เด็กไทยฉลาดแน่พ่อแม่ต้อง 11-7 อย่าง


เด็กไทยฉลาด

พอดี ผมได้อ่านเจอบทความที่น่าสนใจ จึงนำมาฝากกันครับ  (แบบว่า.. เก็บไว้อ่านเอง นะครับ เพื่ออนาคต )

เด็กไทยฉลาดแน่พ่อแม่ต้อง 11-7 อย่าง

                จากประสบการทำงานด้านเด็กมากว่า30 ปี ทำให้ เรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กได้ข้อสรุปว่าปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ถ้า"สถาบันครอบครัว เข้มแข็ง และเกิดขึ้นได้ถ้ามีสิ่งยึดเหนี่ยวสมาชิกภายในบ้านไว้เป็นหนึ่ง

ซึ่งการนำ "หนังสือ" มาเป็นเครื่องมือสานสัมพันธ์ระหว่าง พ่อ แม่ ลูก คือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กๆแล้วช่วยช่วยให้เด็กฉลาด สติปัญญางอกเงย ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาแล้ว ยังเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ ลูกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย

                เรืองศักดิ์ แนะนำคัมภีร์ที่กลั่นมาจากประสบการณ์48 ปี ให้พ่อ แม่สร้างลูกรักให้เป็นนักอ่านว่า ต้อง 11 และ 7 อย่าด้วยกันคือ พ่อแม่ ต้องเป็นแบบอย่างนักอ่านที่ดี ต้องมีมุมมองหนังสือในบ้าน ต้องเลือกสรรรหนังสือสมวัย ต้องใส่ใจชวนไปอ่าน ต้องชื่นชมกันและกันเสมอ ต้องนำเสนออย่างมีความสุข ต้องหากิจกรรมสนุกๆมาประกอบ ต้องชอบต่อยอดความคิด ต้องไม่คิดถึงวัย ต้องใช้เวลาพอดี และต้องมีระเบียบชีวิต ส่วน 7 อย่าประกอบด้วย คือ อย่ายัดเยียด อย่าหวังสูง อย่ากังวล อย่าจ้องสอน อย่าถามมาก อย่าาขัดคอ และอย่าเบื่อหน่าย

                ทั้งหมดนี้เกิดจากการสังเคราะห์และวิเคราะห์จากประสบการณ์ตรงที่"เรืองศักดิ์" ทำงานคลุกคลีกับเด็กมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งการสร้างลูกรักให้เป็นนักอ่าน จะสมบูรณ์มากขึ้น หากพ่อ แม่ ได้จัดกิจกรรมเสริมประกอบด้วย มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก จึงได้ร่วมกับพันธะมิตร จัดงาน "ร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ" เนื่องในวันหนังสือเด็กแห่งชาติ 2 เม.ย.ขึ้นระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-5 เม.ย.ลานสานฝัน ทีเค ปาร์ค ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิร์ล โดยรวมกิจกรรมต่างๆของหน่วยงางานเด็กทั้งหมด ให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่านต่างๆที่จัดไว้ได้โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย

                กนกพร ศรีรัตนาโสภณ อายุ37 ปี คุณแม่น้อง นุ่น-ศศิกานต์ บวรรุ่งสิริกุล อายุ6 ปี นร.ชั้นป.1/2 ร.ร.อัสสัมชัญศึกษา กทม.ที่อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เกิด จนส่งผลให้น้องนุ่น มีทักษะการเล่านิทานดีเยี่ยม กระทั่งได้รับรับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประเภทเดี่ยวอายุ 6-9 ปี โครงการลับสมองประลองปัญญาสรรหาหนูน้อยเล่านิทานประจำปี 2551 จากการเล่านิทานเรื่อง "หนูน้อยหมวกแดง " โดยจะไปเล่านิทานโชว์ในวันที่ 2 เม.ย.ด้วย กนกพร ยืนยันว่าการเล่านิทานให้ลูกฟังทำให้เด็กฉลาด มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สูงมาก ซึ่งตั้งใจว่าส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านอย่างต่อเนื่องตลอดไป

เช่นเดียวกับครอบครัว"อินสตุล"ที่ทั้งบุษยวรรณและ พิษณุ เล่านิทานให้น้องไอเดีย-ดญ.พชรมน อายุ 5 ขวบ ร.ร.อนุบาลจารุเวช กทม.และปริญดา-โอปอและน้องไอเดียเล่านิทานเรื่อง "ลูกไก่แสนกล" ได้รางวัลชนะเลิศการเล่านิทานประเภทเดี่ยวอายุ 4-6 ปี จากโครงการเดียวกับ น้องนุ่น เพราะได้รับการปลูกฝังให้รักการอ่าน ด้วยการเล่านิทานให้ฟังตั้งแต่เกิดเช่นกัน

คุณแม่บุษยวรรณเล่าว่าการเล่านิทานให้เด็กฟังจะมีประโยชน์ต่อพัฒนาการ และความคิดสร้างสรรค์ของเด็กมาก จากการพูดคุยกับครูประจำชั้นทำให้รู้ว่าลูกมีทักษะการอ่าน การใช้ภาษาได้ดีเลยทีเดียว

สำหรับสนใจคัมภีร์ "สร้างลูกรักให้เป็นนักอ่าน" ติดตามได้ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่37 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มี.ค.-6 เม.ย.ที่ห้อง Meeting Room 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เวลา 13.00-16.00 น.วันที่ 3 เม.ย.งานนี้ห้ามพลาด เพราะในงานยังมีหนังสือดีๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น อัจฉริยะด้วยมือพ่อแม่หรือ คู่มือเลี้ยงลูก เขียนโดยศ.(เกียรติคุณ) แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา ของสำนักพิมพ์รักลูกบุ๊คส์ หรือ การพัฒนาการอ่านของลูกโดยนิตยาประพฤติกิจ ของสำนักพิม์ข้าวฟ่าง รวมทั้งหนังสือดีเด่นที่ผ่านการคัดสรรของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อีกจำนวนมาก งานนี้ห้ามพลาด

เรื่องโดย : หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ

ขอบคุณที่มาจาก คมชัดลึก

คำสำคัญ (Tags): #เด็กไทย
หมายเลขบันทึก: 259784เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2009 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท