ชื่อโครงการ
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดเก็บข้อมูลสถานะบุคคลในพื้นที่บ้านเวียงพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
หลักการและเหตุผล
หลักการทั่วไปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ปฏิญญาสากลหรืออนุสัญญาแห่งองค์การสหประชาชาติรับรอง และประเทศไทยร่วมเป็นภาคี เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนพึงได้รับโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ โดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลนั้นๆ จะเป็นคนสัญชาติไทยหรือไม่ เช่น คนต่างด้าว คนไร้รัฐ คนไร้สัญชาติ ชนกลุ่มน้อย ในฐานะที่เป็นมนุษย์และอาศัยในราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าชั่วคราวหรือถาวร ย่อมได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับชนชาวไทย เพียงแต่บุคคลดังกล่าวจะกล่าวอ้างสิทธิตามกฏหมายทำนองเดียวกับชนชาวไทยมิได้ ในปัจจุบันเรายังพบปัญหาต่างๆอันเกี่ยวกับความไร้สัญชาติทางด้านกฎหมาย (De Jure Stateless) โดยเหตุดังกล่าวก่อให้เกิดสภาพปัญหาการให้ความคุ้มครองกับเด็ก เด็กที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนตามกฎหมายภายใน ซึ่งตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กการสร้างให้เด็กมีสถานะที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อไปสู่สิทธิในระดับต่างๆ ที่พึงจะได้รับ และ เด็กทุกๆคนจะมีสถานะที่ชัดเจน ซึ่งจะเป็นสัญชาติไหนก็ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในสิทธิของเด็กในอนาคตต่อไป
ปัจจุบันสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ เป็นบ้านที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูเด็กกำพร้า เด็กถูกทอดทิ้ง ทั่วทั้ง 17 จังหวัดในภาคเหนือ โดยเด็กส่วนใหญ่ประสบกับปัญหาขาดการอุปการะเลี้ยงดู หรือผลกระทบจากครอบครัวที่ติดเชื้อเอดส์ และอีกหลายปัญหาสำคัญ ทำให้ทั้งเด็กชายและหญิงอายุตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งถึงอายุ 6 ปี และ เด็กหญิง อายุ 7 – 18 ปี อยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูโดยบ้านเวียงพิงค์ ซึ่งมีเด็กจำนวนหนึ่งที่เป็นเด็กที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือไม่มีสัญชาติ เพื่อนำไปสู่ปัญหาการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในระดับต่างๆ เช่น สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาล หรือ สิทธิในการได้รับการศึกษา เป็นต้น ปัญหาของสถานะบุคคลที่พบจากการสอบถามในเบื้องต้นพบว่าเด็กที่บ้านเวียงพิงค์มาจาก มารดาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อมาอาศัยทำงานในประเทศไทย แล้วให้กำเนิดบุตร ภายหลังจึงนำมาฝากให้สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์อุปการะเลี้ยงดู หรือเด็กที่ไม่ทราบบุพการีใด โดยมีผู้พบเห็นได้นำส่งบ้านเวียงพิงค์เพื่ออุปการะเลี้ยงดู[1] เป็นต้น โดยเด็กหลายคนก็ยังไม่ได้รับการแจ้งเกิดหรือจัดการอย่างหนึ่งใดตามกฎหมาย กระทั่งทางสถานสงเคราะห์เองได้เพิ่มชื่อเด็กไว้ในทะเบียนบ้านของสถานสงเคราะห์บ้านเวียงพิงค์แล้ว เด็กบางรายก็ยังตกอยู่ในดุลพินิจทางอำเภอแม่ริมถึงการได้สัญชาติไทย โดยเด็กที่เข้าอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านของสถานสงเคราะห์บ้านเวียงพิงค์ระยะหนึ่งมาแล้วจะมีตัวเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แต่ด้วยเหตุนี้แม้จะได้รับการศึกษาเท่าเทียมกับเด็กที่มีสัญชาติไทยสูงถึงระดับอุดมศึกษา แต่ก็ยังไม่อาจได้รับสิทธินั้นทัดเทียมเด็กที่มีสัญชาติไทยได้ ส่งผลให้ขาดโอกาสบางประการที่รัฐให้ความคุ้มครองขาดหายไป
ดังนั้น “ชมรมหัวรถไฟ” ภายใต้สังกัดคณะนิติศาสตร์ที่มีฐานเป็นผู้ผลิตนักกฎหมายที่ดีต่อสังคมซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะบุคคลตามกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือและรับใช้สังคม เพื่อพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและสร้างความสมานฉันท์ระหว่างนักศึกษาในคณะ จึงประสงค์จะขอจัดโครงการช่วยเหลือบุคคลที่ประสบปัญหาสถานะตามกฎหมาย โดยจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดเก็บข้อมูลสถานะบุคคลในพื้นที่บ้านเวียงพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพัฒนานักศึกษาและนับเป็นการบริการทางด้านวิชาการแก่สังคมอีกด้วย
นอกจากนี้เพื่อให้การดำเนินการบรรลุประสงค์ของโครงการในการช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะบุคคลตามกฎหมาย ทางชมรมจึงมีความประสงค์ที่จะขอจัดโครงการอบรมนักศึกษากฎหมายเพื่อเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายสถานะบุคคล อันเป็นการพัฒนานักศึกษาและเพื่อการปฏิบัติงานในพื้นที่จริงนักศึกษาเกิดความเข้าใจและสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มีประสิทธิภาพถูกต้องตามระบบ และตรงต่อการช่วยเหลืออย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นการพัฒนากระบวนความคิดของนักศึกษาอย่างเป็นระบบ และฝึกให้มีทักษะกับการปรับข้อกฎหมายเข้ากับสิ่งที่ศึกษาจากปัญหา และเป็นการปลูกจิตใต้สำนึกของนักศึกษาที่จะมุ่งเป็นนักกฎหมายที่ดีในอนาคตต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้และความเข้าใจในการจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่บ้านเด็กเวียงพิงค์
2. เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจถึงปัญหาของบุคคลที่มีปัญหาสถานะบุคคลตามกฎหมาย
3. เพื่อการเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาต่อไป
4. เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม
วิธีดำเนินการ
1. จัดการประชุมเพื่อเปิดโครงการและจัดโครงการตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
2. ประสานผู้ชำนาญและมีประสบการณ์ในเนื้อหาที่จะทำการเปิดโครงการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมแก่ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ
3. รับสมัครนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ และจัดหาสถานที่เพื่อดำเนินกิจกรรมอบรมนักศึกษา
4. จัดเก็บข้อมูลสถานะบุคคลในพื้นที่บ้านเวียงพิงค์
5. สรุปโครงการโดยจัดเป็นทำเอกสารและนำส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานหรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง(ถ้าจำเป็น)ต่อไป
ระยะเวลาดำเนินการ
วันศุกร์ที่ 26 ถึง วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552 “อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดเก็บข้อมูลสถานะบุคคลในพื้นที่บ้านเวียงพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่”
วันจันทร์ที่ 6 ถึง วันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2552 จัดเก็บข้อมูลสถานะบุคคลในพื้นที่บ้านเวียงพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่”
กลุ่มเป้าหมาย
แกนนำนักศึกษาจากการรับสมัคร จำนวน ๓๐ คน
สถานที่ดำเนินการ
ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ในการจัดเก็บข้อมูลปัญหาสถานะบุคคล บ้านเด็กเวียงพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ผู้รับผิดชอบโครงการ
ชมรมหัวรถไฟ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักศึกษามีทักษะและเข้าใจในการจัดเก็บข้อมูลได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์โครงการ
2. นักศึกษาที่เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการกฎหมายสถานะบุคคล เข้าใจสภาพของปัญหาและกฎหมายที่มีผลในประเทศไทย
3. นักศึกษาสามารถจัดเก็บข้อมูลให้ถูกต้องและเกิดประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหา
4. เป็นการช่วยเหลือและพัฒนาสังคม
โครงการดีค่ะ เด็กๆน่าจะได้รับประโยชน์มากค่ะ