การประชุมคณะกรรมการประสานงานประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวานนี้ วันพุธที่ 26 เมษายน 49 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุม 1 อาคารบรมราชกุมารี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งพอจะสรุปประเด็นสำคัญ พอสังเขปได้ดังนี้
วาระเพื่อพิจารณา 4.1 การจัดทำคู่มือการประกันคุณภาพการศึกษา ปีการศึกษา 2549
เพื่อให้การดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา ปีการศึกษา 2549 (วงรอบการประเมินปีการศึกษา 2548 ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2548 ถึง 31 พฤษภาคม 2549) ของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงจำเป็นต้องมีคู่มือการประกันคุณภาพ คณะกรรมการจึงได้ร่วมกันพิจารณา ซึ่งมีผลคือ
มติ
-
เห็นชอบให้ศูนย์พัฒนาและประกันคุณภาพ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการจัดทำ
-
ให้คู่มือมี 2 เล่มคือ 1) สำหรับหน่วยงานจัดการเรียนการสอน และ 2) สำหรับหน่วยงานสนับสนุนการเรียนการสอน
-
คู่มือสำหรับหน่วยงานจัดการเรียนการสอน จะนำ 9 มาตรฐาน 41 ตัวบ่งชี้ ของ สกอ. ปรับรวมกับ 7 มาตรฐาน 48 ตัวบ่งชี้ ของ สมศ. เป็นแนวทาง
-
คู่มือสำหรับหน่วยงานสนับสนุนการเรียนการสอน จะมี 7 มาตรฐาน คือ 1) ด้านปรัชญา ปณิธาน วัตถุประสงค์และแผนงาน 2) ด้านภารกิจหลักของหน่วยงาน 3) ด้านการวิจัย 4) ด้านการบริการวิชาการ 5) ด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม 6) ด้านการพัฒนาสถาบันและบุคลากร และ 7) ด้านการประกันคุณภาพภายใน
วาระเพื่อพิจารณา 4.2 เกณฑ์การประเมินคุณภาพ
ศูนย์พัฒนาและประกันคุณภาพได้นำเสนอเกณฑ์การประเมิน แบบ 7 ระดับ (โดยแนวคิดมาจาก สกอ. และ สมศ. ปรับรวมเข้าด้วยกัน) ดังนี้
- P (Plan)
- มี 1+ D (Do)
- มี 2 + C (Check)
- มี 3 + A (Act)
- มี 4 + ผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ
- มี 4 + ผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ขั้นกลาง
- มี 4 + ผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ขั้นสูง
มติ
- ที่ประชุมขอให้แยกออกเป็น 2 มิติ คือ มิติที่ 1 เรื่องของกระบวนการ ตั้งแต่ 1-4 (แนวทางของ สกอ.) และมิติที่ 2 เรื่องของผลสัมฤทธิ์การดำเนินงาน ตั้งแต่ 5-7 (แนวทางของ สมศ.)
- เกณฑ์การประเมินดังกล่าวให้ใช้กับทั้งของหน่วยงานจัดการเรียนการสอน และหน่วยงานสนับสนุนการเรียนการสอน (ทุกหน่วยงาน)
วาระเพื่อพิจารณา 4.3 การจัดกลุ่มสาขา มมส. เพื่อรับรองมาตรฐานการศึกษา
เนื่องจากการประเมินคุณภาพภายนอกจาก สมศ. รอบที่ 2 นี้ จะมีการรับรองมาตรฐานการศึกษาทั้งในระดับสถาบัน และระดับกลุ่มสาขา โดย สมศ. ให้สถาบันอุดมศึกษาจัดกลุ่มสาขาของตัวเอง ให้เข้ากับกลุ่มที่ สมศ. กำหนด 10 กลุ่ม
มติ
ที่ประชุมให้คณะวิชา ไปพิจารณาสาขาวิชาของตัวเอง เพื่อจัดเข้ากลุ่มตามที่ สมศ. กำหนด และยืนยันกลับมายังศูนย์พัฒนาฯ อีกครั้ง
ประเด็นอื่น ๆ
ในการประชุมครั้งนี้มีหลายข้อคำถามจากหน่วยงานที่มีข้อสงสัย/ ข้อสังเกตุที่คาใจสำหรับการประเมินรอบที่ 2 ซึ่งศูนย์ก็จะรับไปหาคำตอบมาให้ เช่น
-
ข้อมูลต่าง ๆ ของศูนย์บริการวิชาการภายนอก ที่มหาวิทยาลัยเปิดสอนในต่างจังหวัด หลายศูนย์ จะจับไปไว้ที่ใด
-
สำหรับหน่วยงานเสริมศึกษา (วิสาหกิจ เช่น ศูนย์หนังสือ) จะใช้วงรอบอะไรในการเขียน SAR (ปีการศึกษา หรือ ปีงบประมาณ)
-
ในการรวบรวมข้อมูลระดับสถาบัน เพื่อรับการประเมินคุณภาพภายนอก จะใช้วิธีการใดในการรวบรวมข้อมูล เพื่อลดภาระให้กับคณะ
-
สถาบันที่ไม่ใช้คณะวิชา แต่มีการผลิตบัณฑิต เช่น สถาบันวิจัยวลัยรุกเวช มีการเปิดสอนในหลักสูตร ปร.ด.ความหลากหลายทางชีวภาพ จะจับไปไว้อย่างไร
เป็นที่น่าหนักใจในการประเมินภายนอกรอบที่ 2 แม้กระทั้ง สมศ. ซึ่งเป็นผู้ที่จัดให้มีการประเมิน ก็ยังไม่มีความชัดเจนในหลายเรื่อง เช่น การจัดกลุ่มสาขา รายละเอียดของตัวบ่งชี้ ฯลฯ ทำให้ผู้ที่รับผิดชอบในระดับสถาบันอุดมศึกษา ต้องคาดเดาและหาแนวทางที่คิดว่าจะใช่เอาเอง เพราะถ้าจะรอแต่ สมศ. แล้ว กระบวนการประกันคุณภาพภายในก็คงต้องหยุดชะงักไป ดังนั้นแนวทางการประกันคุณภาพภายใน ที่ศูนย์พัฒนาและประกันคุณภาพกำลังดำเนินการอยู่ คือ ดำเนินการภายในให้ต่อเนื่องต่อไป และพยายามให้ใกล้เคียงกับ สมศ. และ สกอ. ต้องการมากที่สุดเท่าจะทำได้ ในขณะที่ทั้ง 2 สถาบันยังไม่มีข้อมูลยุติสุดท้ายให้กับมหาวิทยาลัย
KPN