มนุษย์สมัยก่อนประวัติสาสตร์ ความเจริญของยุคหินใหม่ ยุคโลหะ ในเอเชียตะวันออกเฉัยงใต้
การศึกษาประวัติศาสตร์ใน S.E.A.
ได้อาศัยหลักฐานของนักโบราณคดีเป็นหลัก
นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้จัดแบ่งสมัยก่อนประวัติศาสตร์ใน
S.E.A. เป็น ๔ ระยะตามรูปแบบของเครื่องมือเครื่องใช้ที่ขุดพบ คือ
ยุคหินเก่า ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว
ยุคหินกลาง ประมาณ ๑๐,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว
ยุคหินใหม่
ประมาณ ๔,๐๐๐ – ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว
ยุคโลหะ ประมาณ ๒,๕๐๐ ปีมาแล้วลงมา
ในที่นี้จะกล่าวถึง ยุคหินใหม่และยุคโลหะ
ยุคหินใหม่
ช่วงราว ๔,๐๐๐ – ๒,๕๐๐ ลงมา
เป็นยุคเริ่มแรกของวัฒนธรรม SEA
เนื่องจากมีเครื่องมีหินที่ขัดผิวจนเรียบ
พวกออสโตรนีเซียที่อยุ่ตอนใต้ของประเทศจีนอพยพลงมาใน SEA ซึ่งมี ๒
ระยะ คือ
๑.
พวกมาเลย์สมัยเก่า
๒.
พวกมาเลย์ใหม่
ลักษณะการทำมาหากิน เริ่มมีปลูกข้าว
เลี้ยงสัตว์ประเภท วัว หมู ไก่
จัดได้ว่าเป็นสังคมผลิตอาหารเองควบคู่ไปกับการล่าสัตว์และการเก็บของป่า
นับว่าเป็นยุคแห่งการปฏิวัติเกษตรกรรม
เทคโนโลยีเครื่องมือเครื่องใช้
มีการทำและใช้เครื่องมือรูปหัวขวานที่ขัดฝนจนเรียบรูปเหลี่ยม
มีขวานปลายมน สิ่วหิน มีการใช้ภาชนะดินเผาหลายรูปทรง มีทั้งผิวเรียบ
ผิวขรุขระ ลายเชือกทาบ เริ่มมีการใช้สีเขียนลายบนภาชนะ
มีวิธีการตกแต่งแตกต่างกันซึ่งค้นพบกระจัดกระจายในตามภูมิภาคต่าง ๆ ใน
S.E.A. แสดงถึงมีความแตกต่างทางความคิด ค่านิยมประเพณี
มีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างชุมชน
แบบแผนที่พักอาศัย เป็นชุมชนแบบอุตสาหกรรมไม่ใหญ่นัก
แต่ละชุมชนมีอิสระจากกัน
ปกครองตนเองโดยหัวหน้าแต่ละกลุ่มลักาณะแบบพ่อปกครองลูก
มีการทำเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์แบบสัมพันธ์กับที่อยู่อาศัยที่สร้างแบบถาวร
เช่นการเลี้ยงสัตว์ไว้ใต้ที่พักอาศัย
ความเชื่อ ประพณี เชื่อในวิญญาณภูติ ผี ต่าง ๆ
เชื่อว่าพลังชีวิตหรือวิญญาณอยู่ในพืชผลที่ปลูก
เช่นเทพเจ้าผู้หญิงที่เรียกว่า แม่โพสพที่อยู่ในไร่นา มีพิธีกรรมต่าง
ๆ ตลอดจนกฏข้อห้ามหลายอย่างในการปฏิบัติเพาะปลูกเก็บเกี่ยว
มีการสร้างอนุสาวรีย์หินใหญ่ เพื่อปกป้องคนตายและชุมชน
