มาแล้ว.....trip to Portugal วันที่ 5/10


ท่องเที่ยวปราสาทราชวังของโปรตุเกส

วันที่บันทึกนี้เป็นวันที่ 15 มิถุนายนแล้ว นี่กลับมาจากโปรตุเกสเกือบเดือนแล้วหรือนี่ เฮ้อ! เอาหล่ะ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะจำได้แค่ไหน เพิ่งมาถึงวันที่ 5 ของการเดินทางกันเอง เริ่มละนะ

วันที่ 5 ของการเดินทาง เอาตามกำหนดการก่อนละกัน เปิดตามเอกสารเลย รับประทานอาหารเช้าของโรงแรม เมื่อคืนนี้ตกลงกันไว้ว่า 7 8 9 วันนี้เป็นอาทิตย์ ที่โปรตุเกสนี่เป็นคาทอลิกที่เคร่งมาก คนส่วนใหญ่จะไปโบสถ์กันตั้งแต่เช้า ร้านค้าต่างๆ จะเปิดหลังจากที่เจ้าของกลับมาจากโบสถ์แล้วเท่านั้น หรือไม่ก็ไม่เปิดเลยในวันอาทิตย์ เนื่องจากว่าตามความเชื่อของศาสนาแล้ว วันอาทิตย์เรียกว่าวันสปาโต เป็นวันพักผ่อนและเป็นวันที่ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ให้ได้ระลึกถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ให้กับชาวคริสต์ (ทั้งคริสเตียนและคริสตัง)

ขอแก้ไขจากวันที่ 4 นิดนึงว่า วันที่ 4 เป็นวันเสาร์ แต่ว่าพี่นกและน้องตาลก็ลองนั่งแท็กซี่ไปยังมหาวิทยาลัยที่จะไปในวันจันทร์ (วันที่ 6 ของการเดินทาง)

โอเคกลับมาวันที่ 5 ของเรา เช้านี้ทั้งคณะเดินทางไปเมืองที่เรียกว่า Guimarães (อ่านว่า กีมารานช์) ใช้เวลาเดินทางจากปอตู ประมาณ 40 นาที เรื่องเล่าของสถานที่ที่จะไปก็มีอยู่ว่า เมืองนี้เป็นเมืองหลวงแรกของประเทศนี้ และปราสาทนี้เรียกว่า The Palace of the Dukes of Braganca ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ประสูติของกษัตริย์องค์แรกของโปรตุเกส ในห้องแต่ละห้องก็มีข้าวของเครื่องใช้ในสมัยนั้นบ้าง แต่จริงๆ แล้วเป็นปราสาทที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็ไปซื้อมาเติมจากพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในเมืองนี้แหละ เดินชมแล้วเหมือนกับในหนังเลย พวกประเภท Dragon Heart หรือพวก Robinhood ประมาณนั้น การเข้าชมก็เหมือนเดิมคือมีไกด์เป็นคนท้องถิ่น คอยอธิบายเรื่องต่างๆ ให้ฟัง จำไม่ได้แล้ว่าเธอชื่ออะไร แต่พูดภาษาอังกฤษชัดมาก เวลาเช้าที่ไปเข้าชมนั้นมีกลุ่ม ส.ว.(สูงวัย) เยอะมากๆ แล้วก็มีนักเรียนด้วย ลืมบอกไปว่า “ห้ามถ่ายภาพและวีดีโอ” ข้างในห้องต่างๆ เสียใจด้วยครับพี่น้องไม่มีภาพด้านในให้ชมกัน การจัดห้องทุกห้องภายในปราสาทเสมือนหนึ่งว่ายังคงมีผู้อาศัยอยู่ด้านใน เสร็จจากการเดินชมด้านใน ก็ถึงคิวการเข้าห้องน้ำ ข้าพเจ้าแซวไกด์เล่นๆ ว่าดีนะ ที่ห้องน้ำไม่ได้เก็บของเดิมเอาไว้ ไกด์ก็เลยตอบมาว่าสมัยก่อนไม่มีหรอกห้องน้ำ พวกขุนนาง ราชวงศ์และข้าราชบริพารปลดทุกข์ลงในกระโถน พอดึกๆ ก็สาดออกนอกหน้าต่าง ยี้! เป็นไปได้หรือนี่ ก็เลยคุยกันต่อเรื่องความสะอาดของสมัยก่อน ไกด์ก็เล่าต่อว่า คนสมัยก่อนไม่อาบน้ำ แค่นึกก็ตกใจ (จากมุมมองของเราซึ่งมาจากประเทศเมืองร้อน) เพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าการชำระบาปที่พระเยซูได้ตายแทนบนไม้กางเขนนั้นทำให้ตัวสะอาดแล้ว ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำอีก อืม…. เป็นความเชื่อล้วนๆ

ในปราสาทก็มี Chapel ด้วย ทีนี้หลาย Chapel หลาย Church ก็งงแหละว่าแตกต่างกันอย่างไร ไกด์ก็เลยอธิบายให้ฟังดังนี้ จะเรียกว่าอะไรไม่ค่อยเกี่ยวกับขนาดเท่าไหร่นัก Chapel เป็นโบสถ์ที่ไม่มีแท่นที่ทำพิธีศีลเจิม ศีลเจิมคือเมื่อเด็กแรกเกิดที่เป็นคาทอลิกมาทำพิธีเพื่อล้างบาป ความเชื่อก็คือ มนุษย์เกิดมามีบาปติดตัวมาแล้ว ส่วน Church และ Cathedral จะมีแท่นนี้ Church กับ Cathedral แตกต่างกันตรงที่เป็นที่อยู่ของพระที่มีตำแหน่งต่างกัน Cathedral จะมีศักดิ์สูงกว่า เอาแค่คร่าวๆ นี้ละกัน ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไปหาอ่านได้ใน Wikipedia นะ

ออกมานอกตัวปราสาทก็มาเจอปราสาทและ Chapel อีกอย่างละหลังที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน อากาศเย็นมากๆ ขอบอกว่าวันนี้ข้าพเจ้าและคณะต้องเดินลงเขาและไปเจอรถอีกทีหลังอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นอาหารโปรตุเกส อร่อยจัง เรื่องจริงนะเนี่ย การเดินชมเมืองก็เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจดี การตกแต่งบ้านเป็นเอกลักษณ์มากๆ มีต้นมะกอกอยู่ตรงกลางลานเอนกประสงค์ด้วย ระหว่างทางไปเจอร้านขายของที่ระลึก ซื้อกันใหญ่เลยผ้าที่มีรูปไก่ (ไก่เป็นสัญญลักษณ์ของโปรตุเกส) พี่นกก็สัญญาว่าจะพาไปซื้อร้าน “ป้าไก่” (พี่นกตั้งชื่อให้เอง) วันท้ายๆ ก่อนกลับ เอ้! เล่าเรื่องไก่ไปรึยัง เล่าอีกครั้งละกันสำหรับผู้อ่านที่เข้ามาอ่านวันนี้วันแรก มีเรื่องเล่าว่า มีชายคนหนึ่งถูกจับตัวมาให้พระราชาตัดสินโทษ ว่าฆ่าคนหรือไม่ ชายคนนี้ก็ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำ เลยบอกว่า ถ้าหากตนเองเป็นคนถูกต้องแล้ว ขอให้ไก่ย่างที่พระราชากำลังเสวยอยู่นี่ขันได้ เท่านั้นแหละ ไก่ลุกขึ้นมาขันเลย ไก่ก็เลยได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของความกล้าหาญและซื่อสัตย์ อันนี้พี่นกเล่าให้ฟัง ใครมีตำราอื่นๆ ก็แบ่งปันกันได้นะ

ตอนบ่ายหลังจากอาหารกลางวัน ข้าพเจ้าและคณะได้เดินทางไป Sanctuary ที่เมือง Braga (อ่านว่า บราก้า) มีหลายคนถามว่าแปลว่าอะไร แปลว่า Save Place ถ้าตามคาทอลิกแล้วแปลว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหมายรวมถึงโบสถ์ด้วย สถานที่นี้เรียกว่า Bom Jesus Do monte ซึ่งแปลว่า Good Jesus of the mountain (Wikipedia) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่บนเขาสูงมาก และมีบันไดขึ้นมาจากเชิงเขา 399 ขั้น ระหว่างทางเดินขึ้นนี้จะมีเรื่องราวและบ่อน้ำให้ผู้แสวงบุญแวะนั่งพัก และเรียนรู้ถึงทางเดินของพระเยซูในการแบกไม้กางเขนไปยังสถานที่ตรึงพระองค์เอง และมีรูปปั้นของสาวกทั้ง 12 คนของพระองค์ด้วย บรรยากาศสวยงามและรู้สึกถึงความสงบและศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันนี้ยังมีคนขึ้นมาทำพิธีแต่งงานที่นี่และในวัน Easter ซึ่งถือว่าเป็นวันที่สำคัญมากๆ สำหรับชาวคริสต์นั้น การเฉลิมฉลองจัดขึ้นที่ Bom Jesus นี่เป็นไปอย่างใหญ่โตและต่อเนื่องกันหลายวัน พี่นกได้พิจารณาแล้วว่ากลุ่มของข้าพเจ้าคงจะเดินขึ้นบันได้ 399 ขั้นไม่ไหวเป็นแน่แท้ จึงขับรถขึ้นไป ระหว่างทางเป็ลดเลี้ยวเคี้ยวคดถึงขั้นเมากันเลยทีเดียว แต่ไปถึงก็คุ้มค่าการเมารถจริงๆ ขากลับก็ลงอีกทาง จะลอดใต้บันไดที่เดินขึ้นด้วย

บ่ายๆ แก่ๆ ก็เดินทางกันกลับไปยังปอร์ตูกัน ต้องไปให้ทันเพื่อลงเรือชมแม่น้ำโดรูซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองปอร์ตู และยังเป็นแม่น้ำที่แบ่งเขตระหว่างโปรตุเกสและสเปน เป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆ เพราะว่าสองข้างทางเป็นภูเขาขึ้นไปเลย การปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นลักษณะขั้นบันได


ร้านอาหารที่คณะจะไปกินข้าวเย็นกันก็อยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือนั่นแหละ เดินไปประมาณ 6 โมงครึ่งร้านยังไม่เปิด ตามที่ได้บอกแล้วที่นี่คนกินข้าวกันดึกๆ ระหว่างรอกินข้าวขอเล่าเรื่องคุณลุงคนขับรถ ตอนนี้คุณลุงมีชื่อไทยแล้ว “ลุงป๊อด” แน่นอน พี่นกตั้งให้ ใจดีสุดๆ ส่วนผู้ร่วมขบวนการหลายคนพบเจอโทรศัพท์สาธารณะก็เข้าแถวกันโทรศัพท์กลับบ้าน มีท่านพี่คนหนึ่งกดดันมากเพราะว่าเป็นวันเกิดแฟนตัวเอง ยังไงๆ ก็ต้องโทรไปให้ได้ ท่านผู้ใหญ่ก็ถึงขั้นบอกว่าจะเป็นพยานให้ถ้าโทรไม่ได้จริงๆ ว่าได้พยายามโทรแล้วนะ

ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เย้!! เป็นอาหารพื้นเมือง แต่ตอนนี้สงสัยเริ่มชินกันแล้ว พอไหวแหละ ชอบตรงที่ผักเยอะดี วันนี้ทางร้านอาหารจัดโต๊ะให้เป็นโต๊ะละ 4 คน เลยได้นั่งกับผู้ร่วมขบวนการที่ยังไม่ได้คุยกันมาก่อน เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องต่างๆ บนโต๊ะอาหาร รู้สึกได้เพื่อนใหม่อีกแล้ว ชอบจัง!! รับประทานอาหารเสร็จ ปรากฎว่ามี Birthday Surprise!! มีเค้กด้วย เจ้าของวันเกิดลืมไปแล้วว่าวันนี้วันเกิดตัวเอง สนุกอีกวัน ขากลับต้องรีบกันหน่อยเกือบเกินเวลาของลุงป๊อดแล้ว เดี๋ยวโดนปรับเป็นเงินมากมายเลย ถึงแม้ลุงจะยอมแต่สหภาพไม่ยอมแน่ๆ ลืมบอกไปว่า ลุงเป็นคนปอร์ตู เลยโทรตามเมียมารับกลับบ้าน พรุ่งนี้ไม่เจอกันนะลุง

 

คำสำคัญ (Tags): #braganca#portugal#ไก่
หมายเลขบันทึก: 268267เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2009 12:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท