ปัจจุบันนี้ รถยนต์นับได้ว่าถือเป็นปัจจัยที่ 5 ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตในแต่ละวันไปเสียแล้ว แม้เทคโนโลยีด้านโลหะจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มีผลให้เครื่องยนต์ในปัจจุบันมีความทนทานมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรที่จะลืมดูการรัน - อิน อย่างถูกวิธี เพราะจะมีผลต่ออายุการใช้งานของรถในระยะยาว
ระยะ รัน - อิน หมายถึง การใช้งานในระยะแรกอย่างถูกวิธี เพื่อให้ทุกชิ้นส่วนมีการปรับสภาพได้อย่างเหมาะสม การใช้งานแบบเต็มกำลังตั้งแต่แรก ทำให้มีการสึกหรอสูงและรวดเร็วมาก เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ ยังไม่เข้าที่
ระยะทาง 0 -1,000 กิโลเมตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้รอบเครื่องยนต์เกิน 2,500 - 3,00 รอบ/นาที หรือเปลี่ยนความเร็วรอบ ขึ้น - ลง แบบกระทันหันโดยไม่จำเป็น การเปลี่ยนจากเกียร์ต่ำขึ้นสู่เกียร์สูง ควรทำอย่างนิ่มนวลที่ระดับ 2,500 รอบ/นาที แล้วถอนคลัชช้า ๆ ส่วน การเปลี่ยนจากเกียร์สูงลงสู่เกียร์ต่ำเพราะต้องการใช้เกียร์สัมพันธ์กับความเร็ว ไม่ควรเปลี่ยนลงเกียร์ต่ำ เพราะต้องการใช้เกียร์และเครื่องยนต์ช่วยเบรก ถ้าต้องการเบรกให้เหยียบเบรกตามปกติ ในช่วง 0 - 5,000 กิโลเมตร ไม่ควรใช้รอบเครื่องยนต์เกิน 4,000 รอบ/นาที
เมื่อถึงระยะทาง 1,000 กิโลเมตร ให้ถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ่ายน้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองทิ้งท้าย เพื่อเอาเศษสกปรกที่หลุดจากชิ้นส่วนต่าง ๆ และปะปนอยู่ในน้ำมันออก
การเดินทางไกลกับรถยนต์ใหม่ สามารถทำได้ แต่ต้องใช้เทคนิคและความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ยังไม่พ้นระยะ รัน - อิน การเดินทางไกลกับการใช้รอบเครื่องยนต์ใหม่ อาจมีความเข้าใจผิดในหลายกรณี โดยเฉพาะในเรื่องความเร็ว ผู้ใช้ส่วนหนึ่งคิดว่าเมื่อเดินทางไกลมักใช้ความเร็วสูงแล้วจะควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้อย่างไร เพราะถ้าขับเร็วก็น่าจะต้องใช้รอบสูงด้วย แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
การขับด้วยรอบเครื่องยนต์ระดับปานกลาง ก็สามารถไต่ขึ้นสูงความเร็วตามกฎหมายกำหนดได้ รถยนต์ส่วนใหญ่ในความเร็วระดับ 90 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเกียร์สูงสุดไม่ว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อันโนมัติ มักใช้รอบเครื่องยนต์ประมาณ 2,500 - 3,000 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งไม่สูงเกินไป การเดินทางไกลมีข้อดี คือ สามารถขับได้อย่างนุ่มนวล และควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้ตามต้องการ แต่ไม่ควรขับแช่ที่ความเร็วเดียวกันต่อเนื่องนาน ๆ ควรเปลี่ยนแปลงความเร็วบ้าง โดยอาจสลับด้วยการผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
สำหรับกรณีคับขัน เช่น ต้องเร่งแซงหลบหลีก ก็สามารถกดคันเร่งได้เลย ไม่ต้องเน้นรักษารอบเครื่องยนต์มากเกินไปจนขาดความปลอดภัยหรือถูกชน
รถยนต์ส่วนใหญ่มักมีการผลิตครั้งละเป็นจำนวนมาก ๆ แม้มีการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ก็ยังอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ดังนั้น เจ้าของรถป้ายแดงจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ หมั่นตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ต่าง ๆ ถ้าพบความผิดปกติจะได้เคลมก่อนหมดประกัน
ที่มา : www.manager.co.th
ไม่มีความเห็น