มาอยู่ที่นี่มึนหัวจังเน๊อะ
การอยู่ในสถานที่ที่ “คับใจ” นั้นอยู่ยาก อยู่ลำบากมากกว่า “คับกาย...”
มาอยู่ที่นี่เราได้แต่ นอน นอน นอน แล้วก็นอน
ที่นอนเพราะเหนื่อย “เหนื่อยใจ”
แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว...!
การคิดมากนี้เหนื่อยมากจริง ๆ
การทำงานที่เหนื่อยกายมาก ๆ นั้นยังดีเสียกว่า เพราะเหนื่อยแล้ว “หลับสนิท”
แต่การที่เหนื่อยเพราะจิตที่ครุ่นจิต เวลานอนตาก็หลับไม่สนิท ครั้นเผลอหลับใจยังติดเป็นฝันไป...
ชีวิตที่มีเรื่องราวคับใจเป็นชีวิตที่แสนเศร้า
เศร้าเพราะต้องเสียเวลาที่มีคุณค่า เวลาที่มีไว้ทำงาน ช่วงเวลาที่มีไว้เพื่อทำความดี
เวลาทั้งหมดนี้ต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์...
ช่วงนี้นอนมาก...
นอนมากก็คิดมาก คิดฟุ้ง คิดปรุงไปเรื่อย
“ฟุ้งซ่าน...”
ยิ่งคิด ยิ่งฟุ้ง ยิ่งโกรธคนนั้น คิดโทษคนนี้ เขายังไม่ได้ทำอะไรให้เราเลย เราก็โกรธเขาก่อนแล้ว เราก็เครียดซะก่อนแล้ว
เหตุการณ์ที่เลวร้ายนั้นยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่ว่าจิตใจที่เลวร้ายของเรานั้นเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว
ต้องตั้งจิต ตั้งใจ ตั้งสติให้ดี...
ถ้าปล่อยให้ใจล้มเหมือนกับกายที่ปล่อยตัวลงนอน จิตใจนี้ก็ไม่มีวันถ่ายทอดจากความคิดฟุ้ง คิดปรุงนั้นได้
ตั้งกายขึ้น ตั้งจิตขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หากิจกรรม หางานที่ดีทำ เพื่อน้อมนำจิตให้ตั้งตรง
ทำแล้วต้องทำอีก...
เมื่อตั้งจิตได้แล้ว ครั้นจิตเผลอล้ม เผลอเดินลงไปใน “ตม” แห่งความคิด ต้องพาจิตให้ตั้ง พาใจให้ตรง ทำไป ทำไป
ล้ม ๆ ลุก ๆ อยู่อย่างนี้แหละ
มันล้มได้ มันก็ลุกได้
ล้มหนึ่งครั้งขอเพียงลุกหนึ่งครั้งเท่านั้นพอ...
วันนี้ ตอนนี้ เวลานี้ เราลุกขึ้นมาได้แล้ว
ลุกขึ้นมาเขียน ลุกขึ้นมาสู้ ลุกขึ้นมาอยู่กับ “ความเป็นจริง”
ความคิดก็เป็นเพียงแค่ “ความคิด”
ขอให้เราตั้งสติอยู่กับ “ความเป็นจริง”
ความเป็นจริงคือ “ปัจจุบัน”
ความคิดนั้นเป็นอดีต ความคิดนั้นคือ “อนาคต”
อดีตคือสิ่งที่ล่วงละไปแล้ว
อนาคตก็เป็นสิ่งที่ยังไม่มาถึง
อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจปัจจุบัน อยู่กับการกระทำดี ณ ปัจจุบัน
ชีวิตนี้จักทรงคุณค่าอย่างเอนกอนันต์ หากจิตดวงนี้ผูกและพันกับปัจจุบันในทุกลมหายใจ...
ไม่มีความเห็น