เคยสงสัยกันไหมว่า...เมล์ขยะมาจากไหน?

ยุคที่มีการใช้ อินเตอร์เน็ตเพื่อเป็นสื่อโฆษณาสินค้าต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละวันจะมีอี-เมลโฆษณาหรือสแปมเมล์ (spam mail) ถูกส่งมาจากที่ต่างๆ จากทั่วโลกมากมาย ทำให้เซิร์ฟเวอร์เกิดความเสียหาย และผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตถูกก่อกวน เห็นได้ว่ามีเพียงร้อยละ 1 ของที่อยู่ทางอินเตอร์เน็ตที่สามารถเชื่อถือได้ว่ามาจากแหล่งที่ปลอดภัย และมากกว่าร้อยละ 95 ของอี-เมลทั้งหมดเป็นอี-เมลขยะหรือไวรัสต่างๆ

โดย อี-เมลส่วนมากนั้นมีเป้าหมายเพื่อก่อกวนคอมพิวเตอร์ระดับการใช้งานในบ้าน และจากการวิเคราะห์เนื้อหาของอี-เมล์หลายล้านฉบับพบว่า มีอี-เมลที่มีเนื้อหาถูกต้องและมีสาระน้อยกว่าร้อยละ 4 จากจำนวนอี-เมลทั้งหมด

เรื่องนี้งานศึกษายุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)ได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์ บริษัทรักษาความปลอดภัยทางด้านอี-เมล์ Return Path ระบุว่า 99% ของคอมพิวเตอร์ที่บริษัทตรวจสอบจะเต็มไปด้วยอี-เมลขยะจากผู้ก่อกวนหรือจาก นักเขียนไวรัสต่างๆ

 

โดยคำนวณจาก "คะแนนความน่าเชื่อถือ" จากที่อยู่ทางอินเตอร์เน็ต (net addresses)จำนวน 20 ล้านที่อยู่ ซึ่งคะแนนเหล่านั้นได้มาจากการวิเคราะห์ปริมาณอี-เมลที่ส่งผ่านที่อยู่ทาง อินเตอร์เน็ตเหล่านั้น ปริมาณการร้องเรียน (complaints) เกี่ยวกับที่อยู่เหล่านั้น และการที่เจ้าของอี-เมล์เหล่านั้นมีการตอบสนองต่อคำร้องเรียนนั้นๆ หรือไม่

นายแมต์ พีชเช่ ผู้จัดการส่วนภูมิภาคของไอร่อน พอร์ต บริษัทที่ตรวจสอบอี-เมลมากกว่าร้อยละ 25 หรือหนึ่งในสี่ของอี-เมลที่ส่งในอินเตอร์เน็ตทั้งหมด บอกว่า อี-เมล์จำนวนมากกว่าร้อยละ 80 มาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ปริมาณอี-เมล์ที่ส่งไปยังบริษัทใหญ่ๆ นั้น นับวันจะยิ่งมีอี-เมลขยะมากขึ้น และไม่ควรค่าแก่การเปิดอ่าน

จาก สถิติของลูกค้าคนหนึ่งตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ถึง 20 กรกฎาคม 2549 มีอี-เมลที่น่าเชื่อถือได้เพียงร้อยละ 4 เท่านั้น ที่เหลือร้อยละ 70 เป็นอี-เมลขยะ (spam) ร้อยละ 11 เป็นอี-เมลที่ตีกลับหรือข้อความ error ต่างๆ และที่เหลืออีกร้อยละ 9 เป็นไวรัส

 

ส่วน บริษัท Sophos ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัส เปิดเผยรายชื่อประเทศซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอี-เมลขยะต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตพบว่า ร้อยละ 23.2 ของอี-เมลขยะทั้งหมดมีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกาอาจ จะเป็นผลมาจากอินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐ และทำให้หลายๆ คนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขาดการป้องกันทิ้งไว้

อันดับสองของแหล่งกำเนิด spam มาจากประเทศจีนแม้จีนมีอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตต่ำมาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด มากกว่า 123 ล้านคน ในจีนใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ และเกินกว่าครึ่งของประชากรเน็ตดังกล่าวใช้ระบบบอร์ดแบนด์ ส่วนอันดับรองลงมาคือ ประเทศเกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และสเปน ตามลำดับ