ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
นาย ทรงวุฒิ พัฒแก้ว ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน พัฒแก้ว

ฅนคอนไม่เคยทอดทิ้งกัน ท่ามกลางภัยคุกคาม


จากการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ร้อนแรง สร้างคนทุกกลุ่มมารวมตัว โดยไม่ได้นัดหมาย จนก่อเกิด ‘เครือข่ายผลกระทบนโยบายสาธารณะ นครศรีธรรมราช’ แบบถึงไหนถึงกัน รู้ด้วยสัญญาใจว่า รวมตัวเมือไหร่ ยกพลเมื่อนั้น และก็ได้พิสูจน์มาตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาว่า เรา ไม่ทอดทิ้งกัน และพร้อมป้องกันบ้านเกิดสุดชีวิต และกล้าประกาศตัวอย่างเปิดเผย ทั้งวงนอกและวงใน โดยไม่กลัวภัยคุกคามใดๆ

ที่มา จดมหายข่าวเรื่องเล่าจากเขาถึงเล  สื่อสารคดีสร้างสรรค์เพื่อทิศทางการพัฒนาเมืองนคร

ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๒ กุมภาพันธ์  ๒๕๕๒ ฉบับ  ก่อเกิดเครือข่ายผลกระทบนโยบายสาธารณะ

                เมืองฅอน เมืองแห่งปราชญ์ และ นักสู้ ผู้หวงแผ่นดิน

                คำกล่าวนี้ คงไม่ผิดจากความจริงมากนัก เนื่องจากมีเหตุการณ์ และ ประวัติศาสตร์ไว้ในหลายกรณี  เหตุการณ์ วาตะภัยแหลมตะลุมพุก โคลนถล่มคีรีวง ชาวนครก็ลุกขึ้นมาช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ จนฝ่าวิกฤติมาได้ และอีกหลายๆเหตุการณ์  ไม่เช่นนั้น คงไม่สร้างพระธาตุเมืองคอนที่ยิ่งใหญ่ และตั้งตระหง่าน มาได้ทุกวันนี้

                กรณีร้อนๆ ที่ยังอุ่นอยู่ เช่น กรณีอ่างเก็บน้ำคลองลาไม กรณีอ่างเก็บน้ำคลองกลาย  คนนครก็ลุกขึ้นมาสู้ร่วมกัน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ให้คนรากหญ้า  จนสามารถป้องกันภัยคุกคามจากรัฐบาล มาได้พักหนึ่ง

                ในที่สุด ปี ๕๒ ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา คนนคร ต้องลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้  ร้ายแรงกว่าวาตะภัยแหลมตะลุมพุก ร้ายแรงกว่าโคลนถล่มที่คีรีวง ร้ายแรงกว่าอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากถูกภัยคุกคามจากรัฐบาล และ นายทุนข้ามชาติ เพราะเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ยังเหลือแผ่นดินไว้ ทำลายชีวิตแค่ครั้งเดียว แต่ กรณีปิโตรเคมี อ่างเก็บน้ำ นิวเคลียร์ โรงไฟฟ้า ท่าเรือ การขุดเจาะน้ำมัน สนามบิน ฯลฯ  เป็นการปล้นแผ่นดิน เอาแผ่นดินไปให้นายทุน ให้โรงงานนับหมื่นๆไร่ นอกจากนี้ยังปล้นชีวิตคนด้วยมลพิษที่อาจสั่งสมในอนาคตข้างหน้า  ดัง ผลกระทบที่มาบตาพุด และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นตัวอย่างมาแล้ว

                เมื่อภัยร้ายกำลังมา จิตสำนึกแห่งความรักษ์ต่อแผ่นดินเกิดก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง อย่างร้อนแรง และทันท่วงที เห็นได้จาก การรวมตัวของกลุ่มคนจากทั่ว สารทิศในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อ หยุด การปล้น ในครั้งนี้  ไม่ว่าจะเป็น  พี่เล็ก ครูคัง จาก อำเภอขนอม ที่ต้านโรงไฟฟ้าขนอมโรงใหม่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ท่าเรือ อย่างสุดกำลัง  ในนามชมรมพิทักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและชายฝั่งขนอม  บังเฉา บังเด บังโกบ แห่งบ้านคอเขา ก็ร่วมต่อต้าน ท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอย่างสุดฤทธิ์ เพื่อรักษาพื้นที่ยุทธศาสตร์ไว้ให้ได้  ผู้ใหญ่ไข่  ชาติชาย อ้อม กลุ่มรักษ์ทุ่งปรัง ก็เป็นแกนนำหลัก ในการรณรงค์ เคลื่อนไหว บังเหลด บังหลาม กลุ่มรักษ์บ้านปลายทอน ก็รักษาแผ่นดินเกิดไว้สุดชีวิต เขียนป้ายรณรงค์ติดไว้ทั่วถนนหนทาง รวมทั้งบนยอดมะพร้าว  ลุงพนม พี่สุทธิ์  พี่รัตน์ พี่ด้วงและครอบครัว แห่งบ้านทุ่งคา ก็ปักหลักอย่างเหนียวแน่นริมถนนดำ  พี่พร พี่เอียด ลุงข้ำ พี่ดำ กลุ่มอนุรักษ์คลองท่าทน ก็เคลื่อนไหวทุกด้านเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดและชีวิตคนรายรอบจากกรณีอ่างเก็บน้ำ ที่ไม่รู้ว่าจะท่วมถึงไหน และจะพังเมื่อไหร่  ในพื้นที่ตำบลกลาย ที่ถูกรุกหนักทั้งนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือเชฟรอน อีกทั้ง เชฟรอนเองก็มีคนเห็นด้วยจำนวนมาก เนื่องจากลงทำงานมวลชน แจก แถม มานานนับปี แต่ ลุงดี พี่ยุทธ ลุงจิตร พี่แดง พี่ตู้ ออกแรงต้านเต็มที่ เพราะรู้ดีว่าหากเกิดขึ้นอะไรจะตามมาข้างหลัง  ในส่วนตำบลท่าศาลา ยกเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา เข้าไปช่วยทั้งเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น บังมุ บังหยา บังโฉด บังบ่าง บังเด๊ะ และทีมผู้หญิง เนื่องจากชีวิตที่ฝากไว้กับทะเล และไปทำมาหากินออกเรือ แถวหน้าตำบลกลายเกือบทั้งหมด  ตำบลปากพูน ก็มีลุงจิน นักสู้สุขภาวะ ที่ออกมาเคลื่อนไหว และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  และในพื้นที่ไกลๆ ออกไป พี่เชต และแกนนำ ชมรมพิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมปากพนัง ก็ยกขบวนเข้ามาร่วมต้านอย่างสุดฤทธิ์ ลุงเสริฐ ลุงเริญ สองเฒ่า แห่งลุ่มน้ำปากพนัง ถึงไหนถึงกันตลอด ไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นที่ไหน สายเลือดแห่งลุ่มน้ำปากพนังเข้มข้นขึ้นมาทันที ฝ่ายโซนเขา พี่แป้น พี่อ้อย จากลานสกา สองสาวห้าวไม่เคยหวั่นไหวต่อแสงแดด มีเวทีที่ไหนออกแนวหน้าเสมอ และ พี่ยุทธ จากพระพรหม ผู้มีวาทะและข้อมูลเชิงลึก ที่เชือดเฉือนฝ่ายตรงข้ามมาทุกเวที และนักสู้แห่งเมืองฅอน อีกหลายท่านที่ยังไม่ได้เอ่ยนาม

                จากการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ร้อนแรง สร้างคนทุกกลุ่มมารวมตัว โดยไม่ได้นัดหมาย จนก่อเกิด เครือข่ายผลกระทบนโยบายสาธารณะ นครศรีธรรมราช แบบถึงไหนถึงกัน รู้ด้วยสัญญาใจว่า รวมตัวเมือไหร่ ยกพลเมื่อนั้น และก็ได้พิสูจน์มาตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาว่า เรา ไม่ทอดทิ้งกัน และพร้อมป้องกันบ้านเกิดสุดชีวิต และกล้าประกาศตัวอย่างเปิดเผย ทั้งวงนอกและวงใน  โดยไม่กลัวภัยคุกคามใดๆ เพราะเชื่อว่า คนนครฯ  ส่วนใหญ่ก็กำลังจะพร้อม ขึ้นมาสู้เรื่องนี้อย่างเปิดเผยอีกจำนวนมาก

                นอกจากนี้ กลุ่มศึกษาการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่รวมตัวของนักวิชาการ นักธุรกิจ องค์กรอิสระ ชุมชน ก็ปักหลักยืนเคียงข้างพี่น้องแบบกัดไม่ปล่อย และ เพื่อนๆ องค์กรต่างๆ อีกมาก

                อีกไม่นาน ทั่วทั้งพื้นที่นครฯ จะไม่มีพื้นที่ของภัยคุกคาม ให้แทรกซึม เพราะสร้างกำแพงของมวลชน ปิดกั้นไว้ทั่วจังหวัด ภัยธรรมชาติอาจป้องกันไม่ได้ แต่ภัยร้ายทางนโยบาย ที่มองไม่เห็นตัว เราเชื่อว่า ป้องกันได้

                ฅนคอนไม่เคยทอดทิ้งกัน ท่ามกลางภัยคุกคาม

                จากระยะเวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เรามีพลัง เรามีความคิด เราสร้างกระบวนการต่อสู้ในแนวใหม่ ไม่ปะทะ ไม่สร้างความขัดแย้ง เราเชื่อในวิถีทางแห่งนักปราชญ์ และปัญญา เท่านั้น และเราจะยึดหลัก และปักหลักในพื้นที่อย่างเหนียวแน่น เพื่อสร้างแนวร่วมอย่างเข้มข้น และปักธงอย่างแข็งขันว่า เราไม่เอาการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนโดยเด็ดขาด   และพร้อมแล้วที่จะตั้งรับภัยคุกคามได้ในทุกวิธี เพราะหากแพ้พ่าย นั่นหมายถึง การเสียเอกราชทางแผ่นดิน และเสียศักดิ์ศรีแห่งเมืองปราชญ์  แต่ประวัติศาสตร์รุ่นหลัง จะไม่มีว่า คนนครฯ ยอมแพ้ต่อหายนะในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด และ ต้องจารึกว่า  เป็นอีกครั้งหนึ่งที่คนนครฯ ไม่เคยทอดทิ้งกัน ท่ามกลายภัยคุกคาม

 

 

ฅนคอนไม่เคยทอดทิ้งกัน ท่ามกลางภัยคุกคาม

โดย  สานศรัทธา

หมายเลขบันทึก: 273406เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2009 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คนคอนรัก ช่วยเหลือกัน มีน้ำใจซึ่งกันและกัน

ให้อภัยเมื่อยามผิด ให้โอกาศเมื่อขอโทษ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท