ถอดหน้ากาก
...<<มนุษย์ทุกคนล้วนมีความกลัว>>...
อำนาจของความกลัวสามารถทำอะไรกับเราได้หลายอย่าง...ความกลัวสามารถสวมหน้ากากชีวิตให้กับเรา... คนส่วนใหญ่สวมเพื่อให้คนรู้สึกดี...สวมเพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภั... กลัวไม่มีใครรัก... กลัวที่จะต้องสูญเสีย... กล้วความเปลี่ยนแปลง และกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว....ทำให้ต้องสวมหน้ากากแบบต่างๆ ตลอดเวลา...จนแทบไม่รู้เลยว่า อันไหนคือตัวจริงของเรา อันไหนคือหน้ากาก.....
เมื่อเราชินกับการสมหน้ากาก ก็หลงคิดว่า "มันเป็นตัวตนจริงๆ ของเรา"
เหนื่อยไหม? กับการที่ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพียงเพื่อให้คนอื่นพอใจ ...ทำไมต้องอาศัยผู้อื่น...ทำไมต้องทำในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เราทำ..." แค่กลัว"...ในสิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้นมาเอง เราจึงต้องสร้างกำแพงป้องกันความผิดหวัง...ด้วยการเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองด้วยการสวมหน้ากากชีวิต....
ลองย้อมกลับมาดูใจตัวเองให้เห็นความจริง "ว่ากลัวอะไร" เมื่อเราเห็นความจริงและยอมรับสภาพความจริงนั้น เมื่อเรารับได้ ใจมันจะเลิกกลัว... ชีวิตเราก็จะมีอิสระ....จิตใจจะมั่นคง โดยไม่ต้องอาศัยคนอื่นมาทำให้เรารู้สึกมั่นคง... พอไม่ต้องอาศัยตนอื่น ก็ไม่ต้องทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เพื่อที่จะให้ใครมารักเราตอบ..เพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่นคงทางจิตใจ...ในที่มั่นคง ช่วยให้สามารถมอบความรักแบบไม่มีเงื่อนไขให้ทุกคนรอบตัว...ไม่ว่าจะเป็นคนรัก สามี เพื่อน พ่อแม่ และรักพวกเขาในแบบที่เขาเป็น ... แบบที่ไม่ต้องสวมหน้ากาก
ถอดหน้ากากกันเถอะนะ!...
1. ไม่จำเป็นต้องยิ้มในเวลาที่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของคนอื่น แต่จงบอกความรู้สึกที่แท้จริงของเราให้เขารับรู้...
2. หมั่นดูแลใจตัวเองทุกครั้งที่รู้สึกว่าเรากำลังทำสิ่งที่ไม่ใช่เรา
3. เริ่มบอกคนที่เรารักว่าเราต้องการอะไรจากเขาที่ไม่ใช่สิ่งที่ซื้อหาได้ด้วยเงิน
4. เรียนรู้ที่จะพูดในสิ่งที่เราคิด และเริ่มต้นทำในสิ่งที่เราอยากทำ
5. ลองร้องไห้กับคนที่เรารัก...แล้วบอกเขาว่าเราต้องการความช่วยเหลือ....
ความเห็น (13)
"ไม่จำเป็นต้องยิ้มในเวลาที่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของคนอื่น แต่จงบอกความรู้สึกที่แท้จริงของเราให้เขารับรู้"
ชอบข้อนี้มากค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ และสวัสดีค่ะคุณเดือน
หลายคนพยายามหลอกตัวเอง ว่าเรามีความสุขดี ทั้งๆ ที่หัวใจไม่ได้รู้เช่นนั้นเลย
ใจจึงไม่มีโอกาสได้สัมผัส...ความสุขที่เป็นอิสระ
ผมโชคดีนะครับเพราะหน้าผมไม่มีกากแล้ว ชอบเดินดินกินข้าวแกง สัมผัสต้นไม้ใบหญ้ามีความสุข สดชื่น เป็นธรรมชาติ อุตรดิตถ์ได้แต่ผ่านไปผ่านมามีโอกาสต้องแวะเยี่ยมชมแยกเข้าไปคงไม่ไกล คุณครูสบายดีนะครับ ขอให้คุณครูใจดีมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เป็นครูผู้แสนดีของเด็กไปนานเท่านานนะครับ
เป็นชีวิตที่มีความสุขมากจริงๆ เลยค่ะ...
ชีวิตที่ไม่มีหน้ากาก เดินดินกินข้าวแกง สัมผัสต้นไม้ใบหญ้า มีความสุขกับธรรมชาติ
...เราสามารถเลือกหนทางชีวิตได้เองเสมอ
ถอดหน้ากากของตัวเอง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม
...บอกตัวเองว่า "เราจะเป็นคนใหม่"
สวัสดีอีกครั้ง...ค่ะ
^_^
จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดเล็กๆ สงบร่มรื่นน่าอยู่ มีธรรมชาติที่สวยงาม มีวิถีชีวิตอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน...
..คนอุตรดิตถ์มีน้ำใจ..ยินดีต้อนรับผู้มาเยื่อนทุกคน...
ถ้ามาเมื่อไหร่ อย่าลืมแวะทักทายที่ ลับแลพิทฯ บ้างนะคะ ครูใจดีจะพาไปทาน อาหารพื้นบ้านที่แสนอร่อยและเรียบง่าย และดีกับสุขภาพค่ะ "ข้าวพันผักลับแล"
อร่อยมากและถูกด้วย
น่าทานมากค่ะ ...
ทานไป ฟังเพลงไป
THIS MASQUERADE The Carpenters http://www.ijigg.com/songs/V2B0FAA4PB0 http://www.imeem.com/chelsi1103/music/CQOKiN78/carpenters-this-masquerade/ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คุณนีน่า
อยากให้มาทานที่อุด-ดิต จังเลย รับรองติดใจ
เพลงเพราะมาก ชอบค่ะ ฟังตอนที่ฝนตก ขณะนี้ ได้อารมณ์จริงๆ
ขอบคุณนะคะ
สวัสดีค่ะ
- ความกลัว....ทำให้คนไม่กล้าค่ะ
- พี่คิมแก่แล้ว...ปลงได้เกือบหมดแล้วค่ะ
- ขอขอบคุณค่ะสำหรับบันทึกที่เป็นประโยชน์
น่ากลัวจัง จะมีไหมใครสักคนที่จริงใจกับเรา สามารถหาได้อยู่ไหม บนโลกอันกว้างใหญ่
อยากมีใครสักคนที่คบเราที่เป็นเรา
สวัสดีค่ะคุณอร
สังคมปัจจุบัน มีความซับซ้อนมากขึ้น การจะทำอะไรคงต้องรอบคอบและระมัดระวังค่ะ
ความรักแปละความจริงใจต่อกัน ยังคงมีอยู่ค่ะ อาจอยู่ใกล้ๆ กับเรา หรืออยู่ไกลแสนไกล
ในสติพิจารณา และการหากเรามีความจริงใจและมีมิตรไมตรีกับเขา เขาก็ย่อมมีมิตรไมตรีตอบเรา "อยากให้ใครปฏิบัติกับเราอย่างไร เราต้องปฏบัติสิ่งนั้นกับเขาก่อน"
ครูใจดีเชื่อว่า คนไทยยังมีน้ำใจดีอยู่ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณอร
ชอบมากค่ะ ขอยืมบทความนี้ไปเป็นหัวข้อทำงานส่งอาจารณ์ ด้วยนะค่ะ