สร่างเมา
[คำสารภาพของกวีคนหนึ่ง]
.....................................
● นานมาแล้ว โก้วเล้ง รำพึงว่า
มิใช่ข้าหลงรสสุราร่ำ
หากแต่ข้าติดใจดื่มประจำ
เพราะบรรยากาศลึกล้ำการร่ำสุรา
คำ โก้วเล้ง ดูดีมีระดับ
ต้อนให้ใครติดกับและเพรียกหา
บรรยากาศเสพเสน่ห์เสวนา
นำพาหัวคะมำทุกค่ำเช้า
สุนทรภู่ รู้ทันถึงโทษแท้
แต่ก็แพ้จนสารภาพกับโรงเหล้า
“โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มึนเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย”
ข้าพเจ้าก็หนึ่งในสายธารกวี
เรื่องสุราพาทีไม่หนีหน่าย
เคยร่วมวงกับกวีผู้วางวาย
ด้วยตับแข็งเนื้อร้ายก็หลายคน
เป็นทั้งศิษย์ สุนทรภู่ - ชิต บูรทัต
เสพสัมผัสอารมณ์ครูอยู่เข้มข้น
เมาเหล้าเมาอักษรเมากลอนกล
เมากมลมายามาเนิ่นเนา
บัดนี้มานึกดูอดสูนัก
ถ้ากวีมีอัตลักษณ์แค่ดื่มเหล้า
ต้องลงรอยคล้อยครูผู้เคยเมา
โอ้ชีวิตข้าพเจ้าแสนเปล่าดาย
แม้เหตุผลอีกมากของนักดื่ม
ที่อาจหยิบยืมซึ่งความหมาย
ว่าการนั่งล้อมขวดนั้นแยบคาย
ด้วยปรัชญาสาธยายหลายเล่มเกวียน
ข้าพเจ้าก็มิอาจจะศรัทธา
ตัวเองและอักษราที่ขีดเขียน
ในอัตลักษณ์มืดเมาอันเพราเพียร
กับร้อยรสบทเรียนเขียนทับรอย
จึงถึงคราบทกวีของข้าพเจ้า
มิต้องร่ำรินเหล้าเคล้ารสถ้อย
สติ สมาธิ ดั่งเพชรพลอย
พิสุทธิ์ร้อยวรรณวลีแห่งชีวิต
เสพรสชาติประภัสสรบริสุทธิ์
สัมผัสแก่นแท้มนุษย์อันศักดิ์สิทธิ์
ท่ามกระแสแพ้พ่ายรายรอบทิศ
ลิขิตเลือกทาง...เลือกสร่างเมา
ข้าพเจ้ามิเจตนาจะเสียดสี
ครูกวี มิตรกวี ที่ดื่มเหล้า
แต่เชื่อว่า “กวิธาตุ” ต้องขัดเกลา
ตัวตนทุกค่ำเช้า...ทุกชาติภพ
...
ศิวกานท์ ปทุมสูติ
ทุ่งสักอาศรม ๓๐ มิย.๕๒
อายุบวร คุณอิงจันทร์
รู้เต็มใจ ในอดีต ชีวิตกวี
พึ่งวารี สีอำพัน นั้นเสมอ
แต่ยุคนี้ ท่านกวี ศรีเมืองไทย
ไม่หลีกไกล ให้กวี พ้นวังวน
*ขอประทานโทษค่ะ อยากร่วมแสดงความเห็น*
กี่รุ่งหลงเมามายภาษา
ดื่มด่ำอักษราทุกเช้าค่ำ
เรียงร้อยรื่นเริงบันเทิงคำ
งมงายสุขล้ำเสพกวี