ด้านศิลปกรรม พบภาพวาดตามถ้ำต่าง ๆ ทั่ว SEA
มีทั้งรูปสัตว์บกและสัตว์น้ำ และรูปทรงเลขาคณิต
ยุคเหล็ก
ช่วงราว ๒,๕๐๐ ปีมาแล้วลงมา
จัดเป็นยุคประวัติศาสตร์
เนื่องจากเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินตกไป
มีการใช้โลหะจำพวกสำริดและเหล็กเข้ามาแทนที่
ลักษณะการทำมาหากิน
เป็นสังคมเกษตรกรรมแต่มีการพัฒนาขึ้น เริ่มมีการเลี้ยงควาย
ใช้ควายเป็นแรงงานในการไถนา รู้จักการทำชลประทาน และการเดินเรือ
หลักฐานการติต่อค้าขายระหว่างรัฐพบมากในยุคสมัยนี้
เทคโนโลยีเครื่องมือเครื่องใช้
มีการพัฒนาทางด้านโลหะกรรม
-
2,700 – 2,500 ปีมาแล้ว มีการทำสำริดขึ้นใช้
ส่วนผสมจะมีความแตกต่างกันแต่ละชุมชน
-
2,500 – 2,300 ปีมาแล้ว มีการใช้เหล็กทำอาวุธ
-
รู้จักการย้อมผ้าด้วยเปลือกไม้ เรียกว่าผ้าบาติก
แบบแผนที่พักอาศัย
สร้างบ้านเรือนแบบถาวรอยู่กันเป็นหมู่บ้าน มีชุมชนมากขึ้น
กระจายตั้งอยู่ในตามพื้นที่ลุ่มและพื้นที่ดอน
ชุมชนที่ใหญ่กว่าจะเป็นศูนย์กลาง
ระบบทางสังคมค่อนข้างทับซ้อนกันมากขึ้น
ชุมชนในแต่ละภูมิภาคมีความสัมพันธ์กันด้วยการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยน
โดยเฉพาะในยุดนี้ได้มีการติดต่อค้าขายกับทางต่างชาติ
ดังหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบเช่น พบกลองมโหระทึกสำริด
แบบวัฒนธรรมดองซอนของเวียดนามและวัฒนธรรมในมณฑล กวางสีของจีน
พบลูกปัดหิน ซึ่งมีแหล่งผลิตในอินเดีย
มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมให้แก่กัน
ความเชื่อ ประเพณี
ยังมีการนับถือภูตผีปีศาจเหมือนกับวัฒนธรรมหินใหม่
มีการตั้งศาลที่เป็นสิงสถิตวิญญาณไว้ในที่สูง มีการนับถือยอดเขา
มีพิธีการฝังศพคนตายลงในโอ่งซึ่งจะใช้กับศพเด็ก
ส่วนผู้ใหญ่จะมีการทุบเศษเครื่องปั้นดินเผารองพื้นก่อนนำศพวาง
มีการใส่เครื่องประดับให้ศพตามแต่ฐานะทางสังคมและความมั่งคั่ง
ซึ่งทำให้ทราบว่า คนในยุคสมัยนี้เชื่อเรื่องโลกหน้า และหรือ
โลกหลังความตาย
ด้านภาษา มีภาษาพูดเป็นของตนเองแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น
พวกที่อยู่ตามริมฝั่งทะเลจะมีความเจริญมากกว่าพวกที่อยู่ตอนในแผ่นดินใหญ่
วัฒนธรรมสำคัญที่อยู่ในยุคสมัยนี้คือ
วัฒนธรรมดองซอน
เรียกชื่อตามเมืองที่ขุดค้นพบคือเมืองดองซอน ในเวียดนามเหนือ
ซึ่งมีอายุอยู่ระหว่าง ๕๐๐ – ๑๐๐ B.C.
เครื่องมือเครื่องใช้ที่ขุดพบเช่น กลองมโหระทึกทำด้วยสำริด
อาวุธที่ทำด้วยสำริดเช่น ขวาน หอก หัวลูกศร เครื่องปั้นดินเผา
เครื่องประดับสำริด ผู้สร้างวัฒธรรมดองซอนคือ พวกมาเลย์ใหม่
คือพวกที่อยู่บริเวณแหลมมาลายูและหมู่เกาะอินโดนีเซีย
และพวกโลเหยอะที่อาศัยบริเวณปากแม่น้ำแดง
วัฒนธรรมหินใหญ่
มีการนำเอาการนำเอาหินมาใช้ในการก่อสร้าง เช่นโต๊ะหิน รูปหินจำหลัก
การสร้างสถาปัตยกรรมใหญ่ เช่นปราสาทหินในกัมพูชา
ต่อมาในภายหลัง
หลังจากที่มีการขุดค้นพบหลักฐานเครื่องมือเครื่องใช้สมัยก่อนประวัติศาสตร์
โดยเฉพาะที่บ้านเชียง
จึงทำให้มีการแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ใหม่คือ
ยุคหิน ราว ๕๐,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว
มนุษย์เป็นธาตุของธรรมชาติ เข้าป่า ล่าสัตว์ ทำเครื่องมือหินอย่างหยาบ
ๆ
ยุคไม้ ราว ๔๒,๐๐๐ – ๒๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว
รู้จักทำเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้ เช่นธนู กับดักสัตว์
เนื่องจากมีป่าไม้มาก
ยุคผลึก
ราว ๒๒,๕๐๐ – ๘,๐๐๐ ปีมาแล้ว รู้จักทำเครื่องมือหินขัด เพาะปลูก
เลี้ยงสัตว์ทำเครื่องปั้นดินเผา
ยุคแห่งการขยายตัว เริ่มพร้อม ๆ กับยุคผลึก
รู้จักการเดินเรือ
มีการขยับขยายโยกย้ายถิ่นฐานไปยังถิ่นที่อุดมสมบูรณ์
ยุคแห่งการทำสงคราม ราว ๕๐๐ ปี B.C. –
สงครามโลกครั้งที่ ๒ เนื่องจากเป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้นสลับซับซ้อนขึ้น
รวมตัวกันเป็นอาณาจักร จึงมีการขัดแย้งกันทำสงครามระหว่างกัน
ปล. การเปลี่ยนผ่านขอแต่ละยุคในแต่ละประเทศย่อมไม่เท่ากัน บทความนี้เพียงแต่บอกภาพรวมเท่านั้นครับ
วาทิน ศานติ์ สันติ
แบบย่อ ๆ นะครับ
ข้ามาอ่านสาระงาม ๆ ความรู้ดี ๆ ขอให้มีสุขในช่วงเข้าพรรษานะครับ
อยากรู้พิธีกรรมความเชื่อ และเหตุผลด้วยครับว่าทำไมถึงรู้ว่ามีจริงกับความเชื่อนั้น
ขอบคุณคะที่ให้ความรูกับหนู
บทนี้ให้ความรู้มากเลยทีเดียว
r6yry
ถามไรหน่อย ยุคแห่งความเจริญในประวัติศาสตร์คือไร
แล้วถ้ามี มีกียุคและมีอะไรบ้าง อาจารย์ถาม
งงงงงงงงงงงงงงงงงมากกกกกกกกกกกกกกกกก
^
^
คำถามนี้ตอบยากครับ ยุคเจริญ ยุคเสื่อม เกิดตายวนเวียนเป็นวัตถจักร
อย่างเช่น ยุคกลางในยุโรป เสื่อม
ยุครู้แจ้งเจริญ
มันพูดยากและหลายยุคนะครับ
ทำไมหนูคลิก
เอเชียตะวันออก
แต่มัน
เป็น
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
งงงงงงงเลย
เบื่อแล้ว
จะหางานก็หาไม่เจอ
หาเจอแล้ว!!!
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ!
นะนะนะยะ