หน้าแรก
สมาชิก
เล็ก
สมุด
ความรู้
มาช่วยกันวิจารณ์
เล็ก
นาย yootana namdee
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
มาช่วยกันวิจารณ์
แสดงความคิดเห็นเมื่อมีโอกาสแสดงความคิดเห็น
จงตอบคำถามต่อไปนี้
๑.
วรรณกรรมไทยมีกี่ประเภท
การจัดแบ่งประเภทของวรรณกรรมไทยสามารถจำแนกได้หลายลักษณะแตกต่างกันตามมุมมองผู้จัดประเภท
การจัดแบ่งประเภทวรรณกรรมไทยมีกี่ประเภทจึงเป็นเรื่องยากที่จะสรุปว่ามีกี่ประเภท
การจัดแบ่งประเภทจึงใช้มุมมองในการที่จะพิจารณา
ดังต่อไปนี้
ประการที่หนึ่งแบ่งตามลักษณะการประพันธ์
จำแนกวรรณกรรมออกเป็น
๒
ประเภท
ประกอบด้วยวรรณกรรมร้อนแก้วและวรรณกรรมร้อยกรอง
วรรณกรรมร้อยแก้วเป็นวรรณกรรมที่ไม่มีการบังคับฉันทลักษณ์เขียนเป็นความเรียง
ส่วนวรรณกรรมร้อยกรองเป็นวรรณกรรมที่บังคับฉันทลักษณ์
ประการที่สองแบ่งตามรูปแบบได้
๒
ประเภท
คือ
บันเทิงคดีกับสารคดี
วรรณกรรมประเภทบันเทิงคดี
(
Fiction
)
คือ วรรณกรรมที่เน้นให้ความเพลิดเพลินกับผู้อ่านเป็นประการสำคัญ ให้ข้อคิด คติสอนใจ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
๑.
เรื่องสั้น
(
Short
Story
)
๒.
นวนิยาย
(
Novel
)
๓.
บทละคร
(
Drama
)
วรรณกรรมประเภทสารคดี
(
Non- Fiction
)
คือ
วรรณกรรมที่มุ่งให้ความรู้
ความคิดประโยชน์เป็นประการสำคัญ
ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ดังนี้
๑.
ความเรียง
(
Essay
)
๒.
บทความ
(
Article
)
๓.
สารคดีชีวประวัติ
(
Biography
)
๔.
สารคดีท่องเที่ยว
(
Travelogue
)
๕.
อนุทิน
(
Diary
)
๖.
จดหมายเหตุ
(
Arehive
)
การแบ่งวรรณกรรมไทยโดยใช้มุมมองของรูปแบบเป็นที่นิยมมากที่สุดในการแบ่งประเภทวรรณกรรมตามลักษณะต่างๆ
ประการที่สามแบ่งตามลักษณะการถ่ายทอดหรือการนำเสนอ
สามารถแบ่งประเภทของวรรณกรรมเป็น
๒
ประเภท
วรรณกรรมมุขปาฐะและวรรณกรรมลายลักษณ์
วรรณกรรมมุขปาฐะคือวรรณกรรมที่เล่ากันปากต่อปาก
ไม่มีการบันทึกเป็นตัวอักษร
เสพโดยการฟัง
วรรณกรรมลายลักษณ์เป็นวรรณกรรมที่มีอยู่มากคือ
วรรณกรรมที่เขียนเป็นตัวหนังสือรวบรวมเป็นรูปเล่ม
ประการที่สี่แบ่งตามความหมาย
เนื่องจากคำว่า
“
วรรณกรรม
”
เป็นคำที่มีความหมายกว้าง
ยากแก่การนิยามความหมายให้ชัดเจนได้
การแบ่งวรรณกรรมตามความหมายแบ่งเป็น
๒
ประเภท
คือ
วรรณกรรมและวรรณคดี
ซึ่งประเภทของวรรณกรรมทั้งสองจะแตกต่างกันเพียงว่า
วรรณคดีคือวรรณกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี
หรือมีวรรณศิลป์
ซึ่งวรรณกรรมอาจจะมีหรือไม่ก็ได้
โดยที่วรรณกรรมคืองานเขียนทั่วๆ
ไป
จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแบ่งประเภทวรรณกรรม
จะเห็นได้ว่า
การแบ่งประเภทของวรรณกรรมสามารถแบ่งได้หลายลักษณะตามแต่ลักษณะที่ใช้ในการแบ่ง
การแบ่งประเภทของวรรณกรรมส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ
การแบ่งวรรณกรรมตามลักษณะของรูปแบบ
๕
ประเภท
ดังนี้
๑.
เรื่องสั้น
๒.
นวนิยาย
๓.
สารคดี
๔.
กวีนิพนธ์
๕.
ปกิณกคดี
เนื่องจากการแบ่งในลักษณะนี้สามารถจำแนกลักษณะการประพันธ์เป็นร้อยแก้วและร้อยกรอง
ลักษณะการแบ่งลักษณะนี้สามารถให้รายละเอียดได้อย่างครอบคลุมกว่าและให้ความชัดเจนกว่า
๒.
แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะตนอย่างไร
วรรณกรรมแต่ละประเภทย่อมมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเภท
ประเภทของวรรณกรรมในที่นี้ใช้การแบ่งโดยใช้รูปแบบ
ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
แบ่งเป็น
๕
ประเภท
ประกอบด้วย
เรื่องสั้น
นวนิยาย
สารคดี
กวีนิพนธ์
และปกิณกคดี
ด้วยลักษณะเด่นเฉพาะของวรรณกรรมแต่ละเรื่องทำให้สามารถแบ่งประเภทวรรณกรรมออกเป็นประเภทได้
วรรณกรรมแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะตนดังนี้
๑.
เรื่องสั้น
เป็นวรรณกรรมที่มีขนาดสั้น
สามารถจบเรื่องได้ในตอนเดียว
เรื่องสั้นแต่ละเรื่องมีความเป็นเอกภาพในตัว
เรื่องสั้นเป็นเรื่องที่มีโครงเรื่องเดียว
มีตัวละครน้อย
เหตุการณ์สั้นๆ
ส่วนมากเป็นเหตุการณ์สั้นๆ
นำเสนอแนวคิดหลักเพียงสิ่งเดียว
๒.
นวนิยาย
เป็นวรรณกรรมที่มีขนาดยาว
นิยมแบ่งเนื้อเรื่องออกเป็นตอนๆ
มีหลายเหตุการณ์ มีโครงเรื่องใหญ่และโครงเรื่องย่อย
มีแนวคิดที่หลากหลายตามความยาวของเรื่องที่แบ่งเป็นตอนๆ
มีตัวละครมาก
ดำเนินเรื่องใช้เวลามากกว่าเรื่องสั้น
๓.
สารคดี
เป็นวรรณกรรมที่อิงอยู่กับข้อมูลที่เป็นจริง
ไม่มีส่วนของจิตนาการเข้ามาเกี่ยวข้อง
อาจจะมีความคิดเห็นของผู้เขียนบ้างแต่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน
วรรณกรรมประเภทสารคดีมุ่งที่จะให้ความรู้แก่ผู้อ่านเป็นสำคัญ
๔.
กวีนิพนธ์
คืองานเขียน(วรรณกรรม)ที่มีความแตกต่างจากประเภทที่ได้กล่าวมาแล้วตรงที่ใช้ฉันทลักษณ์ในการประพันธ์
การใช้ฉันทลักษณ์ทำให้วรรณกรรมประเภทนี้ถูกจัดเป็นประเภทใหม่
โดยพิจารณาตามรูปแบบอาจเป็นสารคดี
เรื่องสั้น
นวนิยายก็ได้
แต่การเขียนต้องมีฉันทลักษณ์
ที่เรียกว่า
“
วรรณกรรมร้อยกรอง
”
ในปัจจุบันอาจจะมีกลอนบางประเภทที่ไม่มีฉันทลักษณ์ แต่ผู้อ่านสามารถรับรู้ได้ว่ามีลักษณะคล้ายกลอนก็นับว่าเป็นกวีนิพนธ์
๕.
ปกิณกคดี
เป็นรามวรรณกรรมต่างๆ
ที่ไม่ชัดอยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่งที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
๓.
ท่านคิดว่าการวิจัยวรรณกรรมแต่ละประเภทใช้ระเบียบวิธีเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ในการวิจัยทางวรรณกรรมแต่ละประเภทใช้ระเบียบวิธีวิจัยในลักษณะเดียวกันและมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่างออกไปเฉพาะประเภทของการศึกษา
ในการวิจัยทางวรรณกรรมขั้นตอนต่างๆ
ในการวิจัยเป็นขั้นตอนที่สามมารถใช้ได้กับวิจัยวรรณกรรมทุกประเภท
ส่วนวิธีการในแต่ละขั้นตอนการวิจัยจะแตกต่างกันออกไป
เช่น
ขั้นของการเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจัยเอกสาร(วรรณกรรมที่เป็นลายลักษณ์)การเก็บข้อมูลไม่จำเป็นต้องมีการลงพื้นที่เก็บข้อมูล
การวิจัยวรรณกรรมมุขปาฐะการเก็บข้อมูลต้องลงพื้นที่
เก็บข้อมูลจากผู้เล่าเรื่อง
หรือในการขั้นตอนของการวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องอ้างอิงแนวคิดทฤษฎี
ทำให้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลแตกต่างกันออกไป
การใช้แนวคิดที่แตกต่างในการศึกษาวรรณกรรมเรื่องเดียวกันจะได้ผลการวิเคราะห์ต่าง
เช่น
การวิเคราะห์เรื่องไตรภูมิพระร่วง
หากวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีพุทธศาสนาวรรณคดีเรื่องนี้ถือว่าเป็นวรรณกรรมที่มีคุณค่า
หากพิจารณาด้วยแนวคิดทางการเมืองวรรณคดีเรื่องนี้อาจถูกจัดเป็นเครื่องมือที่ชนชั้นผู้ปกครองใช้กดขี่ชนชั้นผู้ถูกปกครอง
ระเบียบวิธีวิจัยทางวรรณกรรมไม่มีความแตกต่างกันมากนักในแต่ละประเภท
สามารถใช้ระเบียบวิธีเดียวกันได้
การวิจัยจะแตกต่างกันออกไปตามแนวคิดทฤษฎีที่ใช้
ข้อมูลซึ่งเป็นรายละเอียดย่อยที่ผู้วิจัยต้องอิงตามความมุ่งหมายของการวิจัย
แต่โครงสร้างหลักในการวิจัยนั้นไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมประเภทใดก็ใช้ระเบียบวิจัยเดียวกัน
เว้นเสียแต่ว่าเป็นการวิจัยอย่างอื่นที่มิใช้วรรณกรรม
เขียนใน
GotoKnow
โดย
เล็ก
ใน
ความรู้
คำสำคัญ (Tags):
#การวิจัย
#ประเภท
#ระเบียบวิธี
#วรรณกรรม
หมายเลขบันทึก: 274377
เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2009 09:10 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 21:32 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
เล็ก
สมุด
ความรู้
มาช่วยกันวิจารณ์
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท