-
อ่านความเห็นของกัลยาณมิตรหลายท่านก็ล้วนมีประโยชน์มากเลยค่ะ
· ความเห็นของศิลาต่อไปนี้ ต้องขออภัยล่วงหน้าก่อนนะคะ ว่าแล้วแต่ดุลพินิจค่ะว่าจะเหมาะสมกับบรรยากาศหรือบริบทของตัวคนไข้เองหรือไม่
· การเขียนไดอารี่ของลูกน้อยที่กำลังป่วยเพื่อตัวน้องเอง และ เพื่อคุณพ่อคุณแม่ จะต้องอาศัยแรงบันดาลใจจากคนที่แสดงความรักต่อเขาและเข้าใจเขาอย่างลึกซึ้งค่ะ
· ถามว่าแรงบันดาลใจสร้างกันได้อย่างไร ก็ได้แก่ นำบันทึก เรื่องเล่าที่เป็นกำลังใจ นิทานที่จบลงแบบ happy ending มาอ่านให้ฟัง สร้างจินตนาการให้เด็ก ๆ… นำตุ๊กตามาเล่นให้เด็ก ๆ ดู (ตอนเป็นนักศึกษา ศิลาเคยไปเชิดหุ่นตุ๊กตาทำมือให้เด็ก ๆ ในชุมชนแออัดดูค่ะ) นำภาพวาด ภาพเขียนที่เขียนโดยเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันมาให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือเราจะวาดให้ดูก็ได้ค่ะ เตรียมอุปกรณ์ดินสอสีให้พร้อม และกระดาษหลากสีก็ดีนะคะ เผื่อจะมาตัดเป็นรูปตามจินตนาการของเด็ก ๆ หรือจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่จะทำสิ่งประดิษฐ์เล็ก ๆ แล้วแต่น้อง ๆ ชอบ
· จากนั้นก็ชวนให้เขียนไดอารี่เล่าเรื่องจากจินตนาการ ชวนฝึกระบายสี วาดภาพ วาดการ์ตูน …เด็ก ๆ เล่าเรื่องจากจินตนาการผ่านการวาดรูปก็เป็นไดอารี่ได้เหมือนกันค่ะ แรก ๆ เราอาจจะต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ชวนให้เล่าเรื่องออกมาเป็นคำพูด แล้วก็ชวนลงมือปฏิบัติให้น้องเขาขีด ๆ เขียน ๆ ระบายสี หรือประดิษฐ์อะไรก็ได้ตามแต่วัสดุที่เราหามาได้ มาวางไว้ให้น้องเขาเห็น
· การนำจิตมาจดจ่อกับงานฝีมือที่สร้างจินตนาการจะทำให้เด็กลืมความเจ็บปวดภายในกาย มาจดจ่อกับจินตนาการที่อยู่ตรงหน้าค่ะ
· ถ้าเด็กโตมากหน่อยพอรู้เรื่องแล้ว อยากแนะนำให้ฟังเทปของหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ http://www.wimutti.net/pramote/mp.php
· หากน้องฝึกภาวนาตามแนวทางที่พระอาจารย์แนะนำในเทปได้ ก็จะช่วยให้ไม่เจ็บปวดที่กายค่ะ …. ธรรมะที่หลวงพ่อบรรยายไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเรื่องความทุกข์ที่ฟังแล้วตอกย้ำนะคะ แต่จะช่วยให้น้องเข้าใจและปฏิบัติได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย เพราะผู้ใหญ่มีเรื่องปรุงแต่งมากอาจจะภาวนาได้ยากกว่าด็ก ๆ ค่ะ
· งานนี้ คนที่จะต้องใช้ความสามารถอย่างสูงคือ คนที่จะสร้างแรงบันดาลใจและต้องมีหัวใจแกร่งด้วยค่ะ
และนี่ก็เป็น comment ของคนที่ได้รางวัลสุดคะนึง เจ๋งมากค่ะ
เมื่อ อา. 19 เม.ย. 2552 @ 22:08
1249348 [ลบ] [แจ้งลบ]
สวัสดีครับ คุณพี่แดง
เท่าที่ได้อ่านดูบันทึกของคุณพี่
ต้องขอบอกว่าเป็นงานที่มี "คุณค่า" และ "ความหมาย" มากทีเดียวเลยนะครับ
มันน่าจะทำให้คนทำงานเห็นและสัมผัสได้ถึงคุณค่าของ "การมีชีวิตอยู่" ผ่านมุมมองของ "ความตาย" ที่มาถึงก่อนวัยอันควรของเด็กๆ ที่น่ารัก
ในบางแง่มุม ผมก็ยังรู้สึกอิจฉาคุณพี่ที่ได้ทำงานอันเปี่ยมไปด้วยความหมายนี้ ผมคิดว่าการที่คุณพี่นำเรื่องราวประสบการณ์ที่ได้สัมผัส มาถ่ายทอดบอกเล่าไว้ใน GotoKnow จะเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากนะครับ โดยเฉพาะกับคนทั่วๆ ไปเช่นผม ที่ไม่ค่อยมีโอกาสรับรู้รับทราบในสิ่งที่หาโอกาสสัมผัสได้ยากเช่นนี้
มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ คน ได้หันกลับมาทบทวนชีวิตตนเองว่า เราล่ะยังประมาทอยู่กับการใช้ชีวิตหรือไม่ และนั่นอาจจะทำให้เราเห็นคุณค่าของการมีชีวิตมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้นะครับ
....
สำหรับเรื่องราวของเด็กๆ ผมเองก็อยากอ่านนะครับ ถ้าคุณพี่มีโอกาสให้เด็กได้ลองบันทึกสั้นๆ หรือพูดคุยสอบถามกันเป็นเรื่องๆ หรืออะไรก็ได้ที่เด็กเค้าอยากแสดงออก หรืออยากระบาย อาจเป็น ภาพวาด บทกวี หรือเสียงพูด เสียงร้องเพลง
หากจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น ผมอยากเห็นและอยากให้คุณพี่แดงเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ มาสู่พวกเราใน GotoKnow ด้วยนะครับ (ไม่รู้ว่าจะมีเวลาหรือเปล่า) เช่นนำบันทึก หรือภาพวาด หรือเสียงพูดของเด็กๆ มาใส่ไว้ที่นี่ ซึ่งผมเชื่อว่า จะมีผู้ใหญ่ใจดีอีกมากมายที่จะเข้ามาแลกเปลี่ยน ให้กำลังใจพวกเขา และคุณพี่เองอาจเป็นสื่อกลางที่จะนำความปรารถนาดีของคนที่นี่ไปบอกเล่าเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่พวกเขาได้นะครับ
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยผมคิดว่าหากทำได้จริง น้องๆ ก็จะได้กำลังใจและความปรารถนาดีเพิ่มขึ้นจากใครก็ไม่รู้ที่พวกเขาไม่รู้จัก และพวกเราที่นี่ก็จะได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญของชีวิต จากพวกน้องๆ ด้วยครับ
งานนี้น่าจะมีแต่ได้กับได้ แต่คนที่อาจเหนื่อยหน่อยก็คงจะเป็นคุณพี่แดงเอง ก็พิจารณาดูความเหมาะสมนะครับ เข้าใจว่างานคุณพี่ก็หนักทั้งกายและใจอยู่แล้ว
ลำพังแค่ให้หาวิธีให้พวกน้องๆ เค้าได้แสดงออก หรือบอกเล่าความรู้สึกก็ยากอยู่แล้ว แต่คิดว่ายังไงเรื่องนี้คงไม่ยากเกินความตั้งใจดี และความปรารถนาดีที่คุณพี่มีต่อพวกเขานะครับ
ขอให้กำลังใจนะครับคุณพี่แดง