ข้าพเจ้าเหมือนจะเป็นไข้ (2009) ?


พิจารณาตนเอง จากการถูกจัดเข้าเป็นกลุ่มเสี่ยง?

การทำงานที่มีผู้ป่วย...งานดูแลทางด้านจิตใจจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เพราะอย่างไร ... ใครๆ ก็ตามเมื่อทุกข์กาย ใจนั้นก็ทุกข์ตามไปด้วยเป็นวงจรที่คนเรายากจะตัดขาดออกไปจากกันได้...

การทำงานเป็นการทำงานที่พักผ่อนน้อย ...เดินทางบรรยายและทำกระบวนการตลอด

และเมื่ออยู่ที่ทำงาน..ที่กลุ่มงานจิตเวช งานที่ทำก็ไม่ได้เบาบางลง ก็ยังคงทำงาน เพราะถือหลักการกับตนเองว่า "คุณค่าของการเกิด คือ การทำงาน" การทำงานนั้นทำให้ "จิต" ของข้าพเจ้าเจริญได้ดีทีเดียวเพราะการทำงานทำให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจถึงวิถีแห่งการเคลื่อนไปของดวงจิต

ดังนั้นจึงไม่นิยมกับการไปฝึกนั่งสมาธิที่ไหนๆ..แต่จะอาศัยฝึกฝนผ่านวิถีชีวิตและการทำงาน และการดำรงอยู่ในชีวิตประจำวัน...อ้าว! จะพูดเรื่องสุขภาพแต่ไฉนมาพูดเรื่องสมาธิและการพัฒนาจิตไปได้...

จากวิถีที่ทำงานมาก มากในที่นี้รวมถึงหลายอย่าง...นอนน้อย โอกาสของพฤติกรรมมีแนวโน้มที่จะได้รับการเจ็บป่วยมีสูง เนื่องจากอาจมีภาวะภูมิต้านทานต่ำ ...แต่หลายครั้งข้าพเจ้าก็นำพาตนเองรอดมาได้ และครั้งนี้อีกก็เช่นเดียวกัน ... ก็กำลังพยายามต่อการเยียวยาตนเอง

การคลุกคลีกับคนที่มีผู้ป่วยในครอบครัว...

การไปในที่ย่านชุมชน...คนพลุกพล่านมาก...

นอนน้อย...ทำงานมาก...เดินทางบ่อย

เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยแทบทั้งสิ้น แต่ข้าพเจ้าก็เกือบพลาดหลังจากที่เมื่อวาน (9-10 กค 52) สองวันก่อนหลังจากลงจากเครื่องมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนจะเป็นจะไม่สบาย หลังจากแวะไป meeting ต่อกับ AJ.เสกและพี่อ้อม และกว่าจะแยกจากกันได้ประมาณสี่ทุ่มจึงได้เข้าบ้าน ไม่รอช้าข้าพเจ้ารีบเข้านอนทันที เพราะช่วยให้ร่างกายได้ทำงานได้ดีในหลังสี่ทุ่ม เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังเยียวยาตนเอง งานการเอาไว้ก่อน ...และเมื่อถึงเวลาตื่นประมาณตีสามตีสี่ ร่างกายได้พักกายอย่างเต็มที่ก็รู้สึกสดชื่น...

ข้าพเจ้า Detox และทานเฉพาะผลไม้...แต่เนื่องด้วยงานทำให้ต้องเจอบุคคลที่มีคนในครอบครัวป่วยด้วยไข้หวัด 2009 ด้วยความที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังต้องสัมพันธ์...

ด้วยทุนเดิมที่พอมีจากการนำพาตนเองดำเนินชีวิตตามวิถีธรรมชาติและการออกกำลังแบบแอโรบิค ที่เป็นการกระตุ้นระบบอิมมูนซิสเต็มหรือสร้างภูมิชีวิต ทำให้สองวันที่ผ่านมาข้าพเจ้ารอดผ่านไปได้ดี ไม่ย่ำแย่ หากเป็นเมื่อก่อน...คงต้องนอนซมเป็นแน่แท้...

  • ข้าพเจ้าเน้นทานผัก-ผลไม้เยอะๆ...เยอะกว่าปกติเลยล่ะ เพราะต้องการวิตามินและสารทางธรรมชาติอย่างธรรมชาติ อย่างไม่ต้องปรุงแต่ง...
  • และออกกำลังกายเพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองให้ขับของเสียออกมาได้ดีขึ้น ช่วงวันที่ครั่นเนื้อครั่นตัวมากๆ ข้าพเจ้าจะเพียงเดิน ไม่วิ่ง เพราะวิ่งนั้นจะทำให้เซลล์และกล้ามเนื้อรวมถึงอวัยวะต่างๆ ทำงานเกินไปสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง
  • เข้านอนเร็วขึ้นและตื่นแต่เช้ามืด...เพราะช่วงประมาณสี่ทุ่มนี่เมลาโทนินกำลังหลั่ง หกทุ่มถึงตีสามนี่ตับขับของเสียขณะที่เราได้นอน เขาจะได้ทำงานเต็มที่ เราต้องผลัดกันทำงานระหว่างจิตเราและร่างกายของเรา ... หากเราไม่ถนุถนอมร่างกาย เราจะไม่มีร่างที่อิงอาศัยอยู่เพื่อขัดเกลาจิตได้เลย
  • ทำใจให้เกิดสภาวะที่เป็นกลางๆ...เพื่อไม่ให้สารชีวเคมีในสมองต้องเสียสมดุลมาก...
  • ทำดีท๊อค เพื่อช่วยให้ตับได้ขับของเสียออกมาได้ดี ...
  • พิจารณาถึงเชื้อโรคที่เข้ามาสู่ร่างกายเราด้วยใจที่...เข้าใจ เข้าใจในความเป็นชีวิตของเขา ซึ่งเขาจะเป็นชีวิตเช่นใด ลักษณะใด เราไม่ได้สนใจ แต่สนใจว่าเขา คือ ความที่ปรากฏขึ้นแล้วและเราไม่ปรารถนาที่จะฆ่า แต่เราก็ไม่สามารถให้เขามาอิงอาศัยในร่างกายนี้ของเราได้ เพราะขัดต่อธรรมชาติของร่างกาย เขาจึงไม่สามารถเจริญต่อได้แต่ไม่ใช่จากการฆ่าของเรา แต่ให้ธรรมชาติระหว่างร่างกายและเชื้อโรคเขาเผชิญหน้าต่อกันโดยเราเป็นผู้ดู...แต่ไม่ใช่ผู้ไปร่วมลงมือกำจัด นี่แหละเป็นการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์อย่างไม่ต้องบังเบียดใคร

แล้วก็สามารถผ่านพ้นไปได้ อย่างเป็นธรรมชาติ...

อะไรก็แล้วแต่ไม่สำคัญเท่ากับการป้องกัน...การที่เราลุกขึ้นมาป้องกันด้วยการสร้าง "ภูมิชีวิต" ให้ดีขึ้นให้มีเป็นต้นทุนในตนเองนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายแต่ต้องอาศัยความเพียรเท่านั้นเอง...และทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ต้องทำหลายอย่างๆ ไปแบบเกื้อหนุนกัน

 

 

หมายเลขบันทึก: 275621เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2009 16:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เป็นกำลังใจให้นะคะ..คุณกะปุ๋ม..

^^

สวัสดีค่ะ

  • พี่คิมรู้สึกเหมือนกันค่ะเมื่อสองสามวันก่อน
  • แต่...บอกตัวเองว่า...ไม่เป็น  เป็นไปไม่ได้
  • ทานอาหารพอดี ผักผลไม้ ไม่ขาดค่ะ ที่บ้านนอกเด้ก ๆ จะมีผักพื้นบ้านมาฝากเสมอ ริมรั้วมีปลุกไว้เองค่ะ
  • ขอขอบคุณกับข้อคิด...อะไรก็แล้วแต่ไม่สำคัญเท่ากับการป้องกัน...การที่เราลุกขึ้นมาป้องกันด้วยการสร้าง "ภูมิชีวิต" ให้ดีขึ้นให้มีเป็นต้นทุนในตนเองนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายแต่ต้องอาศัยความเพียรเท่านั้นเอง...
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ

+ สวัสดีค่ะ...

+ แอมแปร์และครอบครัวมาเยี่ยมค่ะ...ดูแล ป้องกัน ตัวเองนะค่ะ...เพราะคุณกะปุ๋มยังต้องช่วยคนอื่นอีกมากมาย....

+ มาส่งกำลังใจค่ะ....ด้วยความคิดถึง

  • มาเรียนรู้ธรรมชาติบำบัดด้วยค่ะ...ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารบ้างแล้ว รวมถึงการออกกำลังกาย  กำลังศึกษาการทำ detox ตนเองอยู่ค่ะ เคยทำแล้วช่วงหนึ่ง แต่คุณหมอท่านหนึ่งแนะนำให้เน้นเรื่องการทานอาหารพวกผักผลไม้ก็พอ ก็เลยหยุดไปค่ะ
  • เข้าใจว่าตนเองอาจจะรู้วิธี detox ไม่ดีพอก็ได้ค่ะ ก็เลยฟังคุณหมอแนะนำไว้ก่อน
  • อ่านไปก็ลุ้นเหมือนกันนะคะ เกรงว่าท่านดร. Ka-Poom จะติดไข้หวัดฯ ค่ะ  โล่งอกไปที
  • ขอบพระคุณสำหรับวิธีการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง จะนำไปปรับใช้ค่ะ

แวะมาแสดงความยินดีด้วยนะครับ สำหรับรางวัลสุดคะนึง...

ขอบคุณที่เขียนบันทึกดีๆ ...เป็นรางวัลให้กับผู้คนเสมอมา

  • ตามกรรมการข้างบนมา
  • เพื่อแสดงความยินดีกับรางวัลสุดคะนึงค่ะ
  • เลยได้อ่านเรื่องการดูแล
  • ก่อนจะเป็นหวัด 2009 ค่ะ
  • ป้องกัน  ดีกว่ารักษา
  • สร้างเสริม
  • ดีกว่าซ่อมแซม  แน่นอน

สวัสดีค่ะ พี่กะปุ๋ม

ดีใจด้วยนะคะ

ด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพค่ะ ดูแลตนเองด้วยนะคะ

คิดถึงๆๆค่ะ

สวัสดีค่ะ

เพิ่งจะกลับมาจากวันหยุดยาวค่ะ

ทราบข่าวรางวัลสุดคะนึงของน้องกะปุ๋มแล้วขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

พี่ครูอรวรรณ มีของมาฝากด้วยค่ะ ลองคลิกดูนะคะ

รักษาสุขภาพนะคะ

ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ

คิดถึงเสมอค่ะ

 

เพราะเราจะอยู่ อย่างเป็นธรรมชาติ...

ที่ชลบุรี ...ไปออกพื้นที่มา สงสัยจะเป็นไข้หวัดตามท่าน อ.ดร.กะปุ๋ม แล้ว

แต่ตอนนี้ออกกำลังกายแยะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์

ไว้คอยต้อนรับการกลับมาของ ดร.กะปุ๋ม (R2R Girl)

ไปรับท่าน อ.ดร.กะปุ๋ม ได้ทุกเวลา...นะครับ

สวัดดีค่ะ ชื่ออะไรค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท