นัดตรวจ..หลังผ่าตัดสมอง


ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ...เหมือนโบราณว่า

จากเดิม..คราวที่แล้วผู้เขียนได้เขียนเรื่อง...สามีผ่าตัดสมอง เมือ่ฉันท้อง 6 เดือน  .. http://gotoknow.org/blog/k-1/251962

 คราวนี้ก็มาถึงวันหมอนัดหลัง 6 เดือนกันแล้ว...จำได้ว่าวันที่ 3 เมษายน 2552 ข้าพเจ้าขออนุญาตออกนอกค่ายฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือ ATC (ทั้งที่เพิ่มเข้าค่าย บ่ายวันที่ 2 เม.ย.เอง) เป็นวันเปิดค่ายลูกเสือที่มีการเปิดกองและพิธีรับลูกเสือใหม่...แต่ข้าพเจ้าก็ไม่อาจเย็นใจฝึกลูกเสือต่อไปได้..จึงต้องขอไปฟังผลตรวจซ้ำกับหมอ...

    ขณะที่รอคิวรับฟังผลนั้นข้าพเจ้ามองรอบๆ ตัวคนเยอะมากทั้งแผนกอื่นและศัลยกรรมชาย...ดูเหมือนว่าคนที่ได้รับการผ่าตัดสมองจะมีจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กหนุ่มๆ วัยรุ่นจะเยอะมาก ข้าพเจ้าก็เดาเอาว่า..บางคนอาจจะปวดหัวมากเป็นเนื้องอก..หรือเป็นเพราะอุบัติเหตุกันแน่...แต่ก็ไม่กล้าจะสนทนากับใคร..

   ถึงคิวหมอเรียกสามีของข้าพเจ้าเข้าไปพบหมอสอบถามอาการแล้วก็ให้ไป     X-ray ที่ห้องรังสีอีกครั้ง...ประมาณ เกือบชั่วโมงก็นำฟลิ์มกลับมาหาคุณหมออีกครั้ง...

   ฟลิ์มที่หมอชี้ให้ดูถ้าไม่อธิบายก็คงไม่รู้ว่าอะไร คืออะไร...แต่ที่ข้าพเจ้าเห็นชัดเจนคือรอยบุ๋มของก้อนลักษณะกลม...ตรงกลางข้างบนมีรอยแยกคล้ายกับรูปหัวใจ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืออะไร...คุณหมอสันนิษฐานว่า...เป็นรอยแยกของเนื้อที่คุณหมอผ่าแล้วแหวกไปตัดก้อนเนื้อ...คุณหมอก็เลยบอกว่า..ไม่น่าเป็นห่วงแต่ก็จะนัดอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2552 ( ประมาณอีก 3 เดือน) ซึ่งก็จะเป็นเวลาเกือบปี.....คุณหมอสั่งลดยากันชักลงจาก 3 มื้อ เหลือ 2 มื้อหลังอาหาร(เช้า-เย็น) คือปกติ ทุกคนที่ผ่าตัดสมองจะต้องกินยานี้ทุกคน!!

    อีก 8 วันถัดมาสามีข้าพเจ้ามีอาการชัก (ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นกับตาเพราะไปรับลูกที่ต่างจังหวัด)ในตอนกลางวัน ขณะกำลังนอนดูโทรทัศน์...โชคดีที่ย่า (แม่ของสามี) มานอนดูโทรทัศน์อยู่ใกล้ๆ ปกติท่านไม่ค่อยไปหาที่บ้านเท่าไหร่...ก็เลยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง....ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาหารชัก มีดังนี้

       1.  อาจจะนอนดึก

       2.  ใช้สายตาเพ่งมองโทรทัศน์หรือComputer เป็นเวลานาน

       3.  อาการเครียด

       4.  ดิ่มสุราหรือของมึนเมา

........สรุปว่าสามีข้าพเจ้าคงเกิดจาก ข้อ 1 และข้อ 2..........

.......ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าชีวิตคนเรานี้ก็ไม่แน่นอน...คนเราถ้าไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแล้วก็ถือเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่แล้ว...

หมายเลขบันทึก: 263478เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2009 11:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

สวัสดี ครับ คุณ

P pikul

ผมมาเป็นกำลังใจ ให้ นะครับ

มีพลังของหัวใจ...เพื่อยืนสู้ได้อย่างยาว นาน เท่าใจคิด นะครับ

ส่งความสุขของสายฝนมาฝาก ครับ

 

  • ขอบคุณคุณP แสงแห่งความดี
  • สมชื่อเลยนะคะ...ที่มามอบความดีให้คนอื่น
  • ขอบคุณอีกครั้ง

สวัสดีค่ะ

* เป็นกำลังใจให้สุขภาพแข็งเร็ววันค่ะ

* สุขกายสุขใจนะคะ

สวัสดีค่ะ

มาเป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอให้ผ่านเรื่องร้ายๆ...สู้ๆนะคะ

มองโลกในแง่ดีไว้...ลูกคือกำลังใจ

น้องโตมากแล้วเนาะ น่ารักทุกคน

มาเป็นกำลังใจ

ให้มีพลังความดี ค้ำชูทั้งสองท่าน ได้เกื้อหนุนกันไป

และสู้ต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะ...

   * เป็นกำลังใจให้นะคะ...

   * เมื่อมีพลังและกำลังใจ...อุปสรรคทุกด้านจะผ่านไปค่ะ...

   * ขอคุณพระคุ้มครองนะคะ...

    

สวัสดีค่ะ

มาเป็นกำลังใจ

ดอกไม้สวยๆจะได้สดชื่นนะคะ

บุญรักษานะคะ..ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดีครับคุณ พิกุล แวะไปอ่านบันทึก นางงามมาแล้วด้วย มาให้กำลังใจ ครับ

  • ขอให้คุณ  pikul  เข้มแข็งให้มาก ๆ นะคะ ยามนี้เราจะเป็นเสาหลักค้ำจิตใจของครอบครัว  เวลาที่เรามีกำลังใจดี ๆ สามีเห็นแล้วก็จะรู้สึกดีตามเราไปด้วยค่ะ
  • จากประสบการณ์ตรง เวลาศิลาเห็นแฟนมีปัญหาทุกข์ใจ แล้วศิลาเครียด  เขาก็จะท้อแท้ไปด้วย  แต่หากว่าลองพลิกอารมณ์ดู  ปรากฎว่าอาการกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตาเห็นค่ะ
  • อาการป่วยของกาย มีแรงผลักดันมาจากภายในด้วยค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้ภายในของคุณ pikul   และสามีแข็งแกรงค่ะ
  • พี่ชายมาแล้วครับ
  • อ่านแล้วเห็นใจมาก
  • ต่อแต่นี้ไปจะโชคดีขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ

พ่อดิฉันก็เป็นเหมือนกัน

อาการดีขึ้นมากแล้ว

เดินได้เอง

ทำงานบ้านได้

กินข้าวได

แต่อาการกลับทรุดลง

หมอบอกว่ามีน้ำออกที่สมอง

ต้องผ่าตัดอีกรอบ

เพื่อเอาน้ำออก

เราไม่รู้จะทำอย่างไร

กลัวพ่อไม่ฟื้น

เพราะรอบที่แล้วเกือบ 2 เดือน ที่พ่อจะฟื้น

ดิฉันอย่างทราบว่าคนที่ผ่าหัวสมองในช่วงอาย65ปีนั่นจะมีอาการหลังจากการผ่าตัดอย่างไร และ จะมีผลข้างเขียงอย่างไร เพราะอาการแม่ของแฟนดิฉันนั่นผลข้างเขียงที่ได้มานั้นคือมีอาการแบบหายใจไม่ออกและจะมีสเรนเยอะมากและยังมีอาการปอดติดเชื่อมาอีกเป็นมาจากสาเหตุอะไรและมันมีส่วนเกียวกับอายุด้วยรึเปล่ในดันา ส่วนดิฉันเองอย่างจากคุณหมอน่ะค่ะ

สวัสดีคะ...สามีดิฉันอายุ 42 ปี ก็ผ่าตัดสมองเพราะว่าเส้นเลือดในสมองแตกสาเหตุก็มาจากความเครึยดหนักจากการทำงานไม่มีเวลาพักผ่อน นอนดึก และดื่มสุราหนักมาก นับได้ว่าทำทุกวัน ตอนนี้ก็อยู่ที่ห้องไอซียู หลังผ่าตัด ออกมาได้3-4 ชั่วโมง พูดได้ชัดมากและหลังจากนั้นอีกวัน ก็อาการเหมือนหลังผ่า แต่พอมาอีก สองสามวันหลัง มีอาการนอนอย่างเดียวสลึมสลือ ปลุกก็ตื่นมาและก็หลับไปอีก และทางซีกขวาของสามีดิฉันก็ไม่สามารถขยับได้ ตอนนี้อยู่ที่รพ.ได้ประมาณ สิบวันแล้วอาการก็ยังคงที่ พอไปเยี่ยมเห็นสามีนอนและไม่รู้สติ ใจข้างในของดิฉันมันรู้สึกเจ็บรู้สึก ว่าทำไมมันจะต้องมาเกิดกับตัวเองแบบนี้ แต่ก็ไม่ท้อนะคะ สู้และอดทนกับมัน บอกกับตัวเองในใจเสมอว่าสามีจะต้องรู้สติและสามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้อีก อย่างแน่นอน เพราะคนเรามันก็ย่อมมีหวัง ถ้าเราไม่หมดหวังเองซะก่อน ทุกวันให้กำลังใจตัวเอง เพราะอยู่ต่างประเทศ เล่นเนตหาข้อมูล แลกเปลี่ยนกับผู้ที่รู้ ก็มีกำลังใจขึ้นมากคะ และ ความรู้สึกของคุณพิกุลดิฉันก็ทราบคะว่ามันทุกข์และทรมารมากที่คนที่เรารักต้องมาเจ็บแบบนี้ ให้กำลังใจ จากใจ คะ สู้และอดทนนะคะ ใจเราไม่ท้อซะอย่าง วันหนึ่งทุกอย่างจะดีขึ้น ..สู้ไว้คะ

คนที่ผ่าตัดเนื้องอกสมอง

ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ หลังจากได้อ่านข้อความแล้ว ดิฉันเคยผ่าตัดตั้งแต่ปี 2547 แทบแย่ หลังจากนั้น ดิฉันเข้าวัดตลอดเลยค่ะ(ทำบุญมากๆ ค่ะ และที่สำคัญอาการชัก ยอมรับค่ะว่าทรมาร(ขอโทษที่ต้องใช้คำว่า"มาร"ตัวนี้ สำหรับคนที่ไม่เคยเกิดอาการชัก กล้ามเนืื้อปวดมากแทบไม่อยากจะเดินเลย ขยับยังไม่ได้เลย และช่วงเวลาที่ชักมันเหมืือนหายใจแทบไม่ออกเลย แล้วทุกวันนี้เหมืือนลูกแง่ค่ะ นอนก็ต้องนอนกับคุณแม่ เพราะ คุณแม่จะคอยดูเราเรียกเราให้รู้สึกตัวตลอดที่เวลาเราเกิดอาการชัก แค่ป่วยก็ไม่ได้ น่ะค่ะ โรคนี้คนไม่เป็นไม่รู้ว่าทรมารแค่ไหน อยู่ดีๆ มือเท้าก็อ่อนแรงไป เฉยๆ เลย ถืืออะไรๆอยู่ก็ล่วงไปเอง โดยที่มือก็ไม่มีแรง ดูเหมืือนโรคนี้ ขี้อ้อนนะคะ แต่ต้องเข้าใจคนเป็นนะคะ ทุกวันนี้ดิฉันเองมือเท้าก็กระตุก ไม่รู้เป็นอะไร มันเลยทำให้ดิฉันคิดไปว่าดิฉันจะเป็นโรคไตเพิ่มขึ้นอีก หากดิฉันขอพรได้หนึ่งข้อ ดิฉันจะขอไม่ให้คนที่อยู่ด้วยกับเรา(แม่) ลำบากอีกเลยกับชีวิตของดิฉัน หากจะเป็นอะไรอีกก็ให้มันตายๆ ไปเลยทีเดียว ฝากให้กำลังใจแฟนคุณด้วยนะคะ อย่างน้อยมีคนที่เค้าเป็นมากกว่าคุณสามีของคุณน่ะค่ะ สรุป....สุดท้ายคุณพาเค้าไปทำบุญมากๆ เป็นดีค่ะ

สามีเก่าดิฉัน ที่มีลูกด้วยกัน เกิดอุบัติเหตุขับรถชน เมื่อ 29 มิย 55 ต้องผ่าตัดเอาสมองซีกขวาออก ตอนนี้ใส่กระโหลกเทียมแล้ว ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีแต่ตาเท่านั้นที่ตอบสนอง ตอนนี้พักฟื้นที่บ้าน เจาะคอ และต้องให้อาหารทางสายยาง ผ่านช่องท้อง เห็นแล้วปวดใจมาก ดูเค้าทรมานมากเหลือเกิน อยากกลับไปดูแลอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากภรรยาใหม่เค้ายังอยู่ ได้แต่ส่งลูกไปเยี่ยม ช่วงเวลาหยุดเรียนเท่านั้น ดิฉันได้แต่เสียใจ สงสารเค้าเหลือเกิน กังวลแต่ว่าเค้าจะกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิมรึไม่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน หากภรรยาเค้าไม่อยู่ รึหายไปเมื่อไหร่ ดิฉันจะรีบกลับไปดูแลเค้าทันที และคราวนี้จะไม่ยอมจากเค้าไปไหนอีกเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท