบแพทย์ทันที 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 
สายด่วนไข้หวัดใหญ่ กระทรวงสาธารณสุข โทร. 1422

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท