วิธีแก้ TAXI มอมยา


อ่านไว้ เพื่อเท่าทันมิจฉาชีพ ก่อนที่จะสายเกินไป  

****************************************************************


Copy มาจาก forward mail ของเพื่อนอีกที จริงเท็จมะรู้อ่านดูเอาเอง

วันนี้ ( วันเสาร์ ) ได้หยุด 1 วัน ก็เลยมาจตุจักร พอประมาณ 6.30 น ก็โบกแท็กซี่หน้าจตุจักรเพื่อที่จะมาวิภาวดีซอย 20 ปกติ เป็นคนระวังตัวอยู่แล้ว ขึ้นรถปั๊บ สิ่งที่ทำสิ่งแรกคือ มองดูทะเบียนรถแล้วก็สังเกตคนขับ อ่านจากฟอร์เวิร์ดเมล์ต่างๆ ขอบอกว่าพวกนี้มีประโยชน์มากๆๆๆๆๆนะคะ วันนี้ที่รอดมาได้ก็เพราะอ่านเมล์ที่เพื่อนๆกรุณาส่งมาให้อ่านนี่ล่ะ  เคยอ่านว่า พวกนี้จะชอบเอามือมาอังไว้ที่แอร์หรือไม่ก็หมุนหน้าปัดวิทยุ ไอ้เจ้าคนขับคนนี้มันทำทั้ง 2 อย่าง แล้วขอบอกมันนิ่งมากๆ ทีแรกพอมันเอามือมาอังที่แอร์ เราก็เริ่มเอะใจว่ามันจะมอมยาตรูป่าววะเนี่ย แล้วมันไม่ได้อังแบบหน้าเกลียดนะ มันแค่เอาปลายนิ้วไปแตะไว้ตรงหน้ากากแอร์อันทางขวาช่วงล่างๆ นิดเดียว ถ้าคนไม่คอยมองก็อาจจะไม่สังเกต... สัก พัก มันก็เอื้อมมือไปหมุนหน้าปัดวิทยุอีก แล้วสักพัก เราก็รู้สึกวูบ...เร็วมากๆ คือหูจะเริ่มอื้อหายใจไม่สะดวก จะรู้สึกอึดอัดมากๆ ตาพร่า และแขนขาไม่มีแรง... อาการแบบนี้เราคุ้นเคยนะ...จากการโดนวางยาสลบผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้เรามั่นใจ ว่ามันเป็นยาสลบแน่ๆ

เสี้ยว วินาทีนั้น เราก็ยื่นหน้าสูดหายใจให้ลึกที่สุด ตอนนั้นรถยังวิ่งอยู่ตรงห้าแยกลาดพร้าว แล้วก็บอกว่า พี่ จอด...ขอลงตรงนี้ แล้วก็ควานหาน้ำมากิน  เพราะ อ่านเมล์อันนึงเค้าบอกว่า ตอนที่เค้ามึนๆ อ่ะ คนขับก็ยกน้ำขึ้นจิบบ่อยมาก ...เรา ก็เลยคิดว่ามันอาจจะช่วยให้เราดีขึ้น แล้วมันก็ช่วยจริงๆ ....อาการวูบหายไป แขนขาเริ่มมีแรง มีอาการมึนหัวเข้ามาแทนที่ ทั้งๆ ที่ก่อนขึ้นรถสมองปลอดโปร่งมาก....อย่างที่บอกอ่ะ มันนิ่งมากๆ แล้วมันคงจะรู้ว่าเรารู้ตัวแล้ว มันคงอยากให้เราลงจากรถมันเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนั้นอยู่เลนขวาสุด เข้าซ้ายไม่ได้ มันก็บอกว่า ลงได้ จะลงเลยมั๊ย แล้วก็ทำท่าจะหักพวงมาลัยกลับรถไปจอดให้ฝั่งตรงข้าม ตอนนั้นนึกได้ว่าเรามีกล้องดิจิตอล และมือถืออยู่ .....ก็ เอาวะ บอกมันว่าไม่ต้อง .....ไปส่งให้ถึงที่น่ะแหละ แล้วเราก็กดโทรศัพท์หาพี่ บอกว่าตอนนี้เราอยู่ที่แยกลาดพร้าวนะกำลังจะไปถึง ตอนนี้อยู่ในแท็กซี่ อีก 10 นาที จะไปถึงออกมารับด้วยล่ะ แท็กซี่เขียวเหลืองนะ เลขทะเบียน มข. 768 ช่วยจำด้วย อีก 10 นาที ใกล้ถึงแล้ว จะโทรหาอีกที

เราเปิดกระจกไว้ตลอด แล้วนั่งให้ชิดประตูมากที่สุด เราก็หยิบ กล้องขึ้นมา แต่ไม่กล้าถ่ายภาพนิ่ง เพราะตอนนั้นก็เกือบทุ่ม แสงน้อย แล้วอีกอย่างไฟถนนมันสว่างกว่าในรถ ถ้าใช้แฟลช มันรู้ตัวแน่ ก็เลยปรับเป็นถ่ายวีดีโอ แต่จะไม่ส่องที่ตัวมันโดยตรง แพนกล้องไปเรื่อยๆ หยุดอยู่ที่มันเป็นระยะ แล้วมันคงจะเป็นมืออาชีพ .. ที่ตลอดเวลา มันไม่หันหน้ามาให้เราเห็นเลย ข้างๆ ก็ไม่หันอ่ะ มีเหลือบๆ มองที่กระจกบ้าง .. แล้วภาพที่ถ่ายออกมาก็ค่อนข้างมืด แต่ก็พอระบุรูปพรรณได้เหมือนกัน เพราะมันค่อนข้างผมหยิกและผอม ........

ก็มาถึงที่หมาย ตรงนั้นมีรปภ. นั่งอยู่หลายคน พอลงจากรถแล้วมันก็ไม่ยอมไป เราก็เลยเดินไปตรงที่มีรปภ. นั่งอยู่เยอะๆ มันก็เลยขับออกไป....โทรไปเล่าให้พี่คนนึงฟัง เค้าก็บอกลองโทรไปที่ 1644 ก็เลยเล่าให้เค้าฟัง สักพักก็มีคนโทรกลับมา บอกว่าให้เราพูดออนแอร์กับคุณพรสวรรค์ สวพ. 91 ร่วมด้วยช่วยกัน ตื่นเต้นเล็กๆ เค้าก็ถามถึงวิธีเอาตัวรอด ไม่รู้จะมีใครเอาไปใช้ได้มั๊ย แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะ

ตอนนี้กลับมาถึงบ้านโดยปลอดภัย แต่ก็รู้สึกคลื่นไส้และมึนๆอยู่ ปกติไม่ค่อยชอบนั่งแท็กซี่เท่าไหร่ เพราะก็กลัวๆ เรื่องพวกนี้เหมือนกัน ไม่นึกว่าจะเจอจริงๆ อืมนะ ...........ใกล้ตัวมากๆ เพื่อนๆ ก็ระวังตัวกันด้วยนะ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรารอดพ้นจากสถานการณ์บัดซบพวกนี้ได้ ต้องขอบคุณคุงเม้ง(ที่น่ารัก) จริง ๆ เลยที่เอามาลง

*******************************************************

จากกรณีข้างต้น...ความเห็นส่วนตัว คิดว่า...คนเล่าเธอมีสติที่ดี แต่....สำหรับหลายๆ คน อาจจะไม่เหมือนกันนะ
ถ้าเกิดเหตุการณ์กับตัวคุณเอง...ควรระวังตัวมากกว่านี้....จากจุดอ่อนที่เห็นในเหตุการณ์

1. ถ้ารู้สึกว่า อาการโดนมอมยาเกิดแล้ว...ไม่ควรนั่งอยู่ต่อไป (ถ้าคุณไม่ได้พกน้ำดื่มอยู่ล่ะ) ดังนั้น ควรจะออกจากรถคันนี้ให้เร็วที่สุด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่า อยู่ในสถานที่แบบใด ถ้าเป็นท้องถนนจอแจ... หาที่ลงเลยค่ะ...บอกให้จอดตามป้ายรถเมล์ที่มีคนเยอะๆ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า

2. การถ่ายรูป...สติดีมากค่ะ ที่คิดจะหาหลักฐาน แต่สภาพร่างกายที่มึนๆ อาจจะเป็นช่องโหว่ ถ้ามันมาเหนือเมฆ มีอาวุธ ทำร้ายร่างกายคุณได้ จากที่เคยดูรายการทีวี...เขาสามารถเหลียวหลัง เอามีดจ้วงแทง ได้เลย ผู้ชายมีกำลังและความว่องไว เราคงสู้ไม่ได้แน่นอน...อันตราย คาดไม่ถึงอาจจะตามมา

3. เหตุการณ์ที่ได้อ่านมาหลายครั้ง เหยื่อ จะไม่มีเรียวแรงทำอะไรต่อได้ (หนีลงจากรถได้ก็บุญแล้ว ) คงไม่มีทางจะวิ่งไล่จับไอ้พวกนี้ได้ (เหมือนในหนัง)  ไม่รู้ว่าถ้าเป็นได้ ..ลงที่ๆ คนเยอะๆ แล้วมีแรงพอตะโกนบอกคนให้ช่วยกันจับไอ้ Taxi เลวๆ พวกนี้ได้ บ้าง คงจะช่วยไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ต้องตกเป็นเหยื่อมันรายต่อๆ ไป (อันนี้คิดเอง...เพราะถ้าเจอกับตัวเอง แรงตะโกนก็คงไม่มี ก็ได้ )

ดังนั้น...การอ่านสิ่งเตือนภัยเหล่านี้...คงช่วยให้เรามีสติ พอทำให้เราหนีจากเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ได้ ช่วยกันส่งต่อๆ ไป...เป็นประโยชน์กับทุกๆ คน (ถ้าคิดว่าดี ไม่ได้เป็นเมล์ขยะ...)


ขอบคุณที่มี forwarded mail ดีๆ ... อยู่ที่จะเลือกว่า จะอ่านหรือไม่อ่าน ฮ่าๆๆ ไม่เอา เมล์ลูกโซ่ละกัน

 

 

หมายเลขบันทึก: 264758เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 12:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 04:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาเตือนค่ะ..
  • มีประโยชน์มากจริงๆ
  • แล้วจะนำไปบอกต่อนะคะ..
  • ขอบคุณอีกครั้งค่ะ..

ใช่ค่ะ เห็นด้วยมีประโยชน์มากๆ

เจ้ ค่ะ ถ้าอย่างนั้น ปีหน้ากลับไปเก็บข้อมูลเมืองไทย

เจ้ ต้องมารับหนู แล้วกลับเป็นเพื่อนจากสุวรรณภูมินะ

สัญญาหละ

กลัวเหมือนกันอ่ะ

ตั่วเอง

นึกถึง"สาวเอย จะบอกให้"เรื่องที่สาว ๆ ทั้งหลายควรจะรับรู้จะได้ไม่ต้องเสียทีคนชั่ว ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท