... ศ.บิลล์ เลดเจอร์ ( Bill Ledger ) และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ สหราชอาณาจักร (Sheffield U) ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้หญิงอ้วนที่มีลูกยากจากปัญหา "ไม่ตกไข่" (ปกติผู้หญิงจะตกไข่เดือนละ 1 ฟอง สลับกันจากรังไข่ข้างซ้ายเดือนหนึ่ง ข้างขวาเดือนหนึ่ง) ผลการศึกษาพบว่า การลดความอ้วน 5% ของน้ำหนักเริ่มแรก เพิ่มเลือดไปเลี้ยงมดลูก 19% ... ภาวะขาดเลือด หรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่พอเป็นปัจจัยกระตุ้น (trigger) ที่ทำให้ไข่ไม่ตกจากรังไข่ การมีเลือดไปเลี้ยงมดลูกมากขึ้นอาจช่วยให้ตัวอ่อน (embryo) ฝังตัวในมดลูก (womb) ได้ดีขึ้น ...
การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกเริ่ม จำเป็นต้องรอผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุน หรือคัดค้านต่อไป ทว่า... ได้เปิดมิติใหม่ที่ทำให้เกิดความรู้ใหม่ว่า โรคอ้วนอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ น้อยลง ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย หรือปวดท้องเรื้อรังได้เช่นกัน ... กลุ่มตัวอย่างในการศึกษานี้เกือบทั้งหมดมีอาการถุงน้ำหลายถุงในรังไข่ หรือ 'polycystic ovary syndrome / PCOS' อายุเฉลี่ย 29 ปี ดัชนีมวลกาย (body mass index / BMI = น้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตร 2 ครั้ง) เกือบ 40 การศึกษานี้มีการใช้ยาลดความอ้วน 'orlistat' หรือยาลดระดับน้ำตาลในเลือด 'metformin' เพื่อช่วยลดน้ำหนักให้ได้ 5% ภายใน 12 สัปดาห์ ...
การศึกษาก่อนหน้านี้ทำในกลุ่มตัวอย่างจำนวนไม่มากพบว่า การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยช่วยให้โอกาสตกไข่เพิ่มขึ้น 30-40% กลไกที่โรค PCOS ทำให้มีลูกยากมีหลายกลไก เช่น ระดับฮอร์โมนเพศชาย 'testosterone' สูง และเลือดไปเลี้ยงมดลูกลดลง ฯลฯ ... ศ.เลดเจอร์กล่าวว่า ผู้หญิงที่ลดน้ำหนักได้ 5-10% มีโอกาสมีลูกสมใจเพิ่มขึ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้อลดน้ำหนักมากถึง 50% หรือลดจนผอมเป็นหุ่นนางแบบ ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ... > Thank BBC ที่มา
ไม่มีความเห็น