๑๑.ดื่มด่ำสายฝนจากอยุธยาถึงนครนายก

4-8 กรกฎาคม 2552

หยุดวันอาสาฬหบูชาติดต่อวันเข้าพรรษา ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวเขื่อนขุนด่านปราการชล

ทางขึ้นสันเขื่อนขุนด่านปราการชล

ไปน้ำตกนางรอง วัดหลวงพ่อปากแดง ขับรถไปไม่ได้คิดว่านี่คือหน้าฝน ในตลอดการเดินทางเราต้องขับรถอยู่ในสายฝน เลยได้เห็นเมืองนครนายกในมุมมองที่แปลกไป ชุ่มฉ่ำดีครับ สิ่งที่เราคาดว่าจะได้ชื่นชมก็คือ น้ำตกนางรอง ผมมาเที่ยวไม่ถูกจังหวะเวลาความงดงามของน้ำตกเลยกลายเป็นความน่ากลัวจากความรุนแรงของสายน้ำที่ไหลสู่เบื้องล่าง    

น้ำตกนางรอง

แต่ไม่เป็นไรก็ได้เห็นแล้วและก็คิดว่าที่นี่คงสวยสมชื่อที่มีการกล่าวกันในบทเพลงที่ได้ยินมาช้านานจริงๆ สังเกตุจากโขดหินที่ลดหลั่นกันน่ะ ใกล้ๆ กันผมไปเขื่อนท่าด่านปราการชล ก็ดูแล้วสดชื่นดี เมื่อเราขึ้นไปบนสันเขื่อนมองลง รู้สึกเสียวๆ ก็คงคำนี้แหละนะ ฝนตกรินๆ ครับ วันนี้มีนักท่องเที่ยวมากพอดู คงเพราะหยุดยาวก็จำเป็นต้องมาเที่ยวกัน

ฝนตกรินรินที่เขื่อนขุนด่านปราการชล

ใช้เวลาสำรวจกันพอหอมหอมคอก็เดินทางต่อมาวัดหลวงพ่อปากแดงซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากในหมู่เซียนหวย ผมก็ได้มีโอกาสไปเคารพท่าน จริงๆคิดว่าท่านเป็นพระที่มีชีวิตอะไรทำนองนี้ แต่จริงๆ ท่านเป็นพระพุทธรูปองค์ประมาณคนปกตินี่เอง เราต้องใช้การสังเกตจึงจะพอทราบว่าเป็นองค์ใด เพราะในโบสถ์มีพระหลายองค์ทีเดียว แต่ด้วยพุทธศาสนิกชนที่หลั่งไหลมามากมาย แทบจะทุกมือเลยที่บรรจงปิดทองที่ปากท่าน จนไม่เห็นเลยว่าปากมีสีอะไร

หลวงพ่อปากแดงที่ลือลั่น

บริเวณรอบๆ โบสถ์ก็มีลังน้ำอัดลมน้ำแดงที่เปิดฝาถวายพระแล้วตั้งอยู่30 ลังได้มั้ง อยากเป็นลูกช้างมั่งจัง!! ภรรยาผมเขาก็บูชาหลวงพ่อแบบคล้องรถมา 1 เส้นคงเป็นเมตตามหานิยมนะครับ จากนั้นเราก็เดินทางกลับที่พักที่อยุธยา อีกวันเราไปดูแพนด้าช้าง หรือช้างแพนด้าจะเรียกอย่างไรก็คงไม่ผิดเพราะปางช้างอยุธยาเขาจัดแสดงช้างเป็นประจำ แต่ในครั้งนี้เพื่อร่วมสมัยกับความฮิตของเจ้าหมีแพนด้าน้อยที่เชียงใหม่ ที่นี่เลยจัดให้มีช้างแพนด้ามาประชันด้วย อีกทางก็จะสื่อไปถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองให้หันมาดูช้างไทย เพราะเป็นสัตว์ที่คู่บ้านคู่เมืองของเรา ช่วยบ้านช่วยเมืองไทยของเรามา เขาว่ายังงั้น

ช้างแพนด้าน้อยสุดร่าเริง

....ชมการแสดงของช้าง ก็เพลิดเพลินดี แถมยังมีข้าวโพดสดๆ จากไร่ มาต้มขายให้นักท่องเที่ยวไปชมไปชิมไปอีกด้วย  เมื่อชมกันจนจบสุดท้ายก็มีบริการลอดใต้ท้องช้างนัยว่าจะเป็นศิริมงคล ภรรยาและลูกๆก็ไปรอดท้องช้างกันตามระเบียบ

อยากรอดท้องช้างแต่กลัวมาก

ต่อจากนั้นก็เดินทางกลับอุทัยธานี แวะไหว้พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเคยไหว้นานมากแล้ว กลับมาครั้งนี้ก็ได้เห็นว่าที่นี่คนมากมาย คงจะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันพระใหญ่ด้วยแหล่ะ ก็กราบพระบูชาและเลือกที่ปิดทองก็ตรงแขนที่ค้ำศรีษะเพราะคิดว่าตรงนี้สำคัญที่สุดเลย เวลาทำอะไรก็จะได้ตรงจุดนั่นเอง ที่ไม่ลืมก็ไหว้พระสังคจายอันจะส่งผลทำให้อารมณ์แจ่มใสไม่ขุ่นมัว จากนั้นก็เดินทางถึงบ้าน..

พระนอนจักร์สีห์อยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง

 

/ สร้างสุขในชีวิตประจำวัน / ลองทำเว็บบล็อคกันไหม / กาแฟ /การจัดการด้านเสียง /

/ เคล็ดลัพธ์ต่างๆ ในการดูแลคอมพิวเตอร์ /พัฒนาเว็บไซต์ด้วยตัวเรา /