22.จะช่วยพ่อแม่หนูอย่างไร....ให้ข่าวร้ายกลายเป็นดี


จะช่วยพ่อแม่หนูอย่างไร....ให้ข่าวร้ายกลายเป็นดี

กลางดึกของคืนวันฝนตกหนัก วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ฉันขึ้นปฏิบัติงานเวรดึก ทันทีที่มาถึง Ward  ก็เห็นว่าทีมการพยาบาลทุกคนกำลังทำงานอย่างขมักขะเม้น ฉันทักทายทีมการพยาบาลที่ปฏิบัติงานเวรบ่ายและประโยคแรกที่ถามขึ้นก็คือ ยุ่งมั๊ยวันนี้   ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่เราชาวพยาบาลจะต้องทักทายถามไถ่กันและกันทุกครั้งที่เจอกัน  ยุ่งมากค่ะคนไข้ชัก ใส่ท่อช่วยหายใจ  1 case  ตอนนี้ส่งตรวจ CT brain  อยู่คนไข้ไม่ดีเลยค่ะพี่กุ้ง  น้องบุตรตอบฉัน  “Case อะไรเหรอ ฉันถามน้อง  “Retinoblastoma  ค่ะ  เคยมารักษาที่เราไม่กี่ครั้ง พึ่งให้คีโม ครั้งที่ 3 นี่แหละค่ะ  หลังรับทราบข้อมูลจากน้องบุตรแล้วฉันหันมองนาฬิกา เอ้า ! ได้เวลารับเวร 6 ทุ่มแล้ว  ฉันอุทานกับตัวเองพร้อมกับมานั่งประจำที่รอรับเวร

                     เมื่อได้รับทราบข้อมูลของคนไข้ทั้ง 10 คนจากการส่งเวรแล้วฉันเดิน round ตามเตียงต่างๆ คนไข้ส่วนใหญ่หลับกันหมดแล้ว จึงเดินกลับมานั่ง round chart  ขณะนั่ง round chart  ได้ประมาณ 5 chart  คนไข้ที่ไปตรวจ CT ก็ถูกส่งตัวกลับมาที่ ward  ไม่นานนัก ฉันเห็นอาจารย์หมออรุณีเดินเข้ามา  คิดในใจว่าคงเป็นเรื่องด่วนเกี่ยวกับ  Case นี้แน่แน่เลย  อาจารย์จึงถูกปลุกมากลางดึกอย่างนี้ อาจารย์หมออรุณี  เป็นหมอที่ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักศึกษาแพทย์โดยเฉพาะในระบบสุขภาพที่เราอยากเห็นหมอที่มีหัวใจที่อ่อนโยนต่อความเป็นมนุษย์  ดูแลรักษาคนไข้ด้วยความมีเมตตา และอาจารย์มักจะให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของทีมทำงานโดยเฉพาะพยาบาลอย่างพวกเราเสมอ

  สวัสดีกุ้ง ช่วยหาห้องให้อาจารย์หน่อย พอดีจะคุยกับคุณพ่อ คุณแม่คนไข้ อาจารย์หมอทักทายฉันพร้อมกับขอความเห็นในการเลือกสถานที่ เพื่อพูดคุยกับครอบครัวคนไข้  ฉันพาอาจารย์เข้าไปที่ห้องพักนักศึกษาแพทย์ที่ดูแล้วเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัว ฉันคงเดาไม่ผิดว่าอาจารย์กำลังหาห้องเพื่อใช้ในการการแจ้งข่าวร้าย ( Breaking bad news ) แน่นอน  หลังจากเชิญทุกคนนั่งลงแล้วฉันเดินออกมาหาแก้วกับพี่สุทินเพื่อนร่วมทีมการพยาบาลวันนี้พร้อมกับแจ้งให้ทั้งสองคนทราบถึงภารกิจที่ฉันกำลังทำอยู่    ตอนนี้กุ้งอยู่ในห้องกับอาจารย์นะคะอาจารย์กำลังจะคุยกับพ่อแม่น้องอาร์ม  ก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องฉันไม่ลืมที่จะหยิบแบบบันทึกการแจ้งข่าวร้าย ที่ทีมได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการจดบันทึกกิจกรรมการแจ้งข่าวร้าย และทุกครั้งที่มีการแจ้งข่าวร้ายกับคนไข้ พยาบาลคือหนึ่งในทีมการดูแลที่ต้องเข้าไปด้วย

            เวลาประมาณตีหนึ่ง   เป็นเวลาที่หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในวิชาชีพให้บริการสุขภาพคงหลับใหลกันหมดแล้ว แต่ฉันและทีมสุขภาพซึ่งประกอบไปด้วยอาจารย์หมออรุณี  หมอเวรวันนั้นคือหมอนิตยาและ หมออุ่นใจ รวมทั้ง นักศึกษาแพทย์ปี 6 หรือที่เราเรียกว่า Extern  กำลังปฏิบัติหน้าที่และหน้าที่ในวันนี้คือการแจ้งข่าวร้ายครอบครัวคนไข้เด็กมะเร็งที่อาการหนักทรุดมากจนเกินจะรักษาเยียวยาได้แล้ว โดยวัตถุประสงค์ของการแจ้งข่าวร้ายคือการพบครอบครัวเพื่อพูดคุยให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและอาการผิดปกติที่ตรวจพบ ที่สำคัญคือเพื่อขอความเห็นและการตัดสินใจในการเลือกที่จะรักษาลูกของเขาต่อไปอย่างไร

บทสนทนาเริ่มต้นขึ้น หมอนิตยานะคะ และทั้งหมดคือทีมการดูแลรักษาในวันนี้  หมอนิตยาเริ่มต้นทักทายและแนะนำตัวกับพ่อแม่เด็ก  หมอจะขอเล่าอาการของน้องอาร์มให้คุณพ่อคุณแม่ฟังนิดนึงนะคะ คือว่าอาการตอนแรกที่น้องอาร์มมามีอาเจียนแล้วก็มีชักหมอจึงพยายามหาสาเหตุของการชัก คิดว่าน่าจะมีอะไรในสมอง จึงได้ส่ง ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองผลปรากฏว่าน้อง มีเลือดออกในสมองและออกค่อนข้างมากอาการของน้องตอนนี้ถือว่าหนักทีเดียวนะคะคุณพ่อคุณแม่  ฉันนั่งอยู่ข้างคุณแม่อาร์ม ทำให้พอจะมองเห็นดวงตาที่แดงก่ำ บ่งบอกให้ทราบว่าก่อนหน้านี้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ฉันเอามือแตะไหล่แม่น้องอาร์มเบาๆ

ไม่มีเสียงตอบจาก ทั้งพ่อและแม่  อาจารย์อรุณีจึงพูดเสริมขึ้นว่า หมอจะพยายามเต็มที่นะคะ แต่ด้วยอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้คือ เลือดออกทั่วสมอง ซึ่งสมองทำหน้าที่ควบคุมการทำงานทุกส่วนของร่างกาย ตอนนี้จากการตรวจร่างกายน้องอาร์ม น้องไม่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นใดใด ใช้ไฟฉายส่องตาก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ตอนนี้หมออยากให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมใจไว้ หากน้องหยุดหายใจกะทันหัน  หมอคิดว่าเหตุการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นได้  อาจจะอีกไม่กี่ชั่วโมง  วันนี้ หรือพรุ่งนี้  หมออยากจะถามคุณพ่อ คุณแม่ ถ้าน้องหยุดหายใจ จะให้เราปั๊มหัวใจหรือไม่  ไม่ให้ปั๊มค่ะ นี่คือประโยคแรกที่แม่น้องอาร์มเริ่มสนทนาโต้ตอบกับทีม แต่เป็นประโยคที่ขัดแย้งกันกับผู้เป็นพ่อซึ่งบอกกับเราว่า  ผมคิดว่าจะให้ปั๊มครับ     อันนี้อยู่ที่การตัดสินใจของคุณพ่อ คุณแม่นะคะ ตอนนี้อาจจะยังคิดอะไรไม่ออกและยังไม่ได้คุยกัน เอาไว้ถ้าหากตัดสินใจอย่างไรแล้วจึงค่อยบอกคุณพยาบาล บอกหมอก็ได้ แต่ตอนนี้หมอขอแจ้งอาการน้องให้ทราบตามความเป็นจริง และอยากบอกคุณพ่อ คุณแม่ว่าให้ทำใจเตรียมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามที่หมอได้บอกไว้ด้วย  มีอะไรจะถามหมอเพิ่มเติมมั๊ยคะ อาจารย์หมออรุณีกล่าวประโยคสุดทิ้งท้ายไว้ให้กับพ่อแม่น้องอาร์มได้คิด จากนั้นเราทุกคนก็แยกย้ายออกมาทำงาน  แต่หน้าที่ของฉันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ฉันเดินมาหยิบแบบบันทึกการรับทราบข้อมูลสำหรับครอบครัว และแบบแสดงความประสงค์ยุติหรือช่วยฟื้นคืนชีพเพื่อให้หมออุ่นใจบันทึกสิ่งที่เราได้พูดคุยกับครอบครัววันนี้ จากนั้นฉันเดินไปที่เตียงหมายเลข 13เพื่อนำเอกสารที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วให้พ่อแม่น้องอาร์มช่วยเซนต์  ภาพที่เห็นคือเด็กชายรูปร่างผอมนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียง  ตาข้างขวาปิดด้วยกล๊อส  หายใจผ่านทางท่อช่วยหายใจ   ฉันค่อยๆนั่งลงข้างๆผู้เป็นแม่ พร้อมกับประโยคคำถามที่เป็นคำถามเดิมที่เราคุยกันในห้อง   แม่น้องอาร์มยังยืนยันว่าจะปั๊มหัวใจน้องอยู่ใช่มั๊ยคะ  แม่อาร์มผงกศรีษะ  บอกให้ทราบว่าคำตอบยังเป็นเช่นเดิม  ดังนั้นฉันจึงยื่นปากกาเพื่อให้ใครคนใดคนหนึ่งเซนต์แสดงเจตนา และก่อนที่จะเดินจากมา ฉันกล่าวประโยคทิ้งท้ายว่า ทุกคนทำดีที่สุดแล้ว  คุณพ่อกับคุณแม่ก็ทำดีที่สุดแล้วดูแลลูกดีมากๆเลย  หากจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้ตั้งสติให้ดี วันนี้ขอให้ทั้งพ่อและแม่ช่วยกันดูแลลูกอนุญาตให้เฝ้าได้ทั้งสองคนนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ตลอดคืน การดูแลน้องอาร์มเป็นไปตามปกติ แต่ปัญหาของน้องคือความดันโลหิตต่ำตลอดบ่งบอกให้ทราบถึงสัญญาณชีวิตที่ไม่ค่อยจะดีนัก  ทั้งพ่อและแม่ก็นั่งเฝ้าดูอาการของลูกด้วยความห่วงใย ไม่กล้าแม้แต่จะหลับตาลง

จนกระทั่งเช้าหลังจากที่ทำงานในส่วนที่รับผิดชอบเสร็จแล้ว ฉันเดินมาหาพ่อกับแม่น้องอาร์มอีกครั้ง พร้อมกับพูดให้กำลังใจ เห็นใจคุณพ่อ คุณแม่อยู่นะคะ เข้าใจว่าตอนนี้ความรู้สึกเป็นอย่างไร  สงสารน้องเหมือนกันค่ะ แต่โรคและอาการตอนนี้ ค่อนข้างเป็นเยอะ สังเกตว่าน้องไม่รู้สึกตัวเลย หายใจก็หายใจตามเครื่องช่วยหายใจ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะคะ พูดจบแม่หันมามองฉันด้วยสายตาที่เป็นมิตรพร้อมบอกกับฉันว่า   ตกลงฉันคุยกันแล้วกับพ่อเขามีความเห็นตรงกันว่าจะไม่ปั๊มน้องนะคะ เอางั้นเหรอคะคุณแม่  ฉันถามย้ำถึงการตัดสินใจครั้งใหม่ของครอบครัว  ฉันคิดว่าปั๊มไปก็มีแต่จะทรมานลูก ปล่อยให้เขาไปสบายดีกว่า แม่อาร์มยืนยันคำเดิม

ได้ค่ะคุณแม่เดี๋ยวจะแจ้งให้คุณหมอทราบด้วยนะคะ เพราะจะได้เข้าใจและรับทราบแผนการดูแลน้องที่ตรงกัน  พูดจบฉันเดินออกมาแจ้งถึงการตัดสินใจล่าสุดของพ่อแม่น้องอาร์มให้ทีมการพยาบาลที่ดูแลน้องอาร์มคือพี่สุทินรับทราบเพื่อจะได้ส่งเวรให้กับเวรเช้าได้รับทราบตรงกันพร้อมกับแจ้งหมอเจ้าของไข้คือหมออำนวยพรด้วย.......................

จบภารกิจของวันนี้ ฉันถามตัวเองว่าได้อะไรจากกรณีของน้องอาร์ม

1.   การแจ้งข่าวร้าย การพบครอบครัวทันทีที่พบความผิดปกติของผู้ป่วยเป็นสิ่งที่ทีมควรจะทำ เพราะเป็นสิ่งที่รอไม่ได้  เพื่อป้องกันข้อกังขาที่เกิดในใจของพ่อแม่ จึงควรพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม  แต่ไม่ทำลายความหวัง

2.   การตัดสินใจของครอบครัวถือเป็นที่สิ้นสุด เป็นสิทธิที่จะเลือก ทีมมีหน้าที่ให้ข้อมูล ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับตัวโรคและการดำเนินไปของโรค

3.      ลายลักษณ์อักษรควรทำทันทีหลังการพูดคุยกับครอบครัว

4.   การตัดสินใจของครอบครัวอาจเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมาได้และทีมควรเคารพการตัดสินใจของครอบครัว

แล้วทุกท่านคิดอย่างไรคะกับกรณีน้องอาร์ม

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 265337เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2009 23:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2012 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีค่ะ  มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ผมชอบประเมินความยากง่ายเองก่อน ถือว่ากรณีนี้ ยากที่สุด เพราะ

  • เป็นในเด็ก
  • เกิดเหตุการณ์ค่อนข้างเร็ว ตั้งรับไม่ทัน
  • การพยากรณ์โรค ผลการรักษาไม่ดี

จะแตกต่างจาก การแจ้งข่าวร้าย อื่น เช่น ผู้ป่วยอายุมาก อาการค่อยเป็นค่อยไป และยังพอมีหนทางดูแลรักษาให้คนไข้ไม่ทุข์ทรมานมาก

เมื่อต้องดูแลคนไข้กรณี ยาก อย่างข้างบน ผมจะให้ความสำคัญเรื่อง เวลาที่เราให้ครอบครัว หลังการแจ้งข่าวร้าย ซึ่งมีคนใช้คำพูดว่า ให้ทำตัวเหมือน..ผ้าอนามัย .. ซึมซับทุกอารมณ์

ได้อ่านวิธีการทำงานของทีมที่มข.แล้ว ต้องบอกว่า ทั้งด้วยใจและด้วยระบบ ขอชื่นชมครับ

 

เห็นด้วยกับพี่เต็มเรื่องความยากครับ palliative care in children เป็น speciality field ของ palliative care เพราะเหตุนี้เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง

บางครั้งกว่าที่ครอบครัวจะ grap reality ทั้งหมดว่าลูกน้อยกำลังจะจากไปเป็นเรื่องที่ใช้เวลาและต้องการพื้นที่ปลอดภัย ที่ทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยและปรึกษากันให้ทะลุปรุโปร่ง ข้อสำคัญคือไม่มี pressure ที่ว่าต้องตัดสินใจเดี๋ยวนั้น หรือภายในเวลาอันสั้นมาก เพราะกระบวนการ grief & bereavement process รวมถึงการกำจัด guilt ในอนาคตที่จะเกิดจากความรู้สึกเราไม่ได้ให้ ไม่ได้ทำเต็มที่ ซึ่งอาจจะกลายเป็น scar ของครอบครัวในระยะยาว

ในช่วงเวลานี้ หากครอบครัวทำใจได้ อาจจะเสนอแนะว่าหากพ่อกับแม่มีอะไรจะพูดกับลูกก็ให้กระทำได้ เพราะประสาทหูอาจจะยังได้ยิน บางที last-long conflict อาจจะต้องการคำขอโทษ หรือให้อภัย ในภาพยนต์เรื่อง Go Towards The Light ฉากที่พ่อนอนคุยกับลูกและบอกว่าพ่อภูมิใจที่ได้มีโอกาสเป็นพ่อของลูก และตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมีความหมายเพียงใด เมื่อชมแล้วเป็น process ที่เกิดการเยียงยาในระดับจิตวิญญาณได้ทีเดียว

ขอชื่นชมการทำงานและกระบวนความคิดในการทำงานของทีมด้วยครับ

มาอยู่ ward AE4 เกือบปี ไม่มี case dead เลย ..ชักจะลืมกระบวนการ

มาทบทวนจ้ะ..

อ้อ อย่าลืมเอื้ออำนวยความสะดวก และยืดหยุ่นกฏระเบียบ ต่างๆ เช่น การจำกัดเวลาเยี่ยม เป็นต้นค่ะ

สวัสดีครับ คุณสุธีรา

  • ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม ไปส่งเพื่อนคนนี้กลับบ้าน
  • ถ้าหากมีโอกาส เราคงจะได้พบกันใหม่
  • ขอให้โชคดีตลอดไปนะครับ

P ขอบคุณพี่เกศที่มาทักทายเเต่เช้า หวังว่าเมื่อคืนพี่เกศคงได้พักผ่อนไม่มีโทรศัพท์ตาม เจอกันพร่งนี้ที่ 3ง ค่ะ

P สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ครูป้อม ตื่นเเต่เช้าเหมือนกันนะคะ

P อาจารย์หมอเต็ม กุ้งก็ชอบคิดเหมือนอาจารย์ในการทำ  palliative จะเจอทั้งโจทย์ง่าย โจทย์ยาก เเต่ว่าโจทย์เเต่ละข้อที่ได้รับ นอกจากเราจะได้เรียนเเก้โจทย์ไปพร้อมๆกันกับทีมแล้ว เราก็ยังได้เรียนรู้ตามโจทย์นั้นๆด้วย อีกอย่างที่อาจารย์บอก ให้ทำตัวเหมือน..ผ้าอนามัย .. ซึมซับทุกอารมณ์ ชอบจังค่ะ เราควรจะเป็นอย่างนั้น นั่นคือเราเข้าใจอารมณ์เเละปฏิกิริยา ที่เกิดและเเสดงออกมาของครอบครัวนั่นเอง เราถึงยอมเป็นผ้าอนามัย  case นี้สุดท้ายครอบครัวขอนำผู้ป่วยกลับไปเสียชีวิตที่บ้านในเช้าวันต่อมาค่ะ

P ท่านกูรูอีกคนของ palliative care อาจารย์หมอสกล ดีใจที่อาจารย์แวะมาเยี่ยมและมาให้กำลังใจกับคนทำงานและคนที่รักในงานการช่วยเหลือคนไข้ระยะสุดท้าย จริงๆเเล้วอยากจะเรียนอาจารย์ว่าในวันที่ได้ไปฟังทีมจาก มอ. ซึ่งวันนั้นมีอาจารย์หมอเต็มและอาจารย์สกล พี่ฟ่ง กานดาวศรี พูดในเวที HA Forum ปี 49 วันนั้นพอฟังเวทีใหญ่ เสร็จก็ตามไปเชียร์พี่เกศต่อห้องย่อยที่มีอาจารย์เป็น modurator วันนั้นถือเป็นวันหนึ่งที่จุดประกายให้คิดอยากทุ่มเทให้กับงาน palliative care  และกลับมาก็ speed อย่างเเรงซึ่งตัวหนูเองก็ได้ช่วยในส่วนของ ward nurse ซึ่งอยู่หน้างาน  palliative ให้อะไรหลายอย่างอย่างที่อาจารย์พูด "ได้เรียนรู้ชีวิตจากชีวิต" และสุดท้าย " ถึงชีวิตสิ้นถืออุเบกขาเป็นอาวรณ์" ชอบคำนี้มากค่ะที่อาจารย์พูดไว้ วันนี้ดีใจค่ะที่ได้เจออาจารย์ที่นี่ หนูต้องเรียนว่าอาจารย์หมอเต็มกับอาจารย์นั้นมีเกร็ดความรู้ในเรื่อง palliative มากมาย จะพยายามเก็บเกี่ยวไปเป็นเเนวทางในการทำงานต่อไป "บางครั้งกว่าที่ครอบครัวจะ grap reality ทั้งหมดว่าลูกน้อยกำลังจะจากไปเป็นเรื่องที่ใช้เวลาและต้องการพื้นที่ปลอดภัย ที่ทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยและปรึกษากันให้ทะลุปรุโปร่ง ข้อสำคัญคือไม่มี pressure ที่ว่าต้องตัดสินใจเดี๋ยวนั้น หรือภายในเวลาอันสั้นมาก เพราะกระบวนการ grief & bereavement process รวมถึงการกำจัด guilt ในอนาคตที่จะเกิดจากความรู้สึกเราไม่ได้ให้ ไม่ได้ทำเต็มที่ ซึ่งอาจจะกลายเป็น scar ของครอบครัวในระยะยาว"  ขอบคุณอาจารย์ที่มาให้คำเเนะนำค่ะ

P ขอบคุณพี่ดาที่มาเยี่ยมกุ้ง หายไปนานไม่เห็นเขียนบันทึกเลยช่วงนี้ ถึงอย่างไรก็ดีใจด้วยกับ APN คนเก่งค่ะ

ถึงพี่กุ้งคนเก่ง ยาต้องใช้ความพยายามสูงกว่าจะซ่อมคอมที่แฮ๊ง(ซ่อมเองค่ะลองผิดลองถูก)วันนี้หลังจากที่เราร่วมแรงร่วมใจทำ Case conference เสร็จแล้ว ก็กลับมาห้องทำภาระกิจส่วนตัวต่างๆเสร็จแล้ว เลยลองซ่อมคอมดูเผื่อว่าจะใช้ได้ ก็อธิฐานและภาวนาให้ใช้ได้ ปรากฏว่าปาฏิหาริย์มีจริง คอมใช้ได้จริงๆค่ะ ดีใจมากท้อมาหลายวันแล้ว เลยรีบเคลียงานต่างๆจนเสร็จก็ 5 ทุ่มกว่าแล้ว แต่ยังไม่ง่วง สงสัยฤทธิ์กาแฟแน่ๆเลย ก็เลยแวะเข้ามาทักทาย ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆอย่าง เราทำสิ่งที่ดีและถูกต้องเหมาะสมแล้ว ไม่ว่าจะเจออุปสรรคหรือปัญหาที่ยากสักเพียงใดคิดว่าถ้าเรามีความปราถนาดีกับทุกๆคน รางวัลของความมุ่งมั่นคือความสุขของผู้ให้และผู้รับ และสิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นกับตัวเรา เจอกันพรุ่งนี้คะ ............ราตรีสวัสดิ์คะ

พี่กุ้งถ่ายทอดการทำงานได้ดีจังค่ะ

พี่ยาก็เก่งจริงๆเลย..ว่าไหมคะ

น้องยาขอบคุณมากที่มาเยี่ยมพี่กุ้ง ให้กำลังใยเหมือนกันนะ คิดจะทำอะไรก็ขอให้สำเร็จ

P ใยตาโตคนน่ารัก ขอบคุณที่มาเยี่ยมพี่กุ้ง ช่วงนี้ไม่มีเวลาได้ทานข้าวด้วยกันเลยนะ  เมื่อไหร่ดีจะได้ฟังใยร้องเพลงวันไหนเราจะไปเอฮาคาราโอเกะ ...เอาไว้เดือนหน้าวันเกิดพี่กุ้งจะเลี้ยงเด้อ

เดือนหน้าก็วันเกิดใยเหมือนกัน

ใยขอนุญาติเลี้ยงก่อนนะคะ

P อ๋อใช่..วันที่ 1 ใช่มั๊ย งั้นพี่กุ้งยินดีไม่มีปัญหา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